10,268 Views
Favorite
วันคะแนนสอบออกเป็นอีกวันที่ชีวิตวัยเรียนลุ้นระทึก กังวัลกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น ว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามที่เราหวังไหม คะแนนที่ออกมาจะได้เท่าไหร่ เพราะคะแนนสอบมีผลกับการเรียนต่อมหาวิทยาลัย ใคร ๆ ก็อยากเรียนในที่ที่ฝันไว้ คนได้คะแนนเยอะก็คงรู้สึกแฮปปี้ แต่คนได้คะแนนน้อยนี่สิจะทำยังไงต่อดี ทั้งเสียใจทั้งผิดหวัง แล้วยังต้องกังวลอีกว่าคะแนนน้อยแบบนี้จะบอกพ่อแม่ยังไงดี เพราะกลัวพ่อแม่จะว่าเอาที่คะแนนออกมาไม่ดี ภาวะแบบนี้เกิดขึ้นกับเด็กไทยทุกปี เอาล่ะ ! ในเมื่อปัญหาเกิดแล้วเราก็มาหาทางออกกันเลย
แมน ๆ คุยกันไปเลย พอคะแนนออกเราเสียใจได้ ผิดหวังได้ แต่อย่ากังวลจนกลัวไม่กล้าบอกพ่อแม่ เพราะถึงยังไงสักวันเราก็ต้องบอกอยู่ดี หรือไม่พ่อแม่ก็ต้องถามกลับมาว่าได้คะแนนเท่าไหร่ (เป็นคำถามที่เสียวสันหลังมาก) เผชิญความจริงกล้ายอมรับแล้วบอกออกไปเลย ยังไงผลก็ออกมาเป็นแบบนี้แล้ว เราคงหนีหรือเปลี่ยนตัวเลขบนใบคะแนนไม่ได้ ก็ทำใจสู้บอกกับพ่อแม่ว่าคะแนนออกมาไม่ดีนะ เราต้องฝึกเป็นคนที่อยู่กับความจริง ยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น แล้วก็กล้าอย่าหลบหนีปัญหาหรือสิ่งที่เราไม่ได้ต้องการให้เกิด ยังไงนี่ก็คือพ่อแม่ของเราเอง หลังรู้คะแนนแล้วก็คงมีตำหนิ สอน ตักเตือนอยู่แล้ว แต่พี่เชื่อว่าพ่อแม่ก็คงมีเหตุผลและเจตนาที่ดีในการสอน น้องต้องกล้าบอกแล้วก็อย่ากลัวคำสอนจากพ่อแม่ เพราะสุดท้ายแล้วคนที่ช่วยน้องได้ในทุกเรื่องก็คือพ่อแม่
พอเราใจดีสู้เสือกล้าบอกคะแนนพ่อแม่ไปแล้ว ก็มาต่อกันเลยที่การขอความเห็นใจจากพ่อแม่ (พ่อจ๋าแม่จ๋าอย่าดุหนูเลย) ก็อย่างที่บอกไปแล้วว่ามันเกิดขึ้นมาแล้วเราก็ต้องหาทางออก ทางออกแรกที่จะทำให้เราสบายใจขึ้นคือการขอให้พ่อแม่เข้าใจ เพราะพี่เชื่อว่าน้อง ๆ ต้องการให้พ่อแม่เข้าใจอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรเราก็อยากได้ความเข้าใจจากพ่อแม่ที่สุด บอกไปเลยว่าเรายอมรับในผลที่เกิดขึ้น ยอมรับผิดกับคะแนนที่ออกมาไม่ดี ขอโทษที่ทำให้พ่อแม่ผิดหวัง แต่อยากให้เข้าใจว่าที่ผ่านมาเราพยายามแล้วก็ทำอย่างเต็มที่แล้ว ไม่ได้คิดไว้ว่าผลจะออกมาแบบนี้ ยอมรับผิดแล้วก็บอกถึงเหตุผล พี่ว่ายังไงพ่อแม่ก็คงต้องเข้าใจขึ้นมาบ้าง ที่สำคัญคือน้องต้องทำให้พ่อแม่เห็นว่าน้องยอมรับผิดในสิ่งที่ตัวเองทำพลาดไปแล้วจริง ๆ ถ้าพ่อแม่เห็นว่าน้องเข้าใจแล้วมีเหตุผลจริง ๆ ยังไงก็ต้องให้กำลังใจกลับมาแน่นอน
บอกคะแนนแล้ว ขอความเห็นใจแล้ว ก็ต้องทำให้พ่อแม่เข้าใจเรื่องคะแนนที่ออกมาว่ามีผลยังไง ต้องบอกให้เห็นว่าความสำคัญของคะแนนคืออะไร คะแนนตรงนี้ต้องเอาไปใช้ในส่วนไหนบ้าง หลายครั้งที่โดนพ่อแม่ตำหนิเพราะน้องไม่ได้อธิบายเรื่องความหมายของคะแนนแต่ละประเภทว่าใช้ทำอะไรบ้าง พอพ่อแม่ไม่เข้าใจว่าคะแนนแต่ละประเภทสำคัญยังไงก็อาจทำให้โดนตำหนิได้ แต่ถ้ารู้ก็จะได้เข้าใจว่าบางคะแนนได้น้อยก็จริง แต่คณะหรือสาขาที่น้องเลือกเรียนใช้คะแนนตรงนี้ไม่เยอะนะ คะแนนออกมาไม่เยอะก็จริง แต่ก็พอยื่นได้ เพราะบางที่ก็ไม่กำหนดเกณฑ์ขึ้นต่ำ การบอกให้พ่อแม่รู้ข้อมูลเป็นเรื่องที่ควรทำ ยิ่งคะแนนที่ใช้เข้ามหาวิทยาลัยเป็นอะไรที่สำคัญที่พ่อแม่ควรรู้รายละเอียดให้ชัด พอพ่อแม่เข้าใจมากขึ้น ก็อาจจะสบายใจกว่าเดิมนะ การคุยกับพ่อแม่เรื่องเรียนและอนาคตสำคัญมาก พี่อยากให้น้องคุยกับพ่อแม่ให้เข้าใจ โดยเฉพาะเรื่องเรียนต่อนี่สำคัญมากนะ ต้องปรึกษากันให้ดีในครอบครัว
ทางออกที่ว่าก็คือ อธิบายให้พ่อแม่รู้ว่าถึงเราจะได้คะแนนน้อยก็จริง แต่ยังไม่ได้หมายความเราจะไม่มีที่เรียน เพราะน้องอย่าลืมว่า TCAS ไม่ได้มีแค่รอบ Admissions เรายังมีรอบรับตรงก่อนและหลังแอด แล้วแต่ละรอบก็มีเกณฑ์คะแนนไม่เท่ากัน อย่างที่พี่บอกไปว่าบางที่ไม่กำหนดเกณฑ์ขั้นต่ำ น้องก็ยังเอาคะแนนไปยื่นได้อยู่ คุณสมบัติของบางมหาวิทยาลัยอาจจะเปิดกว้างสำหรับเราก็ได้ น้องต้องรู้จักที่จะหาข้อมูลให้ตัวเองก่อน แล้วค่อยอธิบายทางออกให้พ่อแม่เห็นว่าถึงคะแนนจะน้อย แต่หนูจะพยายามหาทางออกให้เต็มที่ให้พ่อแม่ไม่ต้องหนักใจ แต่ก่อนจะหาทางออกไปบอกพ่อแม่ หลังรู้คะแนนแล้วต้องมีสติให้ดีก่อนนะจ๊ะ ไม่งั้นจะเรียบเรียงคำพูดไปอธิบายพ่อแม่ไม่เข้าใจได้นะ
ทั้งหมดนี้คือคำแนะนำที่พี่หวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับน้อง ๆ ที่กังวลเรื่องคะแนน พี่เข้าใจว่าคะแนนน้อยก็ต้องเครียดเป็นธรรมดา (ไม่ใช่เครียดธรรมดา แต่เครียดมาก ๆ เลยค่ะพี่) ต้องรู้สึกกดดันกับอะไรหลาย ๆ อย่าง แต่เรื่องการบอกคะแนนพ่อแม่พี่ว่ายังไงเราก็ต้องบอกนะ เพียงแต่เราต้องมีวิธีที่ดี แสดงให้พ่อแม่เห็นเหตุผลและความเป็นผู้ใหญ่ในตัวเรา อย่าท้อ อย่ากลัวก่อนจะบอก พ่อแม่ก็ต้องมีตำหนิบ้างอยู่แล้ว แต่พี่เชื่อว่ายังไงสุดท้ายแล้วคนที่ช่วยน้องในทุกเรื่อง รวมทั้งหาทางออกเรื่องการเรียนต่อก็คือพ่อแม่แน่นอน มีกำลังใจแล้วก็ค่อย ๆ แก้ไขยังไงก็ต้องเจอทางออก
