ในภาษาอังกฤษมีสำนวนที่สื่อความหมายถึง ‘ลูกแหง่’ 2 สำนวนด้วยกันคือ daddy’s girl และ mama’s boy ซึ่งมีความหมายในเชิงลึกต่างกัน ดังนี้
daddy’s girl ใช้พูดถึงลูกสาวที่ยังเป็นเด็กหรือโตเป็นผู้ใหญ่แล้วที่ใกล้ชิดสนิทสนมกับพ่อมากกว่าแม่ เรียกว่าเป็นลูกแหง่ของพ่อ มักขี้อ้อนกับพ่อ ชอบให้พ่อโอ๋ สำนวนนี้จะมีความหมายในเชิงบวก มีความน่ารักน่าเอ็นดู เช่น
Pim is a daddy’s girl.
(พิมเป็นลูกแหง่ติดพ่อ)
I’m very close to my dad and everyone calls me daddy’s girl.
(ฉันสนิทกับพ่อมาก ๆ และทุกคนเรียกฉันว่าลูกแหง่)
นอกจากนี้สามารถใช้วลี daddy’s little girl หรือ That’s my girl แสดงความรักหรือภูมิใจได้โดยปราศจากการแฝงนัยความหมายว่าเป็นเด็กที่ถูกตามใจ
mama’s boy หรือ mother-bonded คือ เด็กผู้ชาย หรือลูกชายที่โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว แต่ยังติดแม่ อยากอยู่กับแม่ตลอดเวลา ให้แม่ทำทุกสิ่งให้ มีลักษณะขี้ฟ้อง ขี้อาย เวลาเจอปัญหาอะไรมักจะไปฟ้องแม่เพื่อให้แม่ปกป้อง ดังนั้นสำนวนนี้จึงมีความหมายไปในเชิงลบมากกว่า เช่น
My boyfriend doesn’t even know how to use a washer. I’m not surprised. He’s a mama’s boy.
(แฟนของฉันไม่เคยรู้ว่าเครื่องซักผ้าใช้อย่างไร ฉันไม่แปลกใจเลย ก็เขาเป็นลูกแหง่นี่นะ)