Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

สัมผัสประสบการณ์ อาชีพนักประชาสัมพันธ์ สุดเจ๋ง แบบติดขอบจอ จากค่ายทำ ก่อน ฝัน

Posted By | 05 ต.ค. 61
1,825 Views

  Favorite

     สวัสดีค่ะทุก ๆ คน หนูเป็นเด็กธรรมดา ๆ คนหนึ่งค่ะ ที่มีความฝัน มีเป้าหมาย และวิธีที่จะทำฝันให้เป็นจริงของหนู นั่นคือ หนูจะไม่หยุดอยู่กับที่ แต่หนูจะคว้าความฝันนั้นมาด้วยตัวของหนูเอง หนูเชื่อเลยว่าเพื่อน ๆ หลาย ๆ คนในที่นี้มีความฝันของตัวเองเหมือนกัน หลาย ๆ คนอาจเจอสิ่งที่ใช่สำหรับตัวเองแล้ว แต่สำหรับบางคนก็อาจจะกำลังสับสนในตัวเองอยู่ วันนี้หนูเลยมาโครงการดี ๆ โครงการหนึ่งมานำเสนอเพื่อน ๆ หลาย ๆ คนที่อาจจะกำลังมองหาความฝันของตัวเองอยู่ นั่นก็คือ โครงการ The Dream Explorers ทำ ก่อน ฝัน จากทรูปลูกปัญญา ซึ่งหนูคิดว่าเป็นโครงการดีมาก ๆ เลยทีเดียว เพราะนอกจากเราจะได้พบมิตรภาพที่ดี ๆ จากเพื่อนใหม่แล้ว เรายังได้ลองฝึกทำอาชีพที่เราสนใจจากพวกพี่ ๆ ที่มีประสบการณ์ทำงานอย่างช่ำชอง ได้ลองลงพื้นที่จริง และยังได้รับความรู้ใหม่ ๆ ที่หาจากที่ไหนไม่ได้อีกด้วย เป็นไงกันบ้าง ดูน่าสนใจกันบ้างแล้วใช่มั้ยหละ เพื่อน ๆ คงอยากรู้กันแล้วค่ายนี้จะสนุกสุดเหวี่ยงขนาดไหน ถ้าพร้อมกันแล้วตามหนูมากันได้เลยค่าา

    ถ้าพูดถึง อาชีพนักประชาสัมพันธ์ หลาย ๆ คนอาจคิดว่าเป็นอาชีพที่สบาย ๆ นั่งหน้าล๊อบบี้ มีเสียงเพลงขึ้นว่า " ดึ่ง ดึง ดึ้ง " และนักประชาสัมพันธ์ก็จะพูดขึ้นว่า " เรียน ท่านผู้มีอุปการะคุณทุกท่าน... " บอกเลยหนูก็เคยคิดแบบนี้เหมือนกัน แต่พอได้ลองมาทำจริง ๆ แล้ว หนูบอกได้เลยว่าสิ่งที่คุณคิดนั้น ผิดสุด ๆ เลยค่ะ แต่หนูเชื่อเลยว่าถ้าเพื่อน ๆ ได้ลองมาสัมผัสอาชีพนักประชาสัมพันธ์โดยตรงเหมือนกับหนูและพวกเพื่อน ๆ แล้ว เพื่อน ๆ จะต้องร้องว่า ว้าว ว้าว ว้าว อย่างเเน่นอน เป็นไงหละ แค่เกริ่นก็ตื่นเต้นกันแล้วใช่มั้ย ถ้าพร้อมกันแล้ว เราไปอึ้ง และทึ่งกับอาชีพนี้พร้อมกันเลยดีกว่า ลุย!!!

