เพราะในความเป็นจริงแล้ว คำพูดชมเชยในลักษณะนี้ ไม่ได้จัดว่าเป็นคำพูดสำหรับการชมเชยที่แท้จริง และอาจจะไม่สามารถช่วยส่งเสริมให้เกิดพฤติกรรมที่ดีในอนาคตได้อย่างที่ควรเป็น เนื่องจากมันไม่มีการเชื่อมโยงกับพฤติกรรม และยังเป็นการให้น้ำหนักไปที่เรื่องราว "ทั่ว ๆ ไป" มากกว่าเป็นการบอกให้เด็กรู้ว่า "อะไร" คือสิ่งที่เขาทำแล้วได้คำชมนี้
ทั้งนี้ การชมที่เหมาะสม ควรเป็นการชมที่จะสร้างแรงจูงใจจากภายใน (อยากทำซ้ำอีกด้วยตัวเอง) มากกว่าคำพูดที่สร้างแรงจูงใจจากภายนอก (ทำเพราะอยากจะได้คำชม)
ทีนี้เราลองมาดูตัวอย่างกันนะคะว่า คำพูดชมเชยและให้กำลังใจแบบไหนกันนะ ที่ควรเลือกมาใช้แทนที่คำชมแบบเดิม ๆ วันนี้ครูพิมลองยกมาฝากกันหลายคำพูดเลยทีเดียว ซึ่งน่าจะครอบคลุมได้หลายสถานการณ์ทีเดียว มาดูกันค่ะว่า มีคำพูดอะไรบ้าง
เช่น ขอบใจนะจ๊ะที่ช่วยแม่ดูน้อง ขอบใจนะลูกที่ช่วยพ่อล้างรถ เป็นต้นค่ะ
เช่น ดูสวนที่ลูกช่วยพ่อรดน้ำสิ ต้นไม้ออกดอกสวยเชียว
เช่น ครูเห็นนะจ๊ะว่าหนูตั้งใจเรียนมากแค่ไหน / แม่เห็นแล้วจ้ะว่าลูกตั้งใจอ่านหนังสือมากเลย
เช่น แม่ภูมิใจในตัวหนูมากเลยนะที่ตั้งใจเรียนหนังสือจนได้คะแนนขนาดนี้
เช่น จานมันเยอะอยู่นะจ๊ะ แต่ลูกก็ช่วยแม่ล้างหมดเลย เก่งจริง ๆ
ประโยคนี้อาจจะนำมาใช้เมื่อลูกพูดถึงเรื่องราวหรือชี้ให้เราเห็นอะไรสักอย่างที่มีความละเอียดหรือเล็ก ๆ น้อย ๆ จนเราอาจจะมองข้าม แม้บางครั้งไม่ใช่เรื่องที่ให้ประโยชน์อะไรโดยตรง
เช่น เราซื้อของเล่นให้ แล้วลูกทะนุถนอม หรือเล่นอย่างระมัดระวัง เราก็ควรจะให้คำชมบ้างเป็นครั้งคราวค่ะ ดีกว่าการละเลยจากการที่คิดไปว่ารักษาของก็เป็นเรื่องที่สมควรแล้ว หรือรอแต่จะตำหนิเมื่อมันเสียหายไปแล้วเพียงอย่างเดียวค่ะ
ครูพิม ณัฏฐณี สุขปรีดี
นักจิตวิทยาผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาศักยภาพเด็กเล็กและการเลี้ยงลูกเชิงบวก