ครั้งแรกของการเจอกันของทุกอาชีพ มีการ workshop เล็ก ๆ เพื่อให้ทุกคนได้รู้จักกันมากยิ่งขึ้น มาจากทั้งหลายโรงเรียน หลายจังหวัด แต่เรามาพบกันครั้งแรกที่นี่!!!
มีพี่ ๆ วิทยากร มาให้คำแนะนำในการทำตามเป้าหมาย และ การทำตามความฝันของเรา ทำให้เรากล้าที่จะทำตามสิ่งที่เราต้องการทำมากยิ่งขึ้น
วันแรกก็เจองานหนักเลย!!! การช่วยพี่เภสัชทำงานวิจัยต่อปริญญาโท เป็นงานที่ต้องเข้าถึงผู้ป่วยมากเพราะเราต้องเข้าหาพวกเค้าเพื่อขอให้ช่วยทำแบบสอบถาม ซึ่งปริมาณแผ่นก็ใช่ย่อย หนักหนาเหมือนกันในวันแรก แต่ก็สนุกดีเพราะเราได้เข้าไปคุยกับคุณป้าคุณลุงที่ไม่รู้จัก ก็มีทั้งท่านที่ให้ความร่วมมือและไม่สนใจเลย ทำให้ทีมเภสัชนั้นท้อแท้กันเลยทีเดียว แต่ก็ผ่านกันมาได้ สุดยอดไปเลย
ลืมแนะนำไปเลย นี่คือผู้ร่วมชะตาชีวิตใน 4 วันที่โรงพยาบาลรามาธิบดีของเรา
1. น้องเบลล์ น้องเล็กในกลุ่มทีมรามา น้องเป็นคนขี้อายในหนึ่งระดับ แต่ตั้งใจทำงานมาก วันแรกที่เริ่มทำแบบสอบถามน้องเป็นคนเดียวที่ได้เกิน 5 ชุด!!!
2. นนท์ เพื่อนชั้นเดียวกัน ที่มีความสามารถรอบด้าน รู้ทุกอย่างที่พี่เค้าบอก สามารถทำความเข้าใจได้อย่างรวดเร็ว จนเราอึ้งไปเลย
วันนี้เป็นวันที่เหมือนเดิมเพิ่มเติมคือ!! สามารถจำยาที่อยู๋ในแบบสอบถามได้แล้ว ยามี6ชนิด เป็นยาที่บางตัวเรารู้จัก แต่บางตัวก็ไม่เลย ต้องขอบคุณแบบสอบถามที่ทำให้เรามีวันนี้55555 เพราะการที่ได้ทำแบบสอบถามซ้ำ ๆ ต้องทวนตัวยาให้คุณลุงคุณป้าเรื่อย ๆ สมองเราสามารถจำได้อย่างอัตโนมัติ เป็นเรื่องที่ดีและมีประโยชน์สำหรับเรามาก
การสัมผัสประสบการณ์จริงของเภสัชกรได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว!!
ในช่วงเช้าเราได้แบ่งกลุ่มกัน โดยที่นนท์ได้อยู๋ในแผนก OPD ชั้น1 ซึ่งเป็นแผนกผู้ป่วยนอก ที่นี่จะวุ่นวายมากเลยล่ะขอบอก เราและน้องเบลล์ได้มาอยู่ที่แผนกชั้น 4 เป็นชั้นพรีเมียม พิเศษสุด ๆ ไปเลยใช่มั้ยล่ะ555555 ชั้นนี้ก็พิเศษจริงๆเพราะเป็นห้องยาที่มียาอยู่ทุกแผนก อายุรกรรม หู ตา จมูก มารวมกันที่นี่ พี่ ๆ ในนั้นก็ใจดีสุด ๆ บอกทุกอย่างไม่มีกั๊ก อยากรู้อะไรถามได้เลย พวกพี่เค้าสามารถ ตอบได้อย่างหมดจด เราก็ถามเรื่องยาไปมากพอสมควร พี่เค้าไม่หงุดหงิดเลย ยิ่งพูดให้เราฟังมากยิ่งขึ้นไปอีก
ช่วงบ่าย เราได้เข้าไปในแผนก IPD ชั้น 6 พี่ ๆ ที่นี่ก็ใจดีไม่แพ้กันน่ารักกันทุกคน พี่ที่ได้มาพูดคุยกับเราในวันนี้คือ พี่กัน นั่นเองจ้ะ! พี่เค้าเป็นคนที่พูดเก่ง ถึงจะมึน ๆ ไปในบางที
แต่ก็รับรู้ถึงความพยายามอย่างสูงเพื่อพวกเรา ที่นี่เราก็ได้รับคำแนะนำจากพี่ ๆ เภสัชโดยตรง ย้ำว่าโดยตรง! ประสบการณ์นี้เราจะไม่มีวันลืมเลยเพราะน้อยคนที่จะมีโอกาสแบบเรา เราอยากกราบแบบเบญจางคประดิษฐ์ให้โครงการนี้มากที่ให้โอกาสเราได้เข้าไปเรียนรู้ประสบการณ์เภสัชกรณ์โรงพยาบาล พี่กันก็แนะนำการสอบเข้าของมหาลัยมหิดล ว่าจะมีการเลือกสายในปีท้าย ๆ ส่วนของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจะให้เลือกสายตั้งแต่ปีแรก ๆ ซึ่งก็เป็นข้อแตกต่างที่จะทำให้เราสามารถตัดสินใจได้มากยิ่งขึ้นส่วนศิลปากร ที่พี่ลินแนะนำก็คือการรับน้องจะเฮฮามาก มีกิจกรรมแน่น ๆ เหมาะกับสายเฮฮาทุกคน
ช่วงบ่าย 2 เราได้มีโอกาสได้เข้าไปในห้องเคมีบำบัด! พึ่งรู้ว่าเภสัชในโรงพยาบาลรามาก็มีแผนกที่ต้องผสมยาเองเพื่อความต้องการ และ ประโยชน์สูงสุดที่คนไข้จะได้รับ
พี่ ๆ ในแผนกนี้ก็เป็นกันเองสุด ๆ เฮฮามาก ๆ ขัดกับกับเครื่องมือที่เป็นอันตรายมาก ๆ ถ้าหากใช้ผิดวิธี พี่ ๆ ในนี้เค้าให้คำอธิบายว่า แผนกนี้จะได้ติดต่อกับผู้ป่วย short stay โดยตรงเพราะต้องให้ยาผู้ป่วยโดยทำงานร่วมกับพยาบาล แผนกนี้ก็ดูน่าทึ่งสุด ๆ ไปเลย ตู้ยาที่ทุกคนเห็น มีมูลค่า มากกว่า 10 ล้านบาทน่าทึ่งสุด ๆ ไปเลยใช่มั้ยล่ะ!!
แน่นอนพวกเราเหล่าอนาคตเภสัชกรตัวน้องก็ต้องขอถ่ายภาพเป็นที่ระลึกสักหน่อย และ วันนี้ก็จบลงไปพร้อมกับความประทับใจ
วันสุดท้ายจะเป็นวันที่พิเศษที่สุด และก็นั่นแหละ วันนี้พวกเรารู้สึกดีมาก เพราะเป็นวันที่ปลอดโปร่งตื่นเช้ามาเตรียมรับความรู้อย่างเต็มที่
ในช่วงเช้า เราได้เข้าไปในคลินิก ICU ชั้น 9 พวกเราตื่นเต้นกันมากจริง ๆ เพราะเป็นการเข้าห้อง ICU ครั้งแรก เคยเห็นแต่ในหนังของจริงคือเป๊ะสุด ๆ พอเข้ามาพี่เค้าก็จะสอนวิธีการดูค่าต่าง ๆ หลังจากการให้ยา ซึ่งจะทำการเจาะเลือด และนำค่าต่าง ๆ มาเปรียบเทียบกันในแต่ละวัน สอนการเขียนแฟ้มคนไข้จริง ๆ ให้เราได้ลองเขียนประวัติของคนไข้
ตื่นเต้นสุด ๆ ได้เข้ามาดูการทำงานร่วมกันของ พี่หมอ พี่พยาบาล และพี่เภสัชจริง ในสถานการณ์จริง
ช่วงพักกลางวัน พวกเราได้ไปซื้อขนมเล็ก ๆ น้อย ๆ เป็นการขอบคุณพี่ ๆ ทุกคนที่ให้คำแนะนำสอนเราในเรื่องที่ไม่รู้ด้วยค่ะ
หลังจากนำขนมไปให้พี่แล้วนั้น พวกเราก็...
ช่วงบ่าย หลังกินข้าวกลางวันเสร็จก็ขึ้นมา ถ่ายรูปเล่น ที่สวนชั้น 6 ซักหน่อย ลมแรงมากที่สำคัญวิวของนอกคือ ทางด่วนค่ะทุกคนนนนนน เราตื่นเต้นมาก เพราะเราเคยขับรถผ่านและก็อยากรู้มากว่าคือตึกอะไร วันนี้เราได้มาสัมผัสเราก็รู้สึกตื้นตันใจมาก ๆ เลย ทั้งดีใจและภูมิใจในตัวเองสุด ๆ แล้วพวกเราก็ได้เข้าไปนั่งรอใบประเมินทั้ง 4 วัน
ที่ได้เข้ามาเรียนรู้วิชาชีพเภสัชกรโรงพยาบาล ช่วงเวลานี่ก็ตื่นเต้นใช่ย่อย ดีใจสุด ๆ ไปเลย
1. ความรอบครอบ
2. รักในการพัฒนา เพราะต้องเรียนรู้ยาใหม่ ๆ เสมอ
3. ชอบการสังเกต
ข้อดี คือ ฝึกให้เราต้องเป็นคนที่มีสติอยู่ตลอด เพื่อความปลอดภัยของตัวเองและคนไข้
ข้อเสีย คือ เป็นอีกหนึ่งอาชีพที่ต้องทุ่มเทเวลาให้กับคนไข้มากเหมือนกัน จึงต้องจัดตารางเวลาของตัวเองให้ดี ๆ
#เภสัชไม่ได้มีหน้าที่แค่จ่ายยา