   2 ตุลาคม วันเริ่มงานน

   วันแรกบอกเลยรถติดสุด ๆ และพวกเราก็ตื่นเต้นกันมาก ๆ เราได้ไปพบพี่เลี้ยงของเรา นั่นก็คือ ขุ่นแม่ชนก นั่นเองง

นี่ไง!! ขุ่นแม่ของพวกเราเองสวยใช่มั้ยหละ
นี่ไงล่ะ!! ขุ่นเเม่ของพวกเราเองสวยใช่ไหมล่ะ

   แต่บอกไว้ก่อนเลยนะว่าขุ่นแม่ของพวกเราไม่ได้มีคนเดียวนะ ขุ่นแม่คนที่ 2 ของพวกเรา ก็คือ พี่ยุ้ยนั่นเองค่ะ

เป็นไงล่ะ!! ขุ่นแม่คนที่ 2 ของพวกเราสวยไม่แพ้กันเลยใช่มั้ยล่ะ

   ในช่วงเช้าขุ่นเเม่ทั้ง 2 ให้การต้อนรับพวกเราอย่างดีมาก ๆ ขุ่นแม่ได้แนะนำองกรค์และพี่ ๆ ทีม PR ในพวกเรารู้จัก และได้อธิบายเกี่ยวกับลักษณะอาชีพ PR ว่าจริง ๆ แล้ว นักประชาสัมพันธ์ทำอะไร แรงบันดาลใจ ความก้าวหน้าของสายอาชีพ PR  เงินเดือน  และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งพอหนูฟังจบมุมมองในอาชีพนักประชาสัมพันธ์ของหนูก็เริ่มเปลี่ยนไป เพราะมันเกินกว่าการจินตนาการของหนูในครั้งแรกเอาไว้มาก ขุ่นแม่สอนพวกเราว่า การจะเป็นนักประชาสัมพันธ์ที่ดี เราต้องมี 4C ซึ่ง 4C ในที่นี้คือ

 Caring ใส่ใจ และดูแล

 Creative การสร้างสรรค์

 Credible มีความรับผิดชอบและน่าเชื่อถือ     

 Courageous ความกล้าแสดงออก

 และนี่คือคุณสมบัติที่ดีของการเป็นนักประชาสัมพันธ์นั่นเองค่ะ

ภาพการประชุมอันหนักหน่วงในช่วงเช้าจ้าา

    ในช่วงบ่ายก่อนที่พวกเราจะไปออกนอกสถานที่กันเป็นครั้งแรก ขุ่นแม่ก็ให้พวกเราไปพักทานข้าวเพิ่มเรี่ยวแรงกันก่อน

 

พักทานข้าวกันกันซักแป๊บนะจ๊ะ

      เมื่อเติมพลังกันเรียบร้อยแล้ว พวกเราก็เริ่มลุยงานในช่วงบ่ายกันทันที โดยพี่ ๆ ได้พาพวกเราออกนอกสถานที่เพื่อไปเจอกับประสบการณ์จริงโดยตรง โดยพี่ ๆ แบ่งพวกเราออกเป็น 2 กลุ่ม และกลุ่มของหนูก็ได้มีโอกาสไปงานแถลงข่าว " TrueMove H Presents I AM NONT TANONT THE FIRST CONCERT " ซึ่งพวกเราก็ตื่นเต้นกันสุด ๆ เลยทีเดียว ในงานนี้นอกจากพวกเราจะได้พบกับพี่นนท์สุดหล่อแล้ว เรายังได้รับความรู้ใหม่ ๆ จาก พี่PR สายบันเทิงคนหนึ่งเพิ่มเข้ามาอีกด้วย พี่เค้าสอนพวกเราว่าการเป็น PR เราต้องอัพเดพข้อมูลข่าวสารตลอดเวลา เราต้องรู้ข้อมูลให้ลึกกว่าคนอื่น ๆ และต้องสามารถอธิบายสิ่งต่างๆให้คนอื่นฟังได้อย่างถูกต้อง แต่ในการจะบอกกล่าวอะไรไปนั้นเราควรคิดด้วยว่า สิ่งที่เราพูดนั้นจะส่งผลเสียกับองกรค์รึเปล่า เพราะนักประชาสัมพันธ์ที่ดีต้องสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กร และอีกความรู้หนึ่งที่พวกเราได้รู้ นั่นก็คือ ในงานแถลงข่าวทุกครั้ง PR จะเป็นคนทำ Presskit เพื่อแจกให้กับพี่ ๆ สื่อมวลชน ซึ่งในนี้จะบอกถึงรายละเอียดทั้งหมดของงาน concept ของงาน  ที่มาที่ไปอย่างไร  งานจะมีเมื่อไหร่ เพื่อเป็นข้อมูลการทำข่าวให้กับพี่ ๆ สื่อมวลชนนั่นเองค่ะ

