เรื่องของระบบการเข้ามหาวิทยาลัยนั้นมีปัญหาอยู่ทุกปี ไม่มีปีไหนไม่มีปัญหา เรื่องราวของแต่ละปีก็จะแตกต่างกันไป อย่างปี 2561 ที่ผ่านมา มีการเปลี่ยนระบบครั้งใหญ่ จริง ๆ ก็ไม่เชิงเปลี่ยนซะทีเดียว เรียกว่าระบบใหม่ที่เข้ามาจำกัดขอบเขตของการรับเข้าศึกษามากกว่า ระบบใหม่ที่ชื่อว่า TCAS ที่มี 5 รอบ ที่เหมือนจะดีแต่ก็ดีไม่สุด
รอบที่มีปัญหามากที่สุด ก็คือรอบที่ 3 รับตรงร่วมกัน ที่เป็นการรับแบบใหม่ เรามาดูกันว่ารอบที่ 3 ที่มีปัญหานั้น เกิดอะไรขึ้นบ้าง เพราะว่าปีต่อ ๆ ไปก็อาจจะมีปัญหาเหมือนเดิม ปัญหาที่เกิดขึ้น บางทีก็เป็นปัญหาเดิม ๆ ที่เกิดซ้ำ ๆ ขึ้นทุกปี เรามาศึกษาปัญหาของปีที่ผ่านมา ส่วนไหนป้องกันด้วยตัวเองได้ ก็ควรทำเพื่อที่จะได้ไม่พลาดกันนะจ๊ะ
จริง ๆ หากเราตั้งใจที่จะศึกษา มันก็ไม่ได้ซับซ้อนมาก ให้น้อง ๆ ศึกษารูปแบบคร่าว ๆ ของแต่ละรอบก่อน อย่างรอบที่ 1 – 2 ก็คือต้องมีความสามารถหรือคุณสมบัติพิเศษ อย่างเช่น เรียนดี กีฬาเด่น กิจกรรมเน้น รางวัลการแข่งขันด้านวิชาการต่าง ๆ รอบที่ 3 รับตรง ร่วมกัน คุณสมบัติก็จะเฉพาะแต่ละมหาวิทยาลัย รอบที่ 4 แอดมิชชั่น เกณฑ์จะใช้เกณฑ์เดียวกับปีที่ผ่าน ๆ โดยทาง ทปอ. จะประกาศในระเบียบการ แล้วมาดูว่าตัวเองเราเองนั้นมีคุณสมบัติเหมาะกับรอบไหน แล้วค่อยไปหาข้อมูลเพิ่มในรอบนั้น ๆ เช่น น้อง ๆ ส่วนใหญ่ก็จะตั้งเป้าหมายไว้ที่ รอบที่ 3 และรอบที่ 4 ก็ควรติดตามข่าวของ 2 รอบนี้ไว้
เรื่องงินก็เป็นอีกเรื่องที่สำคัญ ค่าสมัครสอบแต่ละวิชา ค่าสมัครสอบยื่นคะแนนแต่ละรอบอีก เยอะมากจริง ๆ ค่ะ ทางหน่วยงานที่รับผิดชอบก็พยายามที่จะลดภาระน้อง ๆ แต่ในส่วนที่ต้องจ่าย เราก็ต้องเตรียมใจค่ะ เงินที่เราจ่ายไปก็เพื่อการดำเนินงานของหน่วยงานต่าง ๆ พี่ ๆ ก็มีทำสรุปค่าไช้จ่ายไว้แต่ละรอบ แต่ละปีไว้ น้อง ๆ ไปเช็คดูและนำไปอธิบายพ่อแม่ไว้ก่อนเลยค่ะ หรือใครไม่ได้ขอพ่อแม่ ก็เตรียมสะสมเงินล่วงหน้าไว้เลยจ้า ปี 62 นี้ ทปอ. บอกว่าจะลดราคาค่าสมัครสอบ ก็น่าจะช่วยแบ่งเบาได้บ้าง
เมื่อมีผู้ใช้งานจำนวนมาก ก็เป็นปกติที่จะทำให้ระบบล่ม น้อง ๆ ก็ไม่ต้องตกใจ ใจเย็น ๆ เข้าไปเช็คเป็นช่วง ๆ และอีกตัวอย่างของการสมัครรอบที่ 3 ปี 61 ระบบเปิด 10 โมง ก็จะมีน้อง ๆ ส่วนหนึ่งที่เปิดปุ๊บสมัครปั๊บ สรุปว่าระบบยังไม่เสถียร การสมัครในครึ่งชั่วโมงแรกข้อมูลเป็นโมฆะหมดเลย น้อง ๆ ที่สมัครตอนแรกก็ต้องสมัครใหม่ จะเรียกว่าต้องเสี่ยงดวงก็ว่าได้ หากจะปกกันการล่มของระบบ น้อง ๆ ไม่ต้องรีบสมัครขนาดนั้น เพราะสมัครช้าหรือสมัครเร็ว ไม่ได้มีผล สิ่งที่มีผลคือต้องทำทุกขั้นตอนให้ครบภายในเวลาที่กำหนด รอให้เปิดไปสัก 1 วันแล้วค่อยสมัครก็ได้ เลือกเวลาการสมัครช่วงที่คิดว่าคนน่าจะน้อย เช่น ช่วงเช้า เป็นต้น สรุป ไม่ต้องรีบและควรเลือกช่วงเวลาดี ๆ
อันนี้ก็อีกปัญหาที่น้อง ๆ ประสบจบเจอ เป็นที่กังวลใจเป็นอย่างมาก ก็อย่างที่พี่ ๆ เตือนอยู่หลาย ๆ ครั้ง ว่าอย่าไปจ่ายวันสุดท้าย อย่าไปจ่ายตอนใกล้หมดเวลา จ่ายแล้วควรติดตามสถานะด้วย ไม่ใช่จ่ายแล้วจบ ต้องเช็คสถานะ!! ขอยกตัวอย่างของน้องคนหนึ่ง ที่จ่ายเงินค่าสมัครในช่วงเวลาที่ทางระบบเค้าขยายเวลาให้ ในระบบระบุไว้แล้วว่า จ่ายแล้วควรเข้ามาเช็คสถานะไม่เกินวันที่… หากสถานะไม่ขึ้นให้รีบแจ้งทาง ทปอ. แต่น้องคนนั้นจ่ายแล้วไม่เช็คสถานะการสมัคร มาเช็คอีกทีตอนประกาศผลสถานะการจ่ายเงินไม่ขึ้น การสมัครเลยเป็นโมฆะ ในเมื่อปัญหามันเกิดขึ้นแล้ว ทาง ทปอ. ก็พยายามช่วย เราก็อย่ารอให้ใครมาช่วยอย่างเดียว และไม่ควรเชื่อใจระบบ น้อง ๆ ปกป้องตัวเองด้วย ควรทำตามขั้นตอนและอ่านเงื่อนไข เช็คสถานะทุกอย่าง เกิดปัญหาจะได้แก้ไขทันค่ะ
อย่างเดียวกับการจ่ายเงินเลยค่ะ เราต้องเช็คสถานะทึกอย่าง การสมัคร การชำระเงิน การยืนยันสิทธิ์ สละสิทธิ์ และหากมีอะไรผิดปกติ ก็ควรแจ้ง หน่วยนั้น ๆ ทันที พร้อมหลักฐานต่าง ๆ
เนื่องจาก ทปอ. ให้น้อง ๆ สละสิทธิ์ได้แบบไม่จำกัด น้อง ๆ ที่สอบติดส่วนใหญ่ก็คว้าโอกาสนั้นไว้โดยที่ยังไม่ไตร่ตรองว่าตัวเองอยากเรียนจริง ๆ หรือเปล่า พอมีคณะ/สาขาที่ถูกใจกว่า ก็ไปสละสิทธิ์แล้วสมัครใหม่ บางคนทำอย่างนี้ 2 – 3 รอบ สละสิทธิ์กันเพลินเลย สาขาที่ว่างก็ต้องนำไปสมถบรอบต่อไป น้อง ๆ ที่ควรติดแต่ไม่ติด ก็โดนยืดระยะเวลาไปอีก และยังมีน้อง ๆ บางส่วนที่สละสิทธิ์แบบไม่เช็คระยะเวลาก่อน เงื่อนไขที่ ทปอ. บอกไว้ว่าควรสละสิทธิ์และได้รับการคืนสิทธิ์ก่อนรอบใหม่ที่เราจะสมัครเปิดรับสมัคร แต่รอบแต่ละรอบก็ไม่ได้เป็นไปตามขอบเขตของเวลา การเปิดรับสมัครหลาย ๆ โครงการทับซ้อนกันกับรอบหลัก ๆ เลยเกิดปัญหา คืนไม่ทันบ้าง และเกิดการสับสนว่าจะสละสิทธิ์ได้หรือไม่ มหาวิทยาลัยก็ต้องเคลียร์น้อง ๆ ที่มาสละสิทธิ์ แบบไม่มีจำกัด หน่วยงานต่าง ๆ ก็ต้องทำงานกันหลายรอบ ในปี 62 นี้ ทปอ. ออกเงื่อนไขใหม่ ใครที่ยืนยันสิทธิ์แล้ว จะมีโอกาศสละสิทธิ์ได้เพียงอีก 1 ครั้งเท่านั้น
เกิดจากเด็กเก่งที่สามารถทำคะแนนได้สูง ๆ และติดได้หลายที่ และที่เป็นประเด็นหนักก็มาจาก กสพท แต่ก่อน กสพท รับสมัครกันเอง แต่ปี 61 เข้ามาอยู่ในรอบที่ 3 ทำให้น้อง ๆ กลุ่มนั้นมีตัวเลือกมากขึ้น เลือก 4 อันดับของ กสพท แล้ว ยังได้เลือกอีก 3 อันดับในสาขาวิชาปกติด้วย รวมเป็น 7 อันดับ และด้วยเงื่อนไขติดได้สูงสุด 4 ที่ เลยทำให้เด็กส่วนหนึ่ง ติดหมอด้วย ติดคณะสำรองต่าง ๆ ของตัวเองด้วย คณะที่ควรจะได้เด็ก ก็ไม่ได้ เพราะโดนเด็กสละสิทธิ์กันหมด เด็กที่ควรจะติดก็ไม่ติด เพราะโดนเด็กเก่งกั๊กกี่ วุ่นวายจนเกิดรอบ 3/2 ขึ้นมาแบบเฉพาะกิจ ก็แก้ปัญหาไปได้ เพราะเหลือน้อง ๆ ไปรอบที่ 4 น้อยลงกว่าปีก่อน สำหรับปี 62 กสพท ก็ยังอยู่ในรอบที่ 3 แต่ทุกคนที่สมัครรอบ 3 จะเลือกได้ 6 ตัวเลือก แบบมีลำดับ และติดได้ที่เดียว น้อง ๆ กลุ่ม กสพท และน้อง ๆ กลุ่ม ปกติ มีสิทธิ์เลือกทุกอย่างเท่าเทียมกัน หากเป็นแบบนี้แล้ว ปี 62 นี้ ทางมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ก็ต้องประกาศคะแนนสูงต่ำของแต่ละคณะ/สาขาวิชาออกมา เพื่อให้น้อง ๆ ได้เปรียบเทียบและจัดอันทั้ง 6 ได้ ต้องติดตามกันต่อไป
รายละเอียดต่าง ๆ ที่น้อง ๆ พลาดกัน ส่วนใหญ่ก็มีระบุไว้ในระเบียบการ แต่บางทีเราดูไม่ครบ อ่านไม่ละเอียด และบางทีหาระเบียบการไม่เจอ ในแต่ละรอบ ทางมหาวิทยาลัยจะประกาศระเบียบการออกมาเป็นช่วง ๆ น้อง ๆ ศึกษามาแล้วว่ารอบไหน รับสมัครช่วงไหน ก็ให้ติดตามข่าวรับตรงโควตาต่าง ๆ ในช่วงเวลานั้นไว้ รอบทที่ 1 – 2 ระเบียบการจะแยกโครงการ บางมหาวิทยาลัยไม่ได้มีแค่โครงการเดียว รอบที่ 3 มหาวิทยาลัยแยกมหาวิทยาลัย และจะประกาศแค่ฉบับเดียว ไม่มีแยกโครงการ รอบที่ 4 ทปอ. จะออกระเบียบการมาให้ รวมทุก ๆ ม. ไว้ การอ่านระเบียบการสำคัญนะคะ ไม่อยากให้น้อง ๆ ละเลย เพราะในนั้นมีคุณบัติ เกณฑ์การคัดเลือก คะแนนขั้นต่ำ บอกไว้ชัดเจน
ก่อนTCAS รอบที่ 1 จะเริ่มต้นขึ้น ทางมหาวิทยาลัยมีวางแผนการรับนักศึกษาอยู่แล้ว และมีบอกว่าจะรับในรอบไหนบ้าง ข้อมูลส่วนนี้มีอยู่ในเว็บไซต์ของ TCAS นะคะ น้อง ๆ จะสามารถดูได้ว่า คระ/สาขา ที่ตัวเองสนใจเปิดรับรอบไหนบ้าง เพียงแต่เกณฑ์การคัดเลือกและจำนวนรับอาจมีเปลี่ยนแปลงในรอบการสมัครจริง ซึ่งพอถึงตอนนั้นก็จะมีระเบียบการสมัครเฉพาะรอบนั้นออกมาอีกที
นานขนาดที่ว่า ม. 4, ม. 5 เปิดเทอมแล้ว ม. 6 ยังไม่มีที่เรียน นานจนพ่อแม่ผู้ปกครองวิตกกังวลคิดว่าลูกหลานตัวเองจะไม่มีที่เรียน จริง ๆ แค่ยังไม่ถึงกำหนดยื่นสมัคร ! สำหรับปี 62 Timeline ต่าง ๆ ได้ถูกลดระยะเวลาลงแล้ว ทุกรอบจะจบลงภายในเดือนมิถุนายน น้อง ๆ เองก็ควรที่จะบอกพ่อแม่ผู้ปกครองไว้ด้วยว่าอะไรจะสอบเมื่อไหร่ สมัครเมื่อไหร่ ประกาศผลวันไหน ไม่ใช่โดนถามแล้วตอบแค่ว่ายังไม่ติด ต้องอธิบายระยะเวลาด้วยนะคะ
ปัญหามันต้องมีอยู่แล้วทุกปี ทางหน่วยงานที่รับผิดชอบและดูแลเรื่องระบบเข้ามหาวิทยาลัย อย่าง ทปอ. หรือทั้งมหาวิทยาลัยเอง ต่างฝ่ายต่างก็กำลังปรับปรุงแก้ไข และตัวน้อง ๆ นักเรียนเอง ก็ควรที่จะช่วยเหลือตัวเองด้วย เพื่อผลประโยชน์ของตัวเองนะคะ