อาบน้ำร้อนมาก่อน ไม่ได้แปลว่าเกิดมาก่อน มีอายุมากกว่า มีความรู้และประสบการณ์มากกว่าเท่านั้น แต่อาจแปลได้ว่า สบายตัวมาก สุขภาพแข็งแรงได้อีกด้วย เพราะน้ำร้อนเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ และการแช่น้ำร้อนหรืออาบน้ำร้อนก็เป็นวัฒนธรรมที่แพร่หลายอยู่ทั่วทุกมุมโลก

น้ำพุร้อนถูกใช้เป็นแหล่งน้ำเพื่อการบริโภคและอุปโภคมาช้านาน แม้ว่าบางแหล่งจะไม่สามารถกินได้เนื่องจากมีแร่ธาตุที่เป็นอันตรายต่อการดื่มกินอย่างซัลเฟอร์อยู่มาก แต่น้ำร้อนจากบางแหล่งก็เป็นแหล่งน้ำแร่เพื่อสุขภาพชั้นดีที่เหมาะต่อการดื่ม กิน แช่ ใช้ ครบถ้วน และวัฒนธรรมการอาบน้ำและแช่น้ำร้อนที่โด่งดังคือ การแช่ออนเซ็นของญี่ปุ่น

ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีภูมิประเทศเป็นเกาะ เกาะที่เกิดจากภูเขาไฟและยังอยู่ในช่วงรอยต่อของแผ่นเปลือกโลก ญี่ปุ่นจึงมีความเสี่ยงต่อการประสบภัยพิบัติ ทั้งแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด และสึนามิ แต่นั่นก็ทำให้ประเทศญี่ปุ่นมีทัศนียภาพที่งดงามและแตกต่าง รวมถึงมีแหล่งน้ำพุร้อนธรรมชาติมากมายกระจายตัวอยู่ทั่วทั้งประเทศ​ และชาวญี่ปุ่นก็ใช้ประโยชน์จากมันเต็มที่

ในสมัยโบราณหรือกว่า 1,400 ปีก่อนนั้น ออนเซ็นถูกจัดให้เป็นการรักษาโรค การแช่น้ำร้อนที่มีอุณหภูมิสูงกว่า 25 องศาเซลเซียสและมีแร่ธาตุผสมอยู่กว่า 20 ชนิดช่วยรักษาโรคได้หลากหลาย และในทุกวันนี้เมื่อวิทยาการและความก้าวหน้าทางการแพทย์พัฒนาขึ้น การศึกษาพบว่ามันรักษาและบำบัดโรคได้จริง โดยหลักแล้วการแช่น้ำร้อนทำให้ผู้แช่ผ่อนคลายทั้งกายและใจ ส่วนแร่ธาตุที่มีประโยชน์จะสามารถซึมเข้าผิวหนังได้ สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนในทันทีคือ ผิวหนังมีความสดใสเต่งตึงและชุ่มชื้น

นอกจากจะทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งมีสุขภาพดีแล้ว น้ำอุ่นหรือน้ำร้อนจะทำให้ระบบการหมุนเวียนของเลือดดีขึ้น ซึ่งเป็นกระบวนการปกติของร่างกายในการถ่ายเทอุณหภูมิ และยังช่วยการบรรเทาอาการปวดเมื่อยต่าง ๆ ของกล้ามเนื้อและข้อต่อ โดย ดร. ยูโกะ อากิชิ แพทย์และศาสตร์จารย์ผู้ทรงคุณวุฒิแห่งมหาวิทยาลัยฮอกไกโดกล่าวว่า ออนเซ็นเป็นการบำบัดรักษาที่ให้ผลได้หลากหลาย มันเป็นการรักษาทางเลือก ซึ่งแม้ไม่ได้แก้ปัญหาหรือรักษาโรคโดยตรง แต่ช่วยบรรเทาและรักษาร่างกายในภาพรวมทั้งหมด อีกทั้งยังช่วยด้านการฟื้นตัวและการป้องกันโรค

ประโยชน์ของการแช่ออนเซ็นหลากหลายขนาดนี้ถ้าไปญี่ปุ่นแล้วพลาดไม่ได้แวะไปอาบคงจะเสียใจ เพราะขนาดลิงที่เกาะญี่ปุ่นเองยังลงไปอาบและแช่น้ำพุร้อนที่มีอยู่ตามธรรมชาติเลย อย่างไรก็ดีมันไม่ได้มีประโยชน์และเหมาะสำหรับทุกคน เพราะการแช่น้ำร้อนเองก็ยังมีข้อจำกัดอยู่บ้าง หากไม่นับเรื่องวัฒนธรรมการแช่ที่เคร่งครัดของชาวญี่ปุ่นและพิจารณาเอาเฉพาะการแช่น้ำร้อน มันไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัวอย่างโรคหัวใจ เส้นเลือดตีบในสมอง โรคเกี่ยวกับความดันโลหิตและผู้สูงอายุที่ไม่คุ้นชิน เนื่องจากการแช่น้ำร้อนเป็นการกระตุ้นการทำงานของระบบหมุนเวียนเลือด ซึ่งในบางคนอาจจะทำให้โรคกำเริบหรือทำให้เกิดภาวะความดันโลหิตสูงในทันที ส่งผลต่อเส้นเลือดที่อาจเปราะบางอยู่ก่อนแล้ว อย่างไรก็ตามผู้สูงอายุชาวญี่ปุ่นซึ่งแช่ออนเซ็นเป็นประจำตั้งแต่เด็กก็ไม่ปรากฏพบว่าเป็นปัญหาแต่อย่างใด นอกจากนั้นการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนผสมทั้งก่อนและหลังแช่ออนเซ็น ก็เป็นข้อควรