สวัสดีพี่ ๆ น้อง ๆ ทุก ๆ คนด้วยนะคะ ถ้าหากพูดถึงเด็กม.ปลายก็คงต้องยกประเด็นเรื่องการหาเส้นทางเดินต่อไปในอนาคตใช่มั้ยคะ เราก็ประสบปัญหานี้เหมือนกันค่ะ เรายังไม่รู้ตัวเองเลยว่าเราชอบอะไรกันแน่ จนวันหนึ่งเพื่อนของเราแนะนำโครงการ " ทำ ก่อน ฝัน The Dream Explorers " ถ้าให้พูดตามตรง เราก็ไม่เคยรู้จักโครงจากนี้มาก่อนเลยค่ะ หลักจากที่เพื่อนแนะนำมาเราก็ลองค้นหาข้อมูลดู จนได้รู้ว่าโครงการทำก่อนฝัน ของบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น เป็นโครงการที่รวบรวมอาชีพที่น่าสนใจมาให้น้อง ๆ ม.ปลายที่น่ารักอย่างเรา ๆ ได้ทดลองทำดู! เป็นไงล่ะ น่าสนใจสุด ๆ แล้วเราก็ลองดูอาชีพที่ปีนี้มีให้ทดลองงานจนเรามาสะดุดที่อาชีพครีเอทีฟนิทรรศการและพิพิธภัณฑ์ ซึ่งเราคิดว่าเป็นอาชีพที่น่าสนใจมาก ด้วยความที่เราชอบไปนิทรรศการต่าง ๆ อยู่แล้ว แต่เราก็ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่ามีอาชีพนี้อยู่บนโลกด้วยเหรอ เราเลยลองสมัครเข้าโครงการทำก่อนฝันในอาชีพครีเอทีฟนิทรรศการและพิพิธภัณฑ์ดูค่ะ ถ้าหากเพื่อน ๆ พร้อมที่จะรู้แล้วว่าอาชีพนี้เป็นยังไง งั้นเราไปอ่านกันเลยค่าาา
เพื่อน ๆ คงสงสัยกันใช่มั้ยคะว่างานนี้คืออะไร เป็นยังไง ทำงานยังไง ทำอะไรบ้าง เราก็เป็นคนหนึ่งที่เคยสงสัยเหมือนกันว่างานครีเอทีฟนิทรรศการและพิพิธภัณฑ์คืออะไร ขนาดลองเสิร์ช google แล้วยังไม่ได้คำตอบเลย แต่! เราจะมาตอบในบล็อกนี้นี่แหล่ะค่่ะ อาชีพครีเอทีฟนิทรรศการและพิพิธภัณฑ์ คือ งานที่ต้องใช้ทักษะทุกแขนงในการคิดสร้างสรรค์งานนิทรรศการ/พิพิธภัณฑ์ ต่าง ๆ ขึ้นมา นี่แหล่ะค่ะคือความหมายของอาชีพครีเอทีฟนิทรรศการและพิพิธภัณฑ์ในมุมมองของเรา แต่ไม่ต้องงงกันไปนะคะว่าเราพยายามจะสื่ออะไร เราอยากให้ทุกคนลองสัมผัสด้วยตัวเองดู
ในการเข้าร่วมโครงการนี้จะมีอยู่ประมาณ 3 ส่วน คือ 1. ปฐมนิเทศ (???) 2. ฝึกงาน 3. สรุปผล ซึ่งเราเอาบรรยากาศวันแรกมาฝากให้เพื่อน ๆ ดูด้วยนะคะ
ในวันแรกของเด็กเด๋อ ๆ คนหนึ่งที่เดินทางไม่เก่งอย่างเรา พอเห็นแผนที่ของที่ทำงานก็อึ้งไปเลยค่ะ อ้อ ในการฝึกงานในอาชีพนี้เรามีเพื่อนร่วมงานสุดน่ารักอีก 2 คน
เรากลับมาที่การเดินทางดีกว่าค่ะ เราแนะนำให้เพื่อน ๆ มาเจอกันที่ BTS อ่อนนุช ค่ะ หรือทางที่สามารถไป ถนนประเวศ 2 ได้
พอเรามาถึงที่ทำงานก็จะเจอพี่เลี้ยงชื่อพี่ฟ้า พี่เขาช่วยพาเราแนะนำกับพี่ ๆ ในบริษัทและแนะนำอะไรนิดหน่อยก่อนจะกลับไป เราและเพื่อนอีก 2 คนที่บริษัทน่ารักกันมาก ๆ ช่วยเหลือตลอด พอมาถึงช่วงพักกลางวันประมาณเที่ยงถึงบ่ายโมงก็ลงมาทานข้าวที่โรงอาหารค่ะ เราติดใจชาเย็นของที่นี่มาก ใครไปฝึกงานที่นี่แนะนำให้ลองค่ะ
