“ลูกของใครใครก็รัก” ประโยคคุ้นหูที่เราได้ยินกันมานาน แต่จะทำอย่างไรให้ลูกของเราสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข

ทำอย่างไรให้ลูกเป็นเด็กดี เป็นที่รักและเอ็นดูกับคนรอบข้าง หรือใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุขด้วยนั้น คงเป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ทุกคนอยากรู้ วันนี้เรามีวิธีง่าย ๆ มาฝากกันค่ะ

วิธีการ

1. เด็กดีสร้างได้ เมื่อลูกมีความสุข

การฝึกลูกให้เป็นเด็กดีนั้น เริ่มต้นจากการสร้างให้ลูกเป็นเด็กที่มีความสุขเสียก่อน เมื่อลูกเป็นเด็กที่มีความสุข เขาจะเป็นเด็กที่มีอารมณ์ดี มีวุฒิภาวะที่มั่นคง และรู้จักส่งต่อความสุขให้กับคนอื่น เราจะเห็นได้ว่าเด็กที่อารมณ์ดี มักจะเป็นเด็กที่ร่าเริงแจ่มใส ชอบแบ่งปัน และชอบช่วยเหลือผู้อื่น จึงเป็นที่รักของเพื่อน ๆ และกลุ่มคนที่พบเห็น จงเชื่อเถอะว่าเมื่อเราส่งต่อพลังงานด้านบวกออกไป เราก็จะได้รับพลังงานด้านบวกกลับมาเช่นกัน

2. เมื่อลูกเข้าใจตัวเอง จะรู้จักรักผู้อื่น

ในการที่ลูกจะออกไปใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุข คุณพ่อคุณแม่ต้องฝึกฝนและพัฒนาทักษะทางด้านอารมณ์ของลูกให้มีความมั่นคงเสียก่อน

ความมั่นคงทางอารมณ์นี้ก็คือ การสอนให้ลูกรับรู้และเข้าใจอารมณ์พื้นฐานของตนเอง รู้จักควบคุมอารมณ์ของตนเองเมื่อต้องอยู่ร่วมกับผู้อื่น โดยวิธีง่าย ๆ ในการฝึกให้ลูกรู้จักและเข้าใจอารมณ์ของตนเองก็คือ การฝึกให้ลูกได้เผชิญกับปัญหา และหาคำตอบด้วยตนเอง ถึงแม้ในบางครั้งการแก้ปัญหาของลูกอาจจะยังไม่สำเร็จ แต่ขอให้พ่อแม่จงชมเชย และให้กำลังใจ ซึ่งจะเป็นการช่วยให้เด็กเกิดความพยายาม ทำความเข้าใจ และจดจำได้ด้วยตนเองว่าสิ่งไหนคือสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำ อันจะนำไปสู่การปรับใช้ และทำพฤติกรรมที่เหมาะสมในอนาคต

3. มารยาท คือ เสน่ห์ของลูก

คุณพ่อคุณแม่ควรสอนมารยาทที่ถูกต้อง เพื่อให้ลูกนำไปใช้ในโอกาสต่าง ๆ เช่น การรู้จักการกล่างทักทาย “สวัสดี” หรือ “ขอบคุณ – ขอโทษ” โดยเริ่มจากพ่อแม่ที่ต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูก ฝึกพฤติกรรรมเหล่านี้ให้คุ้นชินตั้งแต่ในบ้าน ซี่งลูกก็จะซึมซับและจดจำสิ่งดี ๆ และนำไปปรับใช้ได้ เมื่อถึงเวลาที่ลูกต้องออกไปพบเจอผู้ใหญ่หรือบุคคลต่าง ๆ ในสังคม ความอ่อนน้อมถ่อมตน และพฤติกรรมเหล่านี้ก็จะสร้างเสน่ห์ให้ลูกเป็นที่รักของผู้พบเห็นได้ไม่ยาก

4. เด็กมีน้ำใจ ใครเห็นก็รัก

เริ่มต้นง่าย ๆ ด้วยการทำกิจกรรมร่วมกันภายในครอบครัว เริ่มจากการฝึกให้ลูกช่วยเหลือพ่อแม่จากสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ลูกสามารถทำได้ เช่น ช่วยกันทำกับข้าว หรือปลูกต้นไม้ เมื่อลูกช่วยพ่อแม่อย่าลืมชมเชย และให้กำลังใจลูก สิ่งนี้จะทำให้ลูกเกิดกำลังใจในการช่วยเหลือผู้อื่น และจะช่วยหล่อหลอมให้ลูกกลายเป็นเด็กที่มีน้ำใจ ชอบช่วยเหลือผู้อื่น ซึ่งการที่ลูกของเราเป็นเด็กดีมีน้ำใจ ก็จะทำให้สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข

เพราะในวัยเด็ก คือช่วงวัยของการเรียนรู้และต้องการต้นแบบที่ดี ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุด เมื่อคุณพ่อคุณแม่ต้องการที่จะสอนเรื่องใด การเป็นต้นแบบที่ดีให้ลูกเห็นจึงเป็นสิ่งสำคัญ เช่น ถ้าคุณพ่อคุณแม่อยากให้ลูกมีน้ำใจ จงแสดงออกถึงความมีน้ำใจให้ลูกเห็นบ่อย ๆ แล้วลูกจะเรียนรู้จากพฤติกรรมที่เห็น และแสดงออกเมื่อตนเองมีโอกาส หากคุณพ่อคุณแม่เลี้ยงดู ให้ความเอาใจใส่ และเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูกตั้งแต่แรกเริ่ม ลูกก็จะเติบโตอย่างมีคุณภาพ และเป็นบุคคลคุณภาพที่สังคมต้องการ

สุภาพรรณ ศรีสุข (ครูแหม่ม)
ที่ปรึกษาวิชาการ โรงเรียนศิลปพัฒนาการสมองเด็ก K.D.S.