ตั้งแต่เด็กอิงค์ได้บทเรียนจากคำว่า จาก อยู่ 2 ครั้ง จากแรกคือ การจากไปของพ่อแท้ ๆ ที่ทำให้เธอได้เรียนรู้ที่จะก้าวมาเป็นหัวหน้าครอบครัวในฐานะพี่สาวคนโต และจากที่สองคือ จากบ้านเกิดไปสร้างโอกาสให้ตัวเองที่ประเทศจีนตัวคนเดียว
“ฟ้าเขาลิขิตมาแล้ว เราทำอะไรไม่ได้นอกจากสู้ต่อ ตอนนั้นอิงค์หาเงินได้จากการไปร้องเพลงในงานประชุมแต่ร้องไปได้สักพักก็คิดได้ว่า ถ้าเราจะใช้ชีวิตด้วยการรับจ้างร้องเพลงไปวัน ๆ อนาคตเราไม่ไกลแน่ เรามีแม่มีน้องให้เลี้ยงดู อิงค์เลยตัดสินใจไปเรียนที่ประเทศจีน”
แรก ๆ อิงค์หวังว่าแค่ได้ภาษาจีนก็น่าจะพอแล้ว แต่โชคชะตานำพาเธอให้ได้เฉิดฉายจนได้ฉายาเงาเสียงของเติ้งลี่จวิน “เราไปขอร้องเพลงอยู่ที่ภัตตาคารของเติ้งลี่จวินทุกวันเสาร์ ขอเขาร้องฟรี ๆ ไม่เอาตังค์เลยอยู่เป็นปี จนมีแฟนคลับ และพวกเขาบอกให้เราไปประกวด The Voice China ซึ่งเราก็ไป แต่ไม่มีคนกดให้เราเลย”
แต่เพราะเสียงเพราะ ๆ ทั้งที่อายุยังน้อยของเธอเป็นที่ประทับใจของคนจีน จึงทำให้ทางรายการต้องติดต่อให้เธอกลับมาที่เวทีอีกครั้งและครั้งนี้ก็ทำให้เธอเข้าสู่รอบ 4 คนสุดท้ายของทีม และเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกจากผู้สมัครเกือบล้านคน
“เราเหมือนเต่าที่ค่อย ๆ คลาน แต่เราไม่เคยหยุด การร้องเพลงจีนมันสำคัญที่สำเนียง ถ้าใครอยากจะฝึก อิงค์แนะนำว่าให้เริ่มฝึกจากเพลงง่าย ๆ ก่อน เช่น เถียน มี่ มี่ หรือเพลงพระจันทร์แทนใจฉัน อย่าคิดสั้น ๆ ว่าเราเป็นเด็กธรรมดาแล้วจะไปไกลไม่ได้ คุณไปได้แน่นอนถ้าตั้งใจ ยิ่งเดี๋ยวนี้รายการประกวดร้องเพลงที่ไทยเยอะมาก โอกาสมากมาย มันอาจจะเหนื่อยบ้างท้อบ้าง แต่มันจะคุ้มในตอนท้าย”
การจัดคอนเสิร์ตในเมืองไทยครั้งนี้ เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นของอิงค์ เพราะยังมีอีกหลายคอนเสิร์ตในต่างประเทศที่รอเธออยู่ ทั้งแคนาดา, สิงคโปร์, อินโดนีเซีย, ฮ่องกง, เซี่ยงไฮ้ และเมืองต่าง ๆ ในจีน
เรื่องน่ารู้ของอิ้งค์ ♦ อิงค์ชื่นชอบการร้องเพลงตั้งแต่ 3 ขวบ ♦ ฉายาจีนของอิงค์คือ หล่างกาลาหมู่ แปลว่า นางฟ้า ♦ อิงค์ไม่ได้สนใจแค่เพลงจีน แต่เธอฟังเพลงเเร็ป เพลงเกาหลี และเพลงสากลด้วย ♦ เวลาเครียดอิงค์จะชอบเล่นเกมยิงปืนหรือเกมแอคชั่นพักสมอง ♦ เทคนิคการรักษาเสียงของอิงค์คือ ไม่ดื่มน้ำเย็น ♦ คอนเสิร์ตครั้งแรกในเมืองไทยของอิงค์จัดที่เมืองไทยรัชดาลัย เธียเตอร์ ในวันที่ 19-20 ม.ค. 2562 |
เรื่อง : วัลญา นิ่มนวลศรี
ภาพ : นพนก