หลังจากที่เราทานเสร็จก็ได้ออกไปดูงานนอกสถานที่ค่ะ เราได้ออกไปเก็บข้อมูลของสถานที่ที่เป็นหนึ่งในโครงการที่ที่บริษัทจะทำ และพี่ ๆ ก็ได้มอบหมายงานมาให้พวกเรา 3 คนทำค่ะ เกีี่ยวกับการออกความคิดเห็นในแบบเด็กสมัยใหม่
ในวันที่สองเราก็มาสรุปงานของเรากับเพื่อนที่ไปมาเมื่อวันแรกค่ะ และได้พี่อ้อม คอยช่วยเหลืออยู่ตลอดเวลา จนในบ่ายของวันที่สอง เราและเพื่อน ๆ ได้แยกกันไปทำงานในส่วนต่าง ๆ ของอาชีพครีเอทีฟนิทรรศการและพิพิธภัณฑ์ค่ะ ซึ่งของเราได้ไปอยู่กับพี่โบนัสที่เป็นครีเอทีฟที่มีความสามารถอีกคนหนึ่งเลย ในวันนั้นเราก็ได้ทดลองการทำงานดูค่ะ
ในวันที่สามเราได้ไปประชุมร่วมกับพี่ ๆ ในทีม ช่วยกันออกความคิดเห็นและปรับปรุงแก้ไข เราได้พี่ ๆ ช่วยแนะนำชี้แนะและแนะนำในเรื่องของขั้นตอนการทำงานมาเยอะเลยค่ะ ถือว่าได้ความรู้มากเลยทีเดียว
วันนี้เป็นวันที่เรารู้สึกว่าเรายังไม่อยากเลิกฝึกงานเลย เพราะว่าเป็นวันที่เราเริ่มคุ้นกับพี่ ๆ ในบริษัทและเริ่มทำงานเป็นเข้าที่เข้าทาง เรารู้สึกว่าการทำงานที่นี่ถึงจะเหนื่อยจากการเดินทางแต่ก็คุ้มมากถ้าแลกกับความรู้ที่ได้ ในวันนี้เราได้ช่วยพี่ ๆ ออกความคิดเห็นเกี่ยวกับโครงงานที่พี่ ๆ เขากำลังทำและก็ได้พี่เสื้อลายทางข้างบนแนะนำเรื่องเทคนิคการทำงาน ถ้าใครอยากรู้ว่าเทคนิคนั้นคืออะไร มาลองทำงานที่นี่กันดูนะคะ
อาชีพครีเอทีฟนิทรรศการและพิพิธภัณฑ์ในความคิดของฉัน : ในมุมมองที่เราเป็นคนที่ชอบเดินงานนิทรรศการ เราคิดว่าอาชีพครีเอทีฟนิทรรศการและพิพิธภัณฑ์เป็นอาชีพที่ไม่ใช่ว่าใคร ๆ ก็ทำได้ เพราะอาชีพนี้ต้องอาศัยหลาย ๆ ทักษะและอาศัยการทำงานร่วมกันเป็นทีมและในแต่ละงานต้องใช้ความคิดที่แตกต่างกันไป หลังจากที่ได้คุยกับพี่ ๆ ในทีมแล้วก็รู้สึกชื่นชมและนับถือในความสามารถของพี่ ๆ อาชีพครีเอทีฟนิทรรศการและพิพิธภัณฑ์นี้ คิดดูสิคะว่าต้องเจ๋งขนาดไหนถึงจัดงานออกมาได้เริศขนาดนี้
ถ้าเพื่อน ๆ กำลังสงสัยว่างานนี้ต้องใช้ทักษะอะไรบ้าง เราอยากจะบอกไว้ตรงนี้เลยค่ะว่าต้องใช้ทุกทักษะที่มีจริง ๆ แต่ทุก ๆ คนก็ไม่ได้เก่งไปเสียทุกเรื่องใช่ไหมคะ เพราะฉะนั้นในอาชีพครีเอทีฟนิทรรศการและพิพิธภัณฑ์นี้ ที่สำคัญที่สุดคือการทำงานร่วมกันเป็นทีมและชอบที่จะใฝ่หาความรู้รอบตัวอยู่เสมอ เป็นสิ่งที่เราคิดว่าสำคัญมาก ๆ กับงานนี้ เหมือนกับคำที่พี่เขาแนะนำมาว่า " ถึงจะทำงานดีขนาดไหน แต่ถ้ามนุษยสัมพันธ์แย่ก็ไม่รอด " เป็นคำพูดที่เราชอบมากเลยค่ะ
และสุดท้ายนี้เราต้องขออภัยมาใน ณ ที่นี่หากเราเขียนผิดพลาดประการใด และขอขอบคุณพี่ ๆ ทีมงานทุกคนที่ช่วยแนะนำสิ่งดี ๆ ให้ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา และพี่ ๆ ในบริษัทไรท์แมนทุก ๆ คน ขอบคุณมากจริง ๆ นะคะ และอยากฝากข้อคิดจากเราไว้ค่ะ " ทำก่อนฝัน ก่อนจะฝัน เราต้องนอน" ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงตอนนี้นะคะ 5555