1. อยู่ในสถานการณ์ที่มีตัวเลือกอยู่ 2 อย่าง (คน 2 คน, สิ่งของ 2 สิ่ง, เหตุการณ์ 2 เหตุการณ์ เป็นต้น)
2. การแสดงความคิดเห็นว่า เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย
เมื่อเข้าใจตรงกันแล้ว เรามาดูความแตกต่างของทั้งสองคำกันเลย ^0^
ประเด็น | Either | Neither |
ความหมาย | ไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง | ไม่ทั้งคู่ |
การออกเสียง |
อี – เธอะ (American) ไอ – เธอะ (British) |
นี – เธอะ (American) ไน – เธอะ (British) |
คู่หู (คำที่ใช้ร่วม) |
Or นั่นคือ either…or… (or แปลว่า หรือ – จะเอาอันนี้หรืออีกอันล่ะ ให้เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ) |
Nor นั่นคือ neither…nor… (nor ออกเสียงว่า “นอ” ก็คือ โน้ววว ไม่นะ ไม่เอาทั้งสองเลย) |
รูปแบบประโยค |
นำไปใช้ในประโยคบอกเล่าและคำถาม แต่ ! Either สามารถทำเป็นประโยคปฏิเสธได้ โดยการเติม not เข้าไป จะมีความหมายเหมือนกัน neither คือ ไม่ทั้งคู่ ตัวอย่างเช่น They will not play either badminton or volleyball in the evening. They will play neither badminton nor volleyball in the evening. พวกเขาจะไม่เล่นทั้งแบดมินตันและวอลเลย์บอลในตอนเย็น |
ประโยคปฏิเสธ (เพราะ nor แปลว่า ไม่ มันปฏิเสธไปในตัวอยู่แล้ว) |
ตัวอย่างการ ใช้ |
1. Either Ken or Kae has to go to charity event in the afternoon. เคนหรือเก๋ คนใดคนหนึ่งต้องไปงานการกุศลใน ตอนบ่าย |
Neither Ken nor Kae has to go to charity event in the afternoon. ทั้งเคนและเก๋ไม่ต้องไปงานการกุศลในตอนบ่าย |
2. I can go to the spa either today or the day after tomorrow. ฉันสามารถไปสปาได้ ไม่วันนี้ก็มะรืนนี้ |
I can go to the spa neither today nor the day after tomorrow. ฉันไม่สามารถไปสปาได้เลยทั้งวันนี้และมะรืนนี้ |
|
3. A : I don't like tomatoes. ฉันไม่ชอบมะเขือเทศ B : No, I don't like them either. ฉันก็ไม่ชอบ (มะเขือเทศ) เหมือนกัน (either มีความหมายเหมือนคำว่า too ) |
A : I don't like tomatoes. ฉันไม่ชอบมะเขือเทศ B : No, Neither do I. ฉันก็ไม่ชอบเหมือนกัน |
|
4. Either of my friends is going to have a new hairdo. เพื่อนของฉัน คนใดคนหนึ่ง จะทำทรงผมใหม่ |
Neither of my friends is going to have a new hairdo. เพื่อนของฉันทั้งคู่จะไม่ทำทรงผมใหม่ |
1. จากตัวอย่างที่ 3 จะเห็นว่า either สามารถแปลได้ว่า “เช่นกัน” เพื่อแสดงความคล้อยตาม เมื่อประโยคก่อนหน้านั้นเป็นประโยคปฏิเสธ
2. จากตัวอย่างที่ 4 กรณีที่ประโยคขั้นต้นด้วย either of หรือ neither of แล้วตามด้วยคำนาม จะถือว่าเป็นคำนามเอกพจน์ จึงต้องตามด้วยกริยาเอกพจน์