รูปภาพบรรยากาศสนุก ๆ ภายในงานแถลงข่าวจ้าา

   สำหรับงานการเป็นนักประชาสัมพันธ์ครั้งแรกนั้นสนุกจริง ๆ แต่ก็เหนื่อยสุด ๆ ด้วยเพราะงั้นหนูขอกลับไปพักเอาแรงเพื่อเริ่มลุยงานในวันต่อไปก่อนนะจ๊ะ

   3 ตุลาคม วันที่ 2 ของการเป็นนักประชาสัมพันธ์

     วันที่ 2 หนูมาเเต่เช้าเลยเพราะกลัวรถติด วันนี้พวกเราเริ่มงานกันตอน 7.30 ซึ่งมันเช้ามาก ๆ เลยหละ พวกเราก็จะง่วงกันนิดหน่อย ในตอนเช้าของวันนี้พี่ ๆ ให้พวกเราลองดู News Clipping ประจำวัน ซึ่ง PR จะต้องทำการแยกข่าวเป็นหมวดต่าง ๆ และจะต้องเรียงความสำคัญของข่าวจากสำคัญมากไปน้อยด้วย จากนั้น PR ก็นำข่าวที่จัดแยกหมวดหมู่อย่างเรียบร้อยแล้วอัพโหลดลงเว็บภายในองค์กร เพื่อให้พนักงานในบริษัทสามารถติดตามข่าวสารที่สำคัญ ๆ ในแต่ละวันได้ ซึ่งในความคิดของหนู หนูคิดว่ามันยากพอควรเลย เพราะต้องเป็นคนที่ละเอียดถี่ถ้วน และต้องมีระเบียบวินัยในตนเองมาก ๆ ด้วย เนื่องจากจะต้องตื่นมาทำงานงานแต่เช้าในทุก ๆ วัน

ภาพข่าวที่พี่ทีม PR ต้องทำในแต่ละวันจ้าา

หลังจากนั้นพี่ ๆ ก็พาเราไปลองดูวิธีทำงานต่าง ๆ ของ PR อาทิ การโพสต์ข่าวสารลงเว็บในแต่ละวัน การพิมพ์สคริปท์ข่าวเพื่อที่จะเอาใช้พูดในประกอบข่าว เป็นต้น 

การเรียนรู้งานของพวกเราในวันนี้จ้าา

    ในตอนบ่ายพวกเราก็ได้ออกนอกสถานที่กันอีกแล้ว พี่ ๆ พาพวกเราไปศึกษาการทำ TV Scoop ในกิจกรรม  TrueCoffee Deaf Barista Workshop ที่ TureCoffee สาขารัตนโกสินทร์ พี่ ๆ บอกพวกเราว่า PR ก็สามารถแนะหรือแสดงความคิดเห็นกับนักข่าวได้ เช่น อยากให้เห็นคำว่า True เป็นต้น นี่ก็ถือเป็นการสร้างประโยชน์ให้กับองค์กรอีกอย่างหนึ่งเหมือนกัน

ภาพบรรยาการในการทำ TV Scoop พี่ ๆ น่ารักกันมากๆเลย

หลังจากจบงานนี้พวกเราก็กลับมาช่วยพี่ ๆ เตรียมงานสำหรับพิธีเปิดอบรมนักข่าวสายฟ้าน้อย ปี2561 กันต่อ เพื่อที่พวกเราจะได้รู้งานของ PR ตั้งแต่เริ่มต้นจัดงานไปจนถึงวันงานจริงกันเลยทีเดียว

ภาพการเตรียมงานสายฟ้าน้อยของพวกเราจ้าา

  สำหรับการฝึกงานวันที่ 2 ของพวกเราก็จบลงไปด้วยดี เย้!!!

