It's never too late to become what you might have been
ไม่มีคำว่าสายเกินไป สำหรับการก้าวตามฝัน
เราเชื่อว่าทุกคนก็มีอาชีพในฝัน ฝันของแต่ละคนก็แตกต่างกันไป หรืออาจจะเหมือนกันก็ได้ แต่หากความฝันจะเกิดขึ้นจริงได้ ก็ต้องลงมือทำ บางฝันอาจสำเร็จโดยเร็ว บางฝันต้องใช้เวลานานถึงจะสำเร็จ สิ่งหนึ่งที่สามารถทำให้ฝันของตนสำเร็จได้ คือ การวางแผนชีวิตของตนเอง เปรียบเสมือนกับเรามีแผนที่ ที่จะนำพาตัวเองไปสู่ความสำเร็จในชีวิตอย่างที่เราหวังเอาไว้
สิ่งหนึ่งที่ผู้ใหญ่หลายคนชอบถาม เป็นคำถามเดิม ๆ แต่บางคนก็ยังตอบไม่ได้ คำถามนั้นคือ “ อยากทำอาชีพเป็นอะไร ? ” บางเวลาที่ไม่ได้ทำอะไร เราก็ตั้งคำถามกับตัวเอง ว่าตกลงแล้ว ในอนาคตเราจะเป็นอะไร จะประกอบอาชีพอะไร เราเชื่อว่าหลายคนคงค้นพบตัวเองเจอแล้ว หรือบางคนก็ยังไม่ค้นพบตัวเอง ตัวเรานั้นกว่าจะพบเจอสิ่งที่ใช่นั้นก็นานเช่นกัน
เราอยากเป็นหมอ
แต่ทุกวันนี้ เราก็ยังรู้สึกไม่ชัดเจนกับความฝันที่ต้องการจะเป็นหมอของเรา จนกระทั่งเราได้มาพบกับโครงการ “ทำ ก่อน ฝัน” The Dream Explorers รุ่น 3
รู้จักกับโครงการของเราก่อน
เป็นโครงการที่เปิดโอกาสให้เด็กมัธยมปลายได้ทดลองค้นหาความถนัดและอาชีพที่ชอบ ผ่านการฝึกงานในสถานที่จริงร่วมกับผู้เชี่ยวชาญเจ้าของอาชีพจากหลากหลายบริษัทชั้นนำ เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับอาชีพนั้น ๆ ในแง่มุมต่าง ๆ ผ่านการพูดคุย ปฏิบัติงาน และสังเกตการณ์ ส่งผลให้สามารถวางแผนการศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งเราก็ได้เข้าร่วมกิจกรรมนี้ และได้มีโอกาสไปฝึกงานอาชีพแพทย์ ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี เราขอแนะนำตัวก่อนละกัน เราชื่อ โปรดปราน เรียกสั้น ๆ ว่า พานพุ่ม ก็ได้
ก่อนอื่น เรามารู้จักกันก่อนว่า แพทย์มีหน้าที่อะไรบ้าง
Ø ตรวจคนไข้ในที่อยู่ในความรับผิดชอบทุกวัน และต้องตรวจคนไข้นอกที่เข้ามารับการรักษา ต้องพร้อมถูกเรียกตัวได้ทุกเวลา เพื่อทำการรักษาคนไข้ให้ทันท่วงที
Ø แบ่งปันความรู้ทางการแพทย์ของตนกับแพทย์ หรือนักศึกษาแพทย์ท่านอื่น
ต่อจากนี้ มาติดตามชีวิตการฝึกงานอาชีพแพทย์ของเราตลอด 4 วันนี้กันเลย !
DAY 1 : แผนกจิตเวชศาสตร์
วันนี้เราเริ่มงานกันวันแรกที่แผนกจิตเวช เป็นแผนกที่ให้การปรึกษา และรักษาผู้ป่วยทางจิต
ตอนเช้าวันนี้พี่หมอพาเราเข้าไปดูการตรวจคนไข้จิตเวชของพี่ นศพ. restsident แล้วก็พูดคุยกับพวกเราเกี่ยวกับอาการของคนไข้คนนั้น ถ้าคิดดี ๆ แล้ว มีหลายอาการคล้ายเราเลยอะ เราจะป่วยไหมเนี่ย 555 ต่อจากนั้นก็พาพวกเราเดินชมโซนต่าง ๆ รอบโรงพยาบาล เช่น โซนห้องสุดท้าย (เป็นห้องสำหรับส่งศพ) โซนที่พักนักศึกษาแพทย์ เป็นต้น พอตอนบ่ายพี่หมอก็สอนเกี่ยวกับวิธีการเก็บข้อมูลการรักษาของคนไข้จิตเวช เช่น ความถี่ของการตรวจความดัน ตรวจอุณหภูมิของร่างกาย การบันทึกลักษณะของคนไข้ เป็นต้น
DAY 2 : แผนกจิตเวชศาสตร์ และแผนกกุมารเวชศาสตร์
เช้าวันนี้เราก็ยังคงอยู่กันที่แผนกจิตเวชค่ะ พี่หมอพาเราไปเดินสำรวจหอพักนักศึกษาแพทย์ค่ะ เสร็จแล้วก็มาสอนพวกเราเกี่ยวกับอาการและโรคทางจิตที่เราพบบ่อย หลังจากนั้น ก็พาเราไปดูห้องพักผู้ป่วยจิตเวช มันก็ไม่ได้น่ากลัวเหมือนที่ใคร ๆ คิด ดูสะดวกสบายและน่าอยู่ค่ะ 555
