วิธีง่าย ๆ ก็คือ การสังเกตลูกผ่านการเล่นที่ลูกชอบ ซึ่งบางครั้งพ่อแม่หลายคนอาจมองเป็นเรื่องธรรมดา ๆ แต่รู้ไหมคะว่า ในเรื่องธรรมดา ๆ ที่ลูกชอบทำ ชอบเล่นนั้น คือ “สิ่งพิเศษ” ในตัวลูกที่เขาพยายามแสดงออกมาให้เราเห็นค่ะ
เด็กที่ชอบต่อบล็อค ชอบต่อเลโก้ เป็นเด็กที่มีพื้นฐานการสังเกตที่ดี เพราะในการเล่น เขาจะต้องสังเกตและแยกแยะชิ้นส่วนแต่ละชิ้นเพื่อนำมาต่อเข้าด้วยกัน เขาต้องมีการคำนวณความสมดุลให้ได้ว่า ชิ้นไหนจะต้องต่อกับชิ้นไหน เพื่อให้ได้รูปร่างหรือโครงสร้างที่เขาต้องการ สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่สะท้อนให้เห็นถึงความฉลาดในการมองภาพเชื่อมโยง และนำชิ้นส่วนต่าง ๆ มาประกอบให้เป็นรูปร่างตามที่เขาต้องการได้
เด็กที่ชอบเล่นทดลองสิ่งต่าง ๆ ชอบลงมือปฏิบัติ ทดลอง หรือทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยตนเอง เด็กที่มีลักษณะเช่นนี้คือ เด็กที่มีความสามารถในการวิเคราะห์และตั้งสมมติฐานซ่อนอยู่ พวกเขาจะชอบเล่นและพยายามค้นหาคำตอบของสิ่งต่าง ๆ ด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่สำคัญของการเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ดี
เด็กที่สนุกสนานกับการเคลื่อนไหว ไม่อยู่นิ่ง ชอบออกกำลังปีนป่าย และทำกิจกรรมกลางแจ้ง ถือเป็นเด็กที่มีกล้ามเนื้อมัดใหญ่แข็งแรง ร่างกายมีความคล่องแคล่ว ยืดหยุ่นสูง เด็กที่มีลักษณะนี้พ่อแม่ควรพาไปเล่นกีฬา เพื่อให้เขาได้ออกกำลังและใช้ศักยภาพที่ตนเองมีอยู่อย่างเต็มที่ และถ้าพ่อแม่สังเกตได้ว่า ลูกชอบกีฬาใด และให้การส่งเสริมต่อยอดให้ลูกได้รับการฝึกฝน ฝึกซ้อมจนกลายเป็นความสามารถที่โดดเด่น
เด็กที่ชอบวาดรูป ขีดเขียนสิ่งต่าง ๆ เด็กที่มีลักษณะเช่นนี้ เป็นเด็กที่มีจินตนาการ มีความคิดสร้างสรรค์ และที่สำคัญมีความสามารถในการมองภาพและจดจำรายละเอียดต่างๆ เพื่อนำมาวาดเป็นรูปภาพเสมือนจริงได้ สิ่งเหล่านี้ถือเป็นความพิเศษเฉพาะตัวที่ถ้าได้รับการฝึกฝนและหาประสบการณ์เพิ่มเติม ก็จะทำให้ลูกของเรากลายเป็น จิตรกรตัวน้อยได้ไม่ยากเย็น
เด็กที่ชอบฟังและชอบอ่านนิทาน เด็กเหล่านี้ถือเป็นเด็กที่มีความสามารถในเรื่องของภาษา ทั้งการจดจำตัวอักษร การพูดบอกเล่าเรื่องราวในสิ่งที่ตัวเองได้ฟังมา พ่อแม่ควรส่งเสริมให้ลูกได้ฟังและอ่านในสิ่งที่ลูกต้องการ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยส่งเสริมให้ลูกมีความสามารถทางภาษาที่ก้าวหน้ากว่าเด็กคนอื่น และความสามารถทางภาษานี้จะโดดเด่นขึ้นไปเรื่อย ๆ เมื่อลูกได้รับการฝึกฝนและต่อยอดความถนัดตามช่วงวัยอย่างเหมาะสม เช่น การลงประกวดแต่งกลอน เขียนบทความ การพูดสุนทรพจน์ การพูดอภิปราย การแข่งโต้วาที ฯลฯ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนแต่ต้องการการส่งเสริมและสนับสนุนจากพ่อแม่
สุภาพรรณ ศรีสุข (ครูแหม่ม)
ที่ปรึกษาวิชาการ โรงเรียนศิลปพัฒนาการสมองเด็ก K.D.S.