สวัสดีครับวันนี้ผมก็จะมาเล่าสิ่่งต่าง ๆ ที่ได้มาจากค่าย The Dream Explorers นะครับ จะเป็นการเล่าที่จะเป็นมุมมองของผมนะครับ อาจมีถูกมีผิดก็ขออภัยก่อนเลยนะครับถ้างั้นอย่าเสียเวลากันเลย ไปฟังกันเลยครับ
ผมได้มีโอกาสมาค่ายนี้กับอาชีพ ครีเอทีฟ โฆษณาครับ พูดชื่ออาชีพอาจดูงง ๆ กันนะครับ พูดง่าย ๆ ก็คืออาชีพที่ทำหน้าที่เหมือนเป็นคนประกาศสินค้าอะครับ เป็นส่วนหนึ่งใน Marketing เลย เหมือนอารมณ์แบบ เวลามีของชิ้นหนึ่งมันจะดีแค่ไหนไม่รู้แหละ แต่ถ้าไม่มี ครีเอทีฟ โฆษณา ก็จะไม่มีใครรู็จักของชิ้น ๆ นั้นอะครับ
- ภาษาอังกฤษ
- วาดภาพ
- เขียน
- มีความคิดสร้างสรรค์
- มีเหตุ ผล
- เป็นคนบ้า (อันนี้ไม่รู้นะเกี่ยวหรือป่าว)
- มีความรู้รอบตัว
- ช่างสังเกต
- มีเพื่อนเยอะ
----------------------------------------------------------------------------------------------
- ทำงานที่ไหนก็ได้
- เป็นงานที่ทำเพลิน ๆ
- เป็นงานที่ไม่ซ้ำ เปลี่ยนโจทย์ไปในแต่ละวัน
- ไม่ได้กลับบ้าน อยู่แต่ office (คุยกับเพื่อนเพลิน 555+)
- เครียดแล้วจะทำงานไม่ได้
- มีความกดดันสูง
- งานที่ดีของแต่ละคนไม่เหมือนกัน
วันแรกเราก็ได้เข้ามาแบบงง ๆ ก็ว่าได้ เข้ามาวันแรกเขาก็ไม่ได้ให้ทำอะไรมากมายเท่าไหร่ คนในภาพนี้นะครับ เป็นพี่ที่ชื่อ "พี่ตะวัน" นะครับ
มองหน้าผ่าน ๆ นี้ก็รู้แล้วครับว่าเป็นครีเอทีฟหรือไม่ พี่คนนี้นะครับเขามาสอนการเป็นครีเอทีฟ คร่าว ๆ นะครับ ก่อนอื่นครีเอทีฟเป็นคนที่แก้ปัญหาจากลูกค้า ลูกค้ามี problem อะไร ครีเอทีฟ ต้องหา solution มาแก้ปัญหาครับ แต่ละปัญหามีวิธีแก้ไม่เหมือนกันครับ พอจบการสอนทั้งหมดพี่ตะวันก็ให้งานมาอันนึงครับ คือถ้าการศึกษาไทยมีปัญหาจริง ๆ เราจะแก้ปัญหาอย่างไร
----------------------------------------------------------------------------------------------
วันที่สองก็เริ่มวันกับการเอาปัญหาจากวันแรกมาเล่านะครับ
ที่เห็นจากรูปไม่ได้มี 3 คนนะครับอีกคนกำลังถ่ายรูปอยู่ พี่ ๆ เขาก็ให้พวกเรามานั่งคุยถึงวิธีการแก้ปัญหาต่าง ๆ นะครับ แต่บทสรุปก็พวกเราแต่ละคนสร้าง What to say ได้
แต่สร้าง how to say ไม่ได้อะครับ ตอนนี้อาจกำลังง งงว่าอะไรคือ What to say อะไรคือ How to say มันเหมือนเป็นหัวใจหลัก ๆ ของงานอะครับ อย่างเช่น What to say คือหิวข้าว How to say ก็คือไปสั่งอาหารตามสั่ง ประมาณนี้อะครับ ครีเอทีฟ เกิดมาเพื่อหา How to say อะครับ ก็ตามนี้อะครับพวกเราไม่ได้คิด How to say วันที่สองรวม ๆ ก็มีแค่นี้อะครับ
----------------------------------------------------------------------------------------------
วันนี้พี่นรเขามาเล่าเรื่องนะครับ เล่าเรื่องความเป็นมาของเขากับ ครีเอทีฟ โฆษณา กับว่าเขามาเป็นอาชีพนี้ผ่านอะไรมา
บ้างอะครับวันนี้สิ่งที่ได้คือ " เวลาหั่นผักจะเป็นเวลาที่คิดงานออกที่สุด " พี่นรได้กล่าวไว้ 55555 พอดีแม่
ของพี่นรเป็นแม่ค้าขายข้าวแกงอะครับ
แล้ววันนี้พี่ตะวันคนเดิมก็มาอีกแล้วครับมาให้งานอีกชิ้น เป็นว่าจะทำยังไงให้คนมาใช้เครื่องใช้ไฟฟ้ายี่ห้อหนึ่งอะครับจะทำให้คนมาใช้ยังไงเป็นโจทย์ของวันนี้
----------------------------------------------------------------------------------------------
วันสุดท้ายสิ่งแรกที่เขาให้ทำเลยคือไปนั่งฟังเขาประชุมกัน นั่งฟังไปเกือบหลับ ง่วงมาก
ที่เห็นเป็นผู้ชายตรงกลางนั้นเป็น 1 ใน 4 ของบริหารนะครับ ไม่บอกนี้ดูออกยากมากว่าเป็นผู้บริหาร
หลังจากนั้นเราก็ได้มานั่งคุย (ในกลุ่มนักเรียนที่ไป) กันว่าจะทำไงที่จะทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้ายี่ห้อหนึ่ง ขอเรียก ยี่ห้อ A นะครับว่าจะทำไงให้ A ดังดี ก็นั่งคิดไปคิดมาก็ได้เป็นเนื้อเรื่องอันหนึ่ง
หลังจากคุยงานเสร็จก็มีการถ่ายรูปรวม
ตั้งแต่ลองมาฝึกงานดูที่นี้ เขาให้ความรู้สึกไม่เหมืือนที่ทำงานเลยครับ เหมือนบ้านมากกว่าดูจากรูปก็ได้ ถ้าไม่บอกว่าใครเป็นใครก็ไม่รู้หรอกครับ ดูยากมาก อบอุ่นมากครับ
แต่ก็นะครับงานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลา เราไม่อาจจะอยู่กับอะไรได้ตลอด ที่นี้เป็นที่ ๆ ดีมากครับ มีรูปให้ดูอีกนะครับ
แล้วก็ขอขอบคุณเพื่อน ๆ ทุกคนด้วยนะครับ
----------------------------------------------------------------------------------------------
สุดท้ายนี้นะครับเป็นคำพูดของพี่คนหนึ่ง
โดยชายนิรนามคนหนึ่ง
โดย ผมเอง