   4 ตุลาคม วันที่ 3 ของการฝึกงาน

    พวกเราก็มากันแต่เช้าเหมือนเดิม วันนี้พวกเรามาฝึกงานในพิธีเปิดอบรมนักข่าวสายฟ้าน้อย ปี2561  งานแรกของพวกเราในวันนี้คือ ช่วยแจกของที่ระลึกและลงทะเบียนการเข้างานให้พี่ ๆ นักศึกษา ซึ่งนี่ก็เป็นหน้าที่หนึ่งของ PR เหมือนกัน

ภาพการช่วยแจกของที่ระลึกและการลงทะเบียนเข้างานของพี่ ๆ นักศึกษา

จากนั้นพวกเราก็ได้ไปเข้าไปฟังบรรยายพิธีเปิดพร้อมกับพี่ ๆ นักศึกษาข้างในอีกด้วย หลังจากนั้นตอนประมาณ 10.00 พี่ ๆ พาเราเข้านั่งไปฟังพิธีเปิดของโครงการ One Young World ซึ่งเป็นโครงการที่ยิ่งใหญ่มากในระดับโลก ที่นั่นพวกเราไปพบกับ คุณศุภชัย เจียรวนนท์ ผู้ก่อตั้งบริษัทTrue นั่นเอง บอกได้คำเดียวเลยว่าพวกเราตื่นเต้นกันมาก ๆ หนูคิดว่าท่านเป็นคนที่มีวิสัยทัศน์ที่ดีมาก ๆ เลย เมื่อฟังจบพวกเราก็มีโอกาสได้ถ่ายรูปกับ คุณศุภชัย ด้วยย ทุกคนยิ้มแก้มปริกันเลยทีเดียวเพราะโอกาสดี ๆ แบบนี้นั้นหายากมากก

คุณศุภชัยกับวิสัยทัศน์ที่ว่า " คุณค่าที่แท้จริงของชีวิตมาจากการมอบคุณค่าให้แก่กัน "

     หลังจากจบช่วงเช้าที่แสนหนักหน่วงกันไปแล้ว ในช่วงบ่ายนั้นได้มีงานกะทันหันเข้ามานั่นก็คือ งานเปิดตัวทีม E-Sport ของ True เนื่องจากเป็นงานกะทันหันทีมนักข่าวจึงมีแค่ของ True

ภาพบรรยากาศการเปิดตัวทีม E-Sport จ้าา

    หลังจากจบงานนี้แล้วพี่ ๆ ก็ได้พาเราไปฝึกลงเสียงข่าว ที่ห้องตัดต่อ Audiovisual Studio ซึ่งหนูคิดว่ามันเป็นอะไรที่สนุก ๆ มาก แต่มันก็แฝงความยากเอาไว้ด้วย โดยในการฝึกลงเสียงในครั้งนี้พวกเราได้รับคำแนะนำดี ๆ จากพี่ง้วง ที่คอยบอกข้อผิดพลาดในเรื่องต่าง ๆ และข้อคิดดี ๆ ให้กับพวกเรา ซึ่งหนูก็รู้สึกขอบคุณพี่ง้วงมาก ๆ เลยย

การฝึกลงเสียงของพวกเราครั้งแรกกก
พี่ง้วง พี่ PR ใจดีพี่คอยให้คำแนะนำดี ๆ กับพวกเราจ้าสำหรับวันนี้ก็จบลงด้วยดีนะจ๊ะ

