สำนวนนี้สามารถใช้ในความหมายว่า ฉันชื่นชอบมันเหลือเกิน ออกไปในแนวคลั่งไคล้เลยก็ว่าได้ เพราะคำว่า crazy นอกจากจะแปลว่า บ้า ยังอาจหมายถึงคลั่งไคล้ได้อีกด้วย เช่น
I listen to this song all day. I’m crazy about it.
(ฉันฟังเพลงนี้ตลอดทั้งวัน ฉันชอบ / คลั่งไคล้มันมาก)
It’s right up my street เป็นสำนวนที่ต้องอาศัยการตีความในการแปลความหมาย เพราะไม่เช่นนั้นเราคงจะงงว่า เอ๊ะ ความชอบมันเกี่ยวกับถนนอย่างไร โดยที่จริงแล้วสำนวนนี้แปลคร่าว ๆ หมายถึง ชอบ (อารมณ์แบบเข้าทางฉันเลย) เช่น
I think Jurassic World is my favorite movie. It’s right up my street.
(ฉันคิดว่าจูราสสิคเวิล์ดเป็นภาพยนตร์เรื่องโปรดของฉัน มันเข้าทางฉันมาก = ฉันชอบ)
หากเราไม่ทราบมาก่อนเราอาจแปลประโยคนี้ว่า ฉันขุดมัน แต่ที่จริงแล้วคำว่า dig สามารถแปลได้อีกสามความหมายคือ เข้าใจหรือรู้ ดูหรือจ้อง และชื่นชอบ โดยวันนี้ขอเสนอสำนวน I dig it ที่แปลว่าชอบ เช่น
Her clothes looked so great. I dig it.
(เสื้อผ้าของหล่อนดูดีมาก ฉันชอบมัน)
ลองสังเกต passionate ตัวเดียวนะคะ มีชนิดของคำเป็น adjective หมายถึง เร่าร้อน / ตัณหาจัด ความหมายจะส่อไปทาง 18+ หน่อย แต่เมื่อคำนี้รวมอยู่ในสำนวนนี้มีความหมายว่า หลงใหลหรือชื่นชอบ เช่น
All of my stuff is pink color. I’m passionate about it.
(สิ่งของทุกอย่างของฉันเป็นสีชมพู ฉันหลงใหลมัน = ชอบสีชมพูมาก)
สำนวนนี้มีความหมายประมาณว่าชอบมาก เหมือนเวลาเราชอบอะไรแล้วเราอยากได้อยากมีอีกถึงขนาดได้เท่าไหร่ก็ยังไม่พอ โดยใช้ในความหมายเชิงบวกนะคะ เช่น
I can’t get enough of the ice-cream.
(ฉันชอบรับประทานไอศกรีมมาก = อารมณ์แบบกินเท่าไหร่ก็ยังไม่พอ)
(ฉันชอบคุณมาก) >> สำนวนนี้สามารถนำไปใช้หยอดคนรักได้เลยนะคะ
สำนวนนี้ให้ความรู้สึกเหมือนกับว่า เวลาเราชอบอะไรเราจะโฟกัสแต่สิ่งนั้น เหมือนกับมี spotlight ไปส่องอยู่ที่จุดนั้น เช่น
Dwin always has got a soft spot for Alice.
(ดวินชอบอลิซมาก) >> สำนวนนี้สามารถนำไปใช้หยอดคนรักได้เลยนะคะ โดยสามารถเปลี่ยนประธานและกรรมได้
สำนวนนี้แปลความหมายได้ว่า สิ่งนั้นไม่ได้มีไว้สำหรับฉัน มันน่าจะไม่เหมาะและฉันไม่ชอบ เช่น
I don’t want to date with him. That’s not for me.
(ฉันไม่อยากไปออกเดทกับเขา เขาไม่เหมาะกับฉัน = ฉันไม่ชอบ)
สำนวนนี้ให้สังเกตคำว่า into ซึ่งเรามักใช้กันสั้น ๆ ว่า ‘อิน’ ในที่นี้กำลังสื่อว่า ฉันไม่อิน ฉันไม่ชอบ เช่น
Could you change the song please? I’m not into it.
(คุณช่วยเปลี่ยนเพลงได้หรือเปล่าคะ ฉันไม่ชอบ/ไม่อิน)
สำนวนนี้ถ้าแปลตรงตัวความหมายจะผิดเพี้ยนไปนะคะ โดยสำนวนนี้หมายถึง ฉันไม่สามารถทนมันได้ เพราะฉันไม่ชอบมาก ๆ เช่น
This classroom is too cold to live in it. I can’t stand it anymore.
(ห้องเรียนนี้เย็นเกินไปที่จะอยู่ ฉันทนไม่ไหวอีกต่อไป)
หลายคนอาจจะไม่ค่อยคุ้นหูกับสำนวนนี้ โดย bear นอกจากจะแปลว่าหมีแล้ว ยังแปลว่า อดทนได้อีกด้วย ซึ่งจากสำนวนนี้จึงมีความหมายว่า ฉันไม่สามารถทนมันได้ ความหมายจะคล้ายคลึงกับ I can’t stand it. โดยทั้งสองสำนวนนี้มีโครงสร้างคือ I can’t stand / I can’t bear + N. / V.ing เช่น
Mary can’t bear living with her selfish husband.
(แมรี่ไม่สามารถทนอยู่อาศัยกับสามีที่เห็นแก่ตัวของหล่อนได้)
‘มันไม่ใช้ถ้วยชาของฉัน’ ถ้าแปลตรงตัวอาจจะได้ความหมายนี้ แต่แท้จริงแล้วสำนวนนี้หมายถึง ฉันไม่ชอบหรือไม่ถูกชะตา เช่น
Physics is very difficult to understand. It’s not my cup of tea.
(วิชาฟิสิกส์เป็นวิชาที่ยากต่อการเข้าใจ มันไม่ใช่วิชาโปรดของฉัน = ฉันไม่ชอบ)
คำว่า float my boat แปลว่า ทำให้เรือของฉันลอย โดยเมื่อตีความสำนวนนี้แล้วจึงหมายถึงว่า ถ้าเรือลอยแปลว่าเรามีความสุข เพราะฉะนั้นเราชอบมัน แต่ถ้ามันไม่สามารถทำให้เรือของฉันลอยได้ก็ตีความได้ว่าฉันไม่ชอบมัน ทั้งนี้คำว่า my สามารถเปลี่ยนเป็นสรรพนามคำอื่น ๆ ได้เช่นกัน เช่น
A: How about your new job?
(งานใหม่ของคุณเป็นอย่างไรบ้าง)
B: I think it doesn’t float my boat.
(ฉันคิดว่ามันไม่ได้ทำให้ฉันมีความสุข = ฉันไม่ชอบ)
สำนวนนี้หมายถึง มันไม่ได้กระตุ้นความรู้สึกหรือดึงดูดฉัน ตีความหมายได้ว่าฉันไม่ชอบหรือไม่สนใจก็ได้ เช่น
This book was very boring. It doesn’t tickle my fancy.
(หนังสือเล่มนี้น่าเบื่อมาก มันไม่ได้ดึงดูดฉัน = ฉันไม่ชอบ)
Natalee want to quit her job. It doesn’t tickle her fancy.
(นาตาลีต้องการลาออกจากงานของหล่อน มันไม่ได้ดึงดูดความสนใจของหล่อน = ไม่ชอบ)