ผมก็เป็นเด็กจากต่างจังหวัดคนหนึ่งที่มีความฝันอยากจะเป็นนักฟุตบอลแต่ด้วยปัจจัยหลาย ๆ อย่าง ก็เลยมองว่านักฟุตบอลมันไกลไป ก็เลยหันมาสนใจที่อาชีพวิทยาศาสตร์การกีฬา แต่อาชีพนี้ด้วยความที่่่่่่่่่่่่่่่่่สายงานมันยังไม่เป็นที่สนใจในไทย ทำให้การเรียนรู้มันยาก พอมาเจอโครงการนี้ ทำให้ผมจุดประกายฝันให้มันลุกขึ้นเพิ่มอีก ด้วยการส่งใบสมัคร " ทำ ก่อน ฝัน " และยิ่งไปกว่าการส่งใบสมัครคือ มีพี่ ผญ. โทรไปหาผม ว่าผมติดโครงการมันทำให้ผมรู้สึกดีใจ และเตรียมตัวที่จะมาทำในสิ่งที่รักและสนใจ กับสโมสร true bangkok united ในครั้งนีี้
ฝึกงานวันแรก :
ก็สำหรััับวันแรกก็มีการเข้าไปเล่นเวทเทรนนิ่ง
กับทีมชุด B ของ BUFC ซึ่งภายในนั้นก็จะมี ทีมงานสตาฟโค้ช มากมาย พี่สตาฟ ก็ให้เราศึกษาโดยการดูพี่ ๆ เขานำวอร์มอัพ จากช้า ๆ ไปเร็ว ๆ จากหยุดนิ่ง ไปเคลื่อนที่หลังจากที่พวกพี่สตาฟ แจกงานให้นักเตะ พี่สตาฟก็พาเราไปเรียนรู้ว่า วิทยาศาสตร์การกีฬาในทีมฟุตบอล มันคืออะไร และเป็นยังไง พาไปดูการเล่นเวทเทรนนิ่ง ของนักกีฬาแต่ล่ะคน ว่าควรเสริมตรงไหน แล้วถ้าเรามาทำงานตรงนี้เรา จะมีหน้าที่ยังไง กล้ามเนื้อมันมีอะไรบ้าง มีหน้าที่อะไร การเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อเป็นยังไง แล้วในมหาลัยจะต้องเรียนอะไรบ้าง หลังจากนั้นพี่สตาฟก็ให้ดูการยืดหลังจากออกกำลังกาย
ฝึกวันที่สอง: ไม่มีการฝึก
ฝึกงานวันที่สาม:
วันนี้ได้มีโอกาส ลงภาคสนาม ที่สนามฝึกซ้อมของ BUFC ซึ่งก็จะมีทีมงานอีกส่่่่วนหนึ่งที่เพิ่มขึ้น พี่ ๆ ทีมงานก็ต้อนรับอย่างอบอุ่น พี่สตาฟก็ให้เราเปลี่่ยนชุดเป็นชุดกีฬา ก็ได้สอนเรื่อง Anatomy และ กระดูกต่าง ๆ ให้เรา พร้้อมแนะนำวิธีการเรียนต่อมหาลัยและเล่าประสบการณ์ หลังจากนั้นก็แจกงานให้เราวางกรวย และคุมนักกีฬาวิ่ง พร้อมแจกท่่่าทาง พอฝึกซ้อมเสร็จก็มาอธิบาย หลักการซ้อมต่าง ๆ ให้ฟัง
ฝึกงานวันที่สี่:
วันนี้ก็มีโอกาสได้ไปฝึกงานกับทีมชุดใหญ่ และได้ไปดูประสบการณ์การซ้อม ที่มันยิ่งใหญ่กว่าเดิม เพราะ BUFC อยู่อันดับสองของไทยลีกตอนนี้ พอไปถึงพี่เลี้ยงก็ให้เราแต่งตัว และแจกงาน ให้เราศึกษา การฝึกซ้อมและการทำงานของนัักวิทยาศาสตร์การกีฬา หลังจากซ้อมเสร็จพี่เลี้ยงก็มาสรุปพร้อมอวยพร
" พอผมได้มาเข้าโครงการนี้ทำให้ผมรู้ว่าผมควร จะทำยังไงต่อกับความฝันของผม "
จากคำพูดของพี่โป้ง " โรงเรียนคือพื้นฐานของมหาลัย มหาลัยคือพื้นฐานของการทำงาน "