ลองไปเดินทั่วไร่มาแล้วบอกเลยว่ากว้างมาก ๆ พืชผลที่ปลูกก็มีหลายชนิด เช่น จิงจูฉ่าย เก๊กฮวย มะเขือเทศ กระเจี๊ยบเขียวญี่ปุ่น เบบี้แครอท ใบมินท์ เลมอน ผักสลัด หญ้าเนเปีย บ้านชันโรงไว้ผสมเกสร ฯลฯ ปลอดสารพิษและสดจริง ๆ เด็ดชิมจากต้นยังได้เลย พืชผักผลไม้ที่ปลูกเป็นแบบผสมผสานหมุนเวียนไปตามฤดูกาล เพื่อไว้ใช้เป็นวัตถุดิบทำอาหารในไร่ ถ้าเหลือถึงจะแบ่งขาย เป็นการส่งเสริมให้ชุมชมเครือข่ายที่ปลูกมีรายได้ยั่งยืนอีกด้วย
สดจากฟาร์มจริง ๆ กับวิวธรรมชาติ 360 องศา เมนูอาหารที่นี่ใช้วัตถุดิบหลักจากไร่โดยตรงและชุมชนเครือข่าย ปลูกเองปรุงเอง ได้อาหารที่สด ปลอดภัย ดีต่อสุขภาพ เช่น ข้าวยำไร่ทุ่ง ยำจิงจูฉ่ายทอดกรอบ ข้าวผัดปลาร้ายำปลาทูกรอบ จิงจูฉ่ายลาเต้ วาฟเฟิลข้าวหอมนิล จิงจูฉ่ายเป็นวัตถุดิบหลักเฉพาะที่นี่ รสชาติคล้าย ๆ ชาเขียว หอมอร่อยดีนะ
เวิร์กชอปเรียนรู้การทำเกษตรอินทรีย์แบบยั่งยืน ทำปุ๋ยและเลี้ยงสัตว์แบบพึ่งพา เรียนรู้พลังงานสะอาดเพื่อนำไปประยุกต์ใช้และเชื่อมโยงกับการทำเกษตร มีอยู่หลายคอร์สแล้วแต่ความสนใจ เช่น คอร์สเตรียมกลับบ้าน คอร์สซุปเปอร์มาร์เก็ตในบ้าน คอร์สทำนา คอร์สมัดย้อมธรรมชาติ คอร์สเบลนชา และมีให้อาหารเป็ดไก่และแพะแกะ ปั่นจักรยาน และเดินชมแปลงต่าง ๆ ในไร่ ทุกสถานีจะมีแกนหลักเป็นธรรมชาติ ส่วนราคาแบบวันเดย์ทริปก็เริ่มที่ประมาณห้าร้อยบาท แต่ถ้ามากกว่านั้นต้องเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ไร่รื่นรมย์ หรือ เพจเฟซบุ๊ก ไร่รื่นรมย์
ฟิวธรรมชาติสบาย ๆ คือไปที่นี่แล้วรู้สึกแฮปปี้มาก โซนที่พักก็มีทั้งแบบรีสอร์ทและกางเต็นท์ แถมมีกิจกรรมรอบกองไฟ ปิ้งย่างได้ด้วย ที่สำคัญมีความเป็นส่วนตัวและปลอดภัยแน่นอน ถ้าใครอยากลองมาเที่ยวแบบใกล้ชิดธรรมชาติ เชื่อมโยงกับชุมชนท้องถิ่น ลองไปเปิดประสบการณ์ให้ตัวเองผ่านการรับรู้กับคอนเซ็ปต์ 'กิน อยู่ รู้ นอน' ได้ที่ไร่รื่นรมย์กันเลย
Must Know
- ระยะทางจากสนามบินเชียงรายไปไร่รื่นรมย์ 75.2 กม. ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชม. ควรเผื่อเวลาเดินทางเข้าไร่ก่อนพระอาทิตย์ตก เพราะทางที่เข้าไร่อีก 5 กม. เป็นถนนลูกรังขรุขระ
- แนะนำให้จองคอร์สเวิร์กชอปที่จะทำก่อนมา เพราะว่ารับคนจำนวนจำกัดและค่อนข้างเต็มไว
- ถ้าค้างคืนจะสามารถรอไปถ่ายรูปตอนที่แกะเดินกลับบ้านได้ อุ้มถ่ายรูปก็ได้ด้วย
เรื่องและภาพ : วรรณวิสา สุภีโส