การปฏิเสธหรือการต้อง Say No กับผู้อื่นนั้น สำหรับบางคนเป็นสิ่งที่ลำบากใจมาก ๆ เพราะไม่รู้จะสรรหาคำพูดอย่างไรที่พูดแล้วดูถนอมน้ำใจ ดูไม่ขวานผ่าซากจนเกินไป อย่างไรก็ตาม จากนี้ไปเราไม่ต้องกังวลใจแล้วค่ะ เพราะนี่คือตัวอย่างประโยคใช้สำหรับปฏิเสธผู้อื่นอย่างน่ารักและอ่อนโยนค่ะ

That sounds great, but… = มันฟังดูดีมากเลย แต่...

Example
A: After finishing working, Shall we go to the night market?          
    (หลังเลิกงานแล้ว เราไปตลาดนัดกลางคืนกันไหม?)
B: That sounds great, but I have to pick up my mom at the mall.   
    (เห้ย มันดีมากเลย แต่ว่าฉันต้องไปรับแม่ที่ห้างสรรพสินค้า)

 
I’m afraid I can’t. I… = ฉันเกรงว่าฉันจะไม่สามารถ (ทำได้/ไปได้) เพราะฉัน...

Example
A: Would you like to come to my party tonight?               
    (คุณสนใจร่วมงานปาร์ตี้ของฉันคืนนี้ไหม?)
B: I’m afraid I can’t. I have early flight tomorrow morning.    
    (ฉันเกรงว่าจะฉันจะไปไม่ได้ พรุ่งนี้ฉันมีบินแต่เช้า)

Thank you so much for asking me, but… = ขอบคุณมากนะที่ถาม แต่ว่า...

Example
A: Do you want some chocolate?                              
    (คุณอยากกินช็อกโกแลตไหม?)
B: Thank you for asking me, but I’m still full right now.    
    (ขอบคุณนะที่ถาม แต่ฉันยังอิ่มอยู่เลย)

I would love to, but… = ฉันก็อยากอยู่นะ แต่...

Example
A: Would you like to join us tonight? We are going to Karaoke?    
    (คุณอยากร่วมวงกับพวกเราไหม คืนนี้เราจะไปร้องคาราโอเกะกัน)
B: I would love to, but I have a dinner with my family.                  
    (ฉันก็อยากไปนะ แต่ฉันมีนัดทานข้าวเย็นกับครอบครัว)

Unfortunately, I can’t because… = โชคไม่ดีจัง ฉันไม่สามารถ (ไป / ทำได้) เพราะ...

Example
A: Would you mind if I ask you to swop the shift with me tomorrow? I’m still feel hank after party.
    (คุณจะว่าอะไรไหม ถ้าฉันขอให้คุณสลับกะทำงานกับฉันพรุ่งนี้ ฉันยังรู้สึกมึนอยู่เลย)
B: Unfortunately, I can’t because I have appointment with doctor.
    (โชคไม่ดีเลย ฉันทำไม่ได้เพราะพรุ่งนี้ฉันมีนัดกับหมอ)