คำนี้มีความหมายเหมือนกับคำว่า Really ว่า โดยแท้จริง เราสามารถใช้ทั้งสองคำนี้แทนกันได้ค่ะ ดังตัวอย่างนี้
Ex. What actually happened last night? = What really happened last night?
(จริง ๆ แล้วเมื่อคืนนี้เกิดอะไรขึ้นเหรอ?)
Ex. I didn’t actually go to Chaing Mai anymore, but my mother forced me to go.
(ฉันไม่ต้องการที่จะไปเชียงใหม่จริง ๆ นะ แต่แม่ฉันบังคับให้ฉันไป)
ส่วนใหญ่จะใช้ในประโยคที่คู่สนทนาถามคำถาม แล้วเราตอบกลับไป ซึ่งสิ่งนั่นอาจเป็นสิ่งที่ถูกต้องหรือไม่ถูกต้องก็ได้ เช่น
Ex. A: Are you from Bangkok?
(คุณมาจากกรุงเทพหรือเปล่า?)
B: Actually, no. I’m from Chonburi.
(จริง ๆ แล้วฉันมาจากชลบุรีนะ)
**เป็นการพูดย้ำปฏิเสธว่า ฉันไม่ได้มาจากกรุงเทพ แต่มาจากชลบุรีนะ
Ex. A: Do you think, My boyfriend looks like Nadech?
(เธอคิดว่าแฟนฉันหน้าเหมือนณเดชน์ป้ะ
B: Actually, no. he’s not.
(ไม่นะ ไม่เหมือน ไม่เลยยยยย)
**ต้องมั่นหน้าขนาดไหนถึงถามคำถามแบบนี้คะ >_<
ใช้พูดในประโยคสิ่งที่ขัดแย้งกัน เช่น
Ex. I didn’t like him at first, but in the end I was actually in love with him.
(ตอนแรกฉันไม่ชอบเขาเลยนะ แต่สุดท้ายแล้วฉันก็รักกับเขาอะ)
Ex. I love dessert, but I actually don’t like chocolate
(ฉันชอบกินของหวานนะ แต่จริง ๆ แล้วฉันไม่ชอบกินช็อกโกแลต)
**เป็นประโยคแสดงความขัดแย้งว่า ฉันก็กินทุกอย่างที่เป็นของหวานนะแต่ยกเว้นช็อกโกแลต
ใช้ในการสารภาพหรือยอมรับการกระทำบางสิ่งบางอย่างที่เราทำไป เช่น
Ex. A: Did you go to the cinema with Bambam yesterday?
(เมื่อวานนี้แกไปดูหนังกับแบมแบมมาหรือเปล่าอะ)
B: Umm, Actually, yes, I did.
(เอิ่มมม ใช่ ฉันไปกับเขามา)
**อารมณ์ประมาณว่าไม่อยากบอกแต่ก็ต้องยอมรับว่าไปมาค่ะ
คำนี้ใช้ในการบอกข้อมูลเพิ่มเติมที่เราอยากบอก เช่น
Ex. I’m a teacher and so are both mother, actually.
(ฉันเป็นครูและฉันก็เป็นแม่ด้วยนะ)