ปฏิเสธไม่ได้เลยนะคะว่า ในยุคสมัยนี้คนเราเริ่มหันมาดูแลตัวเองกันมากขึ้น นั่นเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้องค์กรและบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการเสริมความงามต่าง ๆ เร่งพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยี เพื่อตอบสนองความต้องการของคนในสังคม หนึ่งในเทคโนโลยีเสริมความงามที่ว่านั้นก็คือ การดูแลใบหน้าให้เต่งตึง ปราศจากริ้วรอยต่าง ๆ ตามสมัยนิยมของปัจจุบัน โดยใช้สิ่งที่เรียกว่า "โบท็อกซ์" ซึ่งหลายคนก็คงจะพอได้ยินกันมาบ้างแล้ว ดังนั้น วันนี้เราจะมาดูกันนะคะว่า เจ้าโบท็อกซ์นั้นคืออะไร และจะทำให้หน้าของเราเต่งตึงขึ้นได้อย่างไรบ้าง

โบท็อกซ์คืออะไร

โบท็อกซ์ (Botox) หรือโบทูลินัม (Botulinum toxin) เป็นสารพิษชนิดหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นจากแบคทีเรียที่มีชื่อว่า คลอสตริเดียม โบทูลินัม (Clostridium botulinum) โดยจะออกฤทธิ์ในการรบกวนการทำงานของระบบประสาท และทำให้กล้ามเนื้อของเราเป็นอัมพาตชั่วคราวได้ค่ะ

แล้วโบท็อกซ์ทำให้หน้าเรียวได้อย่างไร?

เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจง่าย เราจะมาดูกระบวนการทำงานของสารโบทูลินัมในการทำให้ริ้วรอยบนใบหน้าหายไปทีละขั้นตอนนะคะ

1. หลังจากที่เราฉีดสารโบทูลินัมเข้าสู่ร่างกายแล้ว สารชนิดนี้จะไปยับยั้งการหลั่งของสารสื่อประสาทที่มีชื่อว่า อะซิทิลโคลีน (Acetylcholine) ซึ่งจะเป็นสารที่ทำหน้าที่ตรงรอยต่อระหว่างเส้นประสาทและการทำงานของกล้ามเนื้อ

2. เมื่อเซลล์ไม่สามารถหลั่งสารอะซิทิลโคลีนออกมาได้ กล้ามเนื้อจึงขาดการสั่งงานจากระบบประสาท และไม่สามารถหดตัวได้ตามปกติ ซึ่งเราเรียกภาวะนี้ว่า “กล้ามเนื้ออัมพาต” โดยผลจากการที่กล้ามเนื้อไม่สามารถหดตัวได้นี้จะทำให้ริ้วรอยต่าง ๆ ดูตื้นขึ้นจากปกตินั่นเองค่ะ

และแน่นอนว่าการฉีดสารหรือเติมแต่งสิ่งที่ไม่ใช่ธรรมชาติเข้าสู่ร่างกายของเราย่อมมีผลข้างเคียงตามมา สำหรับการทำโบท็อกซ์นี้ผู้ใช้หลายคนมักจะมีปัญหาเกี่ยวกับการแสดงออกทางสีหน้า เช่น การยิ้มหรือหัวเราะ เพราะอย่างที่บอกไปข้างต้นว่า สารตัวนี้จะทำให้กล้ามเนื้อของเราเป็นอัมพาตชั่วคราว ดังนั้น ในบางรายที่ฉีดสารนี้ไม่ถูกวิธีก็อาจส่งผลต่อกล้ามเนื้อส่วนอื่น ๆ บนใบหน้าได้

ผลของโบท็อกซ์จะอยู่ได้นานประมาณ 4-6 เดือนหลังการฉีดเข้าสู่ร่างกาย นอกจากนี้ในบางรายยังอาจมีอาการปวดหัวในระยะเวลา 24-48 ชั่วโมงหลังฉีด และบางรายอาจเกิดรอยช้ำหรือแพ้ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพในอนาคตได้ด้วย ดังนั้น ก่อนจะทำอะไรกับร่างกายก็อย่าลืมศึกษาข้อมูลดี ๆ และจะต้องรอบคอบอยู่เสมอนะคะ ที่สำคัญควรเลือกสถานพยาบาลหรือคลินิกเสริมความงามที่ได้คุณภาพและมาตรฐาน ทั้งนี้ก็เพราะความปลอดภัยจะต้องมาก่อนเสมอค่ะ