เทอร์โมมิเตอร์หรือที่เรียกกันจนคุ้นเคยว่า ปรอทวัดไข้ เป็นเครื่องมือที่มีลักษณะเป็นหลอดทรงยาวแคบ ทำมาจากแก้วชนิด Pyrex glass ภายในบรรจุสารเคมีที่ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงอุณภูมิอย่างสม่ำเสมอ ก็คือ ปรอท (Hg) ซึ่งเป็นธาตุในกลุ่มโลหะทรานซิชัน มีมวลอะตอม 200.589 กรัมต่อโมล มีจุดหลอมเหลวหรือจุดเยือกแข็งที่ -38.83°C และมีจุดเดือดที่ 356.73°C มีความหนาแน่น 13.53 กรัมต่อลูกบาศก์เซนติเมตร
เนื่องจากปรอทมีจุดเดือดและจุดเยือกแข็งดังที่กล่าวมา เมื่ออยู่ในอุณหภูมิปกติหรืออุณหภูมิประมาณ 25°C จึงทำให้เราสังเกตเห็นปรอทอยู่ในสถานะของเหลวสีเงินภายในเทอร์โมมิเตอร์ เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ ระดับของปรอทในเทอร์โมมิเตอร์ก็จะมีการเปลี่ยนแปลง ทำให้เราสามารถทราบค่าอุณหภูมิที่เปลี่ยนไปได้
สภาพปกติของเทอร์โมมิเตอร์ คือ หลอดแก้วบรรจุของเหลวที่มีลักษณะแคบมาก เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงปริมาตรของของเหลวนั้นตามมา โดยของเหลวจะมีการขยายตัวตามภาชนะที่บรรจุ ปรอทจึงเคลื่อนที่ในลักษณะของการขึ้นและลงในทิศทางเดียว
ช่วงใกล้ปลายศตวรรษที่ 16 นักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมัน แดเนียล กาเบรียล ฟาเรนไฮน์ ได้เลือกใช้ปรอทมาบรรจุในเครื่องมือวัดที่เรียกว่า เทอร์โมมิเตอร์ ซึ่งเป็นของเหลวที่มีพฤติกรรมการขยายตัวและตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิอย่างสม่ำเสมอ และมีจุดเยือกแข็งต่ำมาก รวมทั้งสีเงินของปรอททำให้มองเห็นการเปลี่ยนแปลงระดับของอุณหภูมิในเครื่องมือวัดได้ง่าย