ตอนกลางวันเราก็เปลี่ยนไปอยู่ที่แผนกกุมารเวชศาสตร์แทน เป็นแผนกที่ให้การรักษาเด็ก ๆ ต้องรักเด็กด้วยนะ เหมาะสมกับความเป็นนางงามของเรามาก 555 พี่หมอคนใหม่ก็มาดูแลเราแทน
พี่หมอเลี้ยงข้าวพวกเรากับพี่ ๆ นักศึกษาแพทย์ด้วยค่ะ เราก็มีโอกาสได้พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตของนักศึกษาแพทย์ของพี่ ๆ เขาด้วย พอตอนบ่ายพี่หมอก็พูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นกับพวกเราเกี่ยวกับความแตกต่างของศิริราชกับรามา แรงบันดาลใจการเป็นหมอ ชีวิตการเป็นหมอ หลักสูตรหมอของรามา และเรื่องอื่น ๆ สร้างแรงบันดาลใจที่ดีมาก ๆ ให้กับพวกเราค่ะ
DAY 3 : แผนกเวชศาสตร์ฉุกเฉิน
เช้าวันนี้เราเปลี่ยนมาอยู่ที่แผนกเวชศาสตร์ฉุกเฉินค่ะ วันนี้พี่หมอไชยพรจะดูแลเราค่าาา พอเรามาถึงแผนกเวชศาสตร์ฉุกเฉิน พี่นักศึกษา Paramedic ก็พาพวกเรานั่งแท็กซี่ไปมหิดล ศาลายาเลย มันก็จะงงหน่อย ๆๆ 555+ เพราะพี่หมอต้องไปสอนนักศึกษาวิทยาศาสตร์การกีฬาเกี่ยวกับการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย เลยพาพวกเรามาดูการสอนด้วย บรรยากาศการเรียนการสอนสนุกสนานมากเลย ตอนบ่ายวันนี้ เราก็กลับมาที่โรงพยาบาลค่ะ มาเข้าเลกเชอร์กับพี่ Paramedic students แล้วก็เดินชมห้องต่าง ๆ ในแผนกเวชศาสตร์ฉุกเฉิน เช่น ห้องผ่าตัด ห้องพักแพทย์เวร กับพี่ ๆ ค่ะ
DAY 4 : แผนกเวชศาสตร์ฉุกเฉิน
วันนี้พี่นักศึกษา Paramedic พาเราไปดูวอร์ดผู้ป่วย ER ห้องพักแพทย์เวร ละก็อธิบายเกี่ยวกับการจัดสรรพื้นที่ในห้องฉุกเฉินค่ะ แล้วต่อจากนั้น พี่หมอไชยพรก็พาพวกเราไปดูบนรถพยาบาล เพื่อน ๆ รู้ไหม ทำไมรถพยาบาลต้องเป็นสีเหลืองเขียว ??? เพราะว่าเป็นสีที่คนตาบอดสีสามารถมองเห็นได้ไงละ
แล้วพี่หมอก็พาพวกเราไปฝากไว้ที่ห้องฉุกเฉิน พี่หมอกำลังทำงานกันเต็มห้องเลย ได้เห็นทีมหมอกำลังวินิจฉัยอาการคนไข้ด้วย ตอนบ่ายพี่บอยก็พาเราไปดูรถ Motorlance กับสอนเกี่ยวกับอุปกรณ์ภายในรถพยาบาล ทั้งเครื่องช๊อตไฟฟ้า ยา อุปกรณ์ช่วยหายใจ ได้ความรู้กลับมาเต็ม ๆ เลย
ทักษะที่จำเป็นต่อการประกอบอาชีพแพทย์
Ø ทักษะการสื่อสาร และการมีวาทศิลป์ในการพูด : คุณหมอต้องช่างถาม และมีเทคนิคลีลาในการตั้งคำถามเพื่อให้ได้ข้อมูลจากคนไข้มากที่สุด รวมถึงต้องมีศิลปะการพูดเพื่อใช้บอกเล่าอาการให้คนไข้และครอบครัวของคนไข้ฟังอีกด้วย
Ø ทักษะการใช้ภาษาอังกฤษ : คุณหมอต้องใช้ภาษาอังกฤษในการทำงานมากมาย ทั้งการใช้ศัพท์เฉพาะทางการแพทย์ การพูดคุยกับคนไข้ชาวต่างชาติ
Ø ทักษะการทำงานเป็นทีม : คุณหมอไม่ได้ทำงานลำพัง แต่ต้องร่วมกับหลายฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นพยาบาล เภสัชกร ฯลฯ เราต้องรู้จักเป็นผู้นำ ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของการทำงานเป็นทีม
เป็นอาชีพที่มั่นคง ไม่มีทางถูกไล่ออก หรือตกงาน รายได้ค่อนข้างดี ได้ช่วยเหลือคนอื่น มีเกียรติ ได้รับการยอมรับจากคนในสังคม
เรียนหนัก เรียนนาน ปัญหาฟ้องร้อง
วลีเด็ดที่ประทับใจจากอาชีพนี้…
พระราชดำรัสสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุยเดชวิกรม พระบรมราชชนก
***************************************************