สวัสดีค่ะ สำหรับนักเรียนแบบเรานั้นความฝันก็มีอยู่ไม่กี่อย่าง หนึ่งในนั้นคือการได้ทำงานในอาชีพที่เราอยากทำ และเชื่อว่าตอนเด็ก ๆ หลาย ๆ คนก็คงเคยคิดอยากจะเป็นเชฟกัน ไม่ว่าจะเป็นเชฟขนมหวาน หรือเชฟอาหาร เราก็เป็นหนึ่งในนั้น ที่อยากจะมีโอกาสทำงานในห้องครัว คอยทำอาหารให้ลูกค้า มีร้านอาหารเป็นของตัวเองสักครั้ง แล้วเราก็ได้รู้จักกับโครงการทำก่อนฝันของทรูปลูกปัญญา ในโครงการมีอาชีพที่หลากหลายให้เราได้เลือกและลองทำ เราก็ได้สมัคร ซึ่งด้วยความที่เราชอบทำอาหารอยู่แล้วก็เลยตกลงที่จะมาลองฝึกงานในโครงการนี้ ถึงโครงการนี้จะใช้เวลาแค่ 4 วันในการฝึกแต่เราก็ถือว่าได้ประสบการณ์ในการทำงานที่อาจจะหาได้อยากในเด็กมัธยมปลายแบบเรา สรุปแล้วเราก็ได้ไปฝึกงานที่ร้านอาหาร โบ.ลาน ที่เป็นร้านอาหารไทย
อาชีพเชฟส่วนมากคนก็จะคิดว่าทำอาหารอย่างเดียว เมื่อก่อนเราก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน แต่พอโตขึ้นถึงได้รู้ว่าการที่เราเป็นเชฟมันมีอะไรมากกว่าการทำอาหารนะ! การที่เราจะเป็นเชฟ นอกจากจะคอยทำอาหารแล้วก็ต้องคอยเช็คของด้วยว่าของยังเหลือเท่าไหร่ ต้องสั่งเพิ่มหรือเปล่า รวมไปถึงการควมคุมปริมาณในการทำอาหาร เพราะถ้าเอาออกมาทำมากเกินไปก็จะเหลือค้างคืน หรือถ้าทำน้อยไปก็อาจจะไม่เพียงพอต่อปริมาณของลูกค้าที่เข้ามาในแต่ละวัน และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการทำความสะอาด ทุก section จะต้องคอยจัดเก็บให้สะอาดหลังจากที่เตรียมเครื่องปรุงเสร็จแล้ว เพราะนอกจากจะทำให้ครัวดูน่ามองแล้ว ยังสะดวกต่อการวางของหรือหาของได้ง่ายขึ้น แต่ละ section ก็จะมีหน้าที่ต่าง ๆ กันออกไป ถ้าเป็น section ที่เป็นอาหารคาวต่าง ๆ ก็จะต้องเตรียมเครื่องปรุงและวัตถุดิบให้พร้อม ส่วน section ขนมหวาน ก็จะเตรียมของหวานต่าง ๆ รวมไปถึง snack ( ของทานเล่น )
ที่ร้านอาหารโบ.ลานจะเข้างานตอนประมาณบ่ายสอง สำหรับเราเราจะไปก่อนประมาณ 30 นาทีเผื่อเวลาแต่งตัวด้วยเพราะเวลาถึงร้านพี่ ๆ ก็จะเตรียมชุดเอาไว้ให้ พอเปลี่ยนชุดเสร็จก็จะลงมาที่ครัวเพื่อช่วยพี่ ๆ เตรียมของสำหรับการทำอาหารในแต่ละคืน และพี่ ๆ จะคอยสอนว่าต้องทำยังไงและคอยเดินมาดูความเรียบร้อยเรื่อย ๆ หากสงสัยตรงไหนก็สามารถถามได้ตลอด เมื่อเราทำงานเสร็จพี่ ๆ ก็จะคอยบอกเสมอว่าต้องเคลียร์ section ให้เรียบร้อย และพอถึงเวลา 16.40 น. พี่ ๆ ก็จะเรียกไปทานข้าวเย็นและพอเวลา 17.00 น. ถึงกลับมาเตรียมของต่อจนเกือบจะ 18.00 น. ทุกคนจะเริ่ม เคลียร์ section ให้สะอาด พอเวลาประมาณ 18.00 น. เชฟก็จะเรียกทุกคนมา brief งานเพื่อที่จะแจ้งสิ่งที่ต้องการแก้ไข้ในเมื่อวานนี้ และต่อจากการ brief งานก็จะเป็น quote of the day ซึ่งจะเป็นพี่ ๆ เชฟผลัดกันเขียนคนละวันและพูดให้ทุกคนฟังก่อนเริ่มงาน ร้านโบ.ลานจะเปิดตอน 18.00 น.และจะมีลูกค้าเข้าครัวมาเพื่อชมและทาน first bite กันที่นี้ และเชฟจะเป็นคนอธิบายว่า first bite คืออะไร ทางร้านนั้นจะมีลูกค้าเข้ามาในครัวเรื่อยๆเพื่อชมและทาน first bite ในครัวจึงต้องสะอาดตลอดเวลาเพื่อให้ลูกค้าประทับใจ และงานในแต่ละวันก็จะคล้าย ๆ กันก็คือการเตรียมผักการทำขนมหวาน ซึ่งการทำแบบนี้ทำให้เราได้รู้ว่าการจะเป็นเชฟนั้นมันไม่ง่ายเลย เพราะเชฟดีแลนก็เคยพูดไว้ว่าเราจะต้องมีแผนในหัวตลอด ว่าเราจะทำอะไรต่อจากอะไรเพื่อความรวดเร็วและอาหารจะได้ออกเสิร์ฟพร้อมกันเพื่อให้การทานอาหารนั้นไม่ขาดตอน ซึ่งก็ทำให้เรารู้ว่าการเป็นเชฟไม่ใช่แค่การทำอาหารได้จริง ๆ พอใกล้เวลา 20.00 น. พี่ ๆ ก็จะให้เราเตรียมตัวกลับบ้าน และช่วงที่เรากำลังจะกลับบ้านก็จะเป็นช่วงเวลาที่ร้านยุ่งมากที่สุดแต่พี่ ๆ ก็ให้กลับเพราะเห็นว่ามันดึกแล้วถึงเราจะไม่ค่อยอยากกลับและรู้สึกสนุกอยู่ก็ตาม
เราว่าข้อนี้หลายคนคงสงสัยเหมือนเรา ว่าเชฟนี้มีข้อจำกัดด้วยหรอแล้วก็มีเครื่องหมายคำถามผุดขึ้นเต็มหัวเลยใช่มั้ย แต่ในความคิดเราทุกอาชีพก็คงมีข้อจำกัดเหมือนกันหมดแต่อยู่ที่ว่าเราจะมองให้ตรงนั้นเป็นข้อดีหรือข้อเสียมากกว่า อย่างเช่น พี่เชฟคนหนึ่งเคยบอกเราว่าการเป็นเชฟมันเหนื่อยนะ ถ้าไม่ชอบจริงคงทำไม่ได้ งานทุกงานก็เหมือนกันถ้าใจไม่รักจริงก็คงทำไม่ได้ แล้วพี่เขาก็บอกเราอีกว่าเนี่ยพี่เขาเพื่อนไม่เอาแล้ว เวลาชวนไปไหนก็ไม่ได้ไปด้วย เพราะเวลาทำงานไม่ตรงกัน พี่เขาทำงานกลางคืน ส่วนเพื่อนพี่เขาทำงานออฟฟิศ ซึ่งสำหรับเราหากมองในมุมกลับกัน ถึงแม้เพื่อนพี่เขาอาจจะไม่คบพี่เขาแล้ว แต่พอเวลาทำงานพี่เขาก็มีพี่ ๆ เชฟในครัวที่สามารถพูดคุยและให้คำปรึกษาได้ และพี่เขาก็ดู enjoy กับงานแล้วก็ดูมีความสุขมาก ๆ แค่นี้ก็คงพอแล้วเพราะพี่เขาก็ได้ทำในสิ่งที่เขารัก และพี่เขาก็มีความสุขกับงาน แต่นี้คือในมุมมองของเชฟทำงานร้านอาหารกะดึกนะ อย่าเพิ่งด่วนตัดสินกันไป เพราะข้อดีของเชฟก็ยังมีอีกเยอะ เช่นการเลือกวัตถุดิบในการทำและการเตรียมอาหาร ลักษณะนิสัยการเลือกวัตถุดิบก็จะติดตัวและทำให้เรากลายเป็นคนที่ละเอียดถี่ถ้วน และพิถีพิถันกับการเลือกวัตถุดิบมากขึ้นไม่ใช่แค่กับการทำอาหาร แต่อาจจะทำให้เราเป็นคนละเอียดขึ้นในทุก ๆ ด้านและอาจจะทำให้เราใจเย็นขึ้นด้วยเพราะการจะเป็นเชฟนั้นจะต้องใจเย็นและใส่ใจในทุก ๆ ขั้นตอนของการทำอาหาร และนี้ก็เป็นข้อดีและข้อจำกัดส่วนหนึ่งที่เราได้เรียนรู้จากการฝึกงานในครั้งนี้
อย่างที่เล่าไปในเบื้องต้นว่าในแต่ละวันพี่ ๆ เชฟจะผลัดกันเขียน quote of the day แถมสำหรับเรา เราว่าร้าน โบ.ลาน เป็นร้านอาหารไทยที่มี quote เต็มไปหมดตั้งแต่ห้องครัวยันห้องพักพนักงานเราถือว่าเป็นเรื่องดีมากๆ เหมือนเป็นเครื่องเตือนให้เราได้พัฒนาตัวเองอยู่ตลอด the best quote สำหรับเรา
( ความผิดพลาดมีไว้เพื่อเป็นบทเรียน ไม่ใช่เพื่อให้ผิดซ้ำอีก )
สุดท้ายนี้ก็ต้องขอขอบคุณทางทรูและทางร้านโบ.ลาน ที่ให้โอกาสเราได้เขาไปลองฝึกงานถึง 4 วัน แถมยังคอยดูแลและให้คำแนะนำตลอด แล้วก็ต้องขอบคุณทุก ๆ คนที่อ่านกันมาจนถึงตอนนี้ และเราก็อยากจะบอกว่าโอกาสแบบนี้ไม่ได้มีกันง่าย ๆ และโอกาสจะมาหาเราเมื่อไหร่ก็ได้เพราะอย่างนี้แล้วก็อย่าลืมทำตัวให้พร้อมตลอดเวลา เพราะโอกาสอาจจะมีแค่ครั้งเดียว และถ้าเราไม่พร้อมโอกาสที่อาจจะเป็นของเราก็จะหลุดลอยไปเป็นของคนอื่น เหมือนกับที่เรามาเจอโครงการของ ทำ ก่อน ฝัน ของทางทรูปลูกปัญญา เราเลยลองที่จะสมัครเพราะเราถือว่าเป็นโอกาสที่ดี ที่จะได้ทำความรู้จักและเรียนรู้อาชีพนั้นจริง ๆ