ดังนั้น แน่ใจกันหรือเปล่าเอ่ยว่าเราแปรงฟันได้ถูกวิธีแล้ว วันนี้เราจะมาแชร์วิธีการดูแลฟันขั้นพื้นฐานอย่างถูกต้อง เพราะสิ่งสำคัญที่สุดนอกเหนือจากการมีฟันขาวแล้ว คือการมีสุขภาพฟันที่ดีนั่นเองค่ะ
ควรเลือกที่มีขนาดพอเหมาะกับช่องปาก ไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไป มีด้ามจับที่ถนัดมือ ที่สำคัญคือขนแปรงควรต้องนุ่ม เพราะขนแปรงที่แข็งเกินไปจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพเหงือกและฟันได้ สามารถเลือกใช้แปรงสีฟันไฟฟ้าได้เช่นเดียวกัน แต่ไม่จำเป็นต้องใช้ก็ได้นะคะ เพราะการแปรงฟันอย่างถูกต้องด้วยแปรงสีฟันธรรมดาก็ให้ผลลัพธ์ที่ดีไม่ต่างกับแปรงสีฟันไฟฟ้าค่ะ
เลือกใช้ชนิดที่มีฟลูออไรด์ โดยในวัยผู้ใหญ่และเด็กโต ควรเลือกยาสีฟันที่มีส่วนประกอบของฟลูออไรด์อย่างน้อย 1,350 ส่วนในล้านส่วน อาจเลือกยาสีฟันที่เหมาะสมกับปัญหาสุขภาพฟันของแต่ละคน เช่น สาว ๆ ที่ดื่มกาแฟหรือสูบบุหรี่ (แต่อย่าสูบจะดีกว่านะคะ) มักจะมีคราบเหลืองที่เนื้อฟัน ให้เลือกใช้ยาสีฟันสำหรับขจัดคราบกาแฟหรือบุหรี่โดยเฉพาะ จะช่วยให้ฟันขาว ซึ่งยาสีฟันประเภทนี้จะช่วยทำความสะอาดคราบที่เกาะฟัน ทำให้เห็นเนื้อฟันที่ขาวตามธรรมชาติ แต่ไม่ได้มีผลให้ฟันขาวกว่าธรรมชาติของแต่ละคนนะคะ เพราะยาสีฟันบางชนิดที่โฆษณาว่าทำให้ฟันขาว อาจผสมสารฟอกขาว ซึ่งหากใช้นาน ๆ จะทำให้สารเคลือบฟันของเราถูกกัดกร่อน จนเกิดอาการเสียวฟันและเกิดปัญหาสุขภาพฟันในระยะยาวได้
เป็นอุปกรณ์สำคัญที่จะช่วยให้ฟันของเราสะอาด หลาย ๆ คนละเลยที่จะใช้ไหมขัดฟัน ลำพังการแปรงฟันอย่างเดียว หรือแม้แต่ใช้น้ำยาบ้วนปากร่วมด้วย ก็ไม่สามารถทำความสะอาดฟันได้หมดจดจริง ๆ สามารถเลือกไหมขัดฟันชนิดใดก็ได้ที่เราชอบ แต่เส้นไหมควรจะไม่แตกเป็นเส้นเล็ก ๆ ได้ง่าย บางคนอาจเลือกแบบมีไม้จับเพื่อความถนัดก็ได้ค่ะ
จะใช้หรือไม่ใช้ก็ได้ น้ำยาบ้วนปากผสมฟลูออไรด์จะเคลือบผิวฟัน ช่วยให้ฟันไม่ผุง่าย และช่วยให้ลมหายใจหอมสดชื่น แต่ยาสีฟันทั่วไปก็มักผสมฟลูออไรด์ในปริมาณเพียงพอต่อการเคลือบฟันอยู่แล้ว หากอยากใช้ควรเลือกชนิดที่ไม่ผสมแอลกอฮอลล์ค่ะ
โดยให้ยาสีฟันมีความยาวเท่ากับขนแปรงสีฟันที่ใช้อยู่ (แต่สำหรับเด็ก ๆ ต้องใช้น้อยกว่านี้นะคะ) แปรงฟันให้ครบทุกซี่ ทุกด้าน โดยใช้วิธีเอียงขนแปรงให้จิกลงที่โคนเหงือก 45 องศา แปรงขยับไปมาแล้วปัดขึ้นสำหรับฟันล่าง ปัดลงสำหรับฟันบน เพื่อให้เศษอาหารและคราบที่ติดตามคอฟันหลุดออกมาให้ได้มากที่สุด โดยที่ไม่ต้องแปรงแรงจนเกินไป
ซึ่งเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรีย เพื่อลดการเกิดกลิ่นปากและฝ้าขาวที่ลิ้นด้วย ระยะเวลาในการแปรงฟันไม่ควรต่ำกว่า 2 นาทีนะคะ
จากนั้นรอสักครู่เพื่อให้ฟลูออไรด์ในยาสีฟันเคลือบฟัน จากนั้นบ้วนปากให้สะอาดอย่างน้อย 5 ครั้ง
ดึงไหมขัดฟันออกมาความยาวประมาณ 1 ฟุต พันรอบนิ้วชี้ทั้งสองข้าง ค่อย ๆ ขัดซอกฟันทุกซี่อย่างเบามือ เพื่อช่วยกำจัดเศษอาหารในบริเวณที่แปรงสีฟันเข้าไม่ถึง เมื่อสอดไหมลงไปในซอกฟันแต่ละซี่แล้วให้ขยับไหมเล็กน้อยเพื่อทำความสะอาดก่อนจะดึงออก ขยับไหมไปเรื่อย ๆ จนครบทุกซี่ แรก ๆ เมื่อเริ่มใช้อาจมีเลือดออกบ้าง ไม่ต้องตกใจไปนะคะ ใช้ไปสักพักเหงือกจะเริ่มคุ้นชินและไม่มีเลือดออกอีกต่อไป
เพราะน้ำยาบ้วนปากอาจชะล้างฟลูออไรด์จากยาสีฟันออกไปได้ ให้ใช้หลังรับประทานอาหารแทน จากนั้นควรหลีกเลี่ยงการดื่มหรือรับประทานเป็นเวลาอย่างน้อย 30 นาที เพื่อให้สารเคลือบฟันทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
1. อย่าลืมแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง คือหลังตื่นนอนและก่อนเข้านอน ถ้าจะให้ดีควรแปรงหลังรับประทานอาหารทุกมื้อด้วยนะคะ
2. เปลี่ยนแปรงสีฟันทุก ๆ 3 เดือน หรือเมื่อขนแปรงสีฟันเริ่มบาน เพื่อป้องกันแบคทีเรียสะสมในแปรงสีฟัน
3. จัดเก็บแปรงสีฟันในบริเวณที่สะอาดและมีอากาศถ่ายเท
4. พบทันตแพทย์ทุก ๆ 6 เดือนเพื่อตรวจสุขภาพเหงือกและฟัน
5. รับประทานอาหารที่ช่วยดูแลสุขภาพฟัน เช่น นมที่มีแคลเซียมสูง ผักผลไม้สดที่มีไฟเบอร์และต้องบดเคี้ยว ช่วยในการขจัดคราบหินปูน
6. ห้ามใช้ฟันกัด แกะสิ่งของต่าง ๆ โดยเด็ดขาด