 5 ตุลาคม The Last Day

     วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการฝึกงานแล้ว  มันก็จะรู้สึกใจหายหน่อย ๆ หนูรู้สึกเหมือนเวลาผ่านไปเร็วมาก ๆ หนูไม่อยากให้มันจบเลยย  วันสุดท้ายพวกเราก็ตื่นแต่เช้ามาดูการทำ News Clipping ข่าวประจำวันกันเหมือนเดิม หลังจากนั้นพี่ ๆ พาพวกเราไปมอบกระเช้าครบรอบ 32 ปีของกรุงเทพธุรกิจ เพราะหน้าที่อีกอย่างหนึ่งของ PR คือการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับนักข่าว

ภาพการมอบกระเช้าครบรอบ 32 ปีของกรุงเทพธุรกิจ

   หลังจากนั้นในช่วงบ่ายพวกเราก็มาคอยต้อนรับการเข้ามาเยี่ยมชม บริษัท True ของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยลาดกระบัง เมื่อต้อนรับเสร็จ ขุ่นแม่ชนกก็ขึ้นมามอบของที่ระลึกให้กับพวกเรา

ของที่ขุ่นแม่ของพวกเราและพี่ทีม PR มอบให้พวกเราในวันสุดท้าย
รูปภาพหมู่กับพี่ ๆ ทีม PR ของงบริษัท True อบอุ่นสุด ๆ

และก็จบไปแล้วกับวันสุดท้ายของวันฝึกงานของพวกเราทั้งเหนื่อยและสนุกจริง ๆ ถ้าเป็นไปได้ก็ยังไม่อยากให้จบเลยหละ

  และถ้าจะให้พูดถึงทักษะ ที่จำเป็นกับการเป็นนักประชาสัมพันธ์ ที่จะขาดไม่ได้เลย คืออออ

 1. ความรู้ด้านภาษา  2. มีวิธีคิด จับประเด็น และวิเคราะห์ข่าวได้ดี 3. มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี 4. เป็นคนกล้าแสดงออก 5. ไม่หยุดที่จะเรียนรู้ และตื่นตัวตลอดเวลา 6. ต้องมีความรับผิดชอบและมีระเบียบวินัยในตนเอง

   ส่วนข้อดีและข้อเสียของการเป็นนักประชาสัมพันธ์ ก็คืออ

  1. ต้องเตรียมตัวเองให้พร้อมรับงานที่จะเข้ามาอย่างกระทันหันอยู่เสมอ

   2. ได้ออกไปทำงานนอนสถานที่ค่อนข้างบ่อย เพราะฉะนั้น เราจึงได้พบปะผู้คนค่อยข้างเยอะ

   สุดท้ายนี้ก็อยากจะขอฝาก QUOTE เด็ดๆจากพี่ๆทีม PR ไว้ว่า...

   " เราไม่ต้องสนว่าเราจะเอาจริงในเวลาไหน เพราะทุกครั้งที่เราได้ลองทำให้ถือว่าเราเอาจริงเสมอ "

    จบกันไปแล้วนะกับการฝึกอาชีพนักประชาสัมพันธ์ของพวกเรา เห็นกันแล้วใช่มั้ยว่ามันไม่ง่ายอย่างที่คุณคิด หลังจากจบการฝึกงานในครั้งนี้ หนูได้รู้เลยว่านักประชาสัมพันธ์ คือผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จทุกอย่างจริง ๆ หนูรู้สึกนับถือพวกพี่ ๆ เค้ามาก ๆ จริง ๆ 

  และสุดท้ายท้ายสุดนี้ หนูอยากจะขอบคุณพี่ ๆ ทุกคนที่ได้มอบประสบการณ์ที่ดี ๆ ให้กับหนู หนูสัญญาว่าจะนำสิ่งที่ได้จากพี่ ๆ มาปรับให้กับตัวเองทั้งในปัจจุบันและอนาคตอย่างแน่นอนค่ะ  

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • Plook Education
  • 0 Followers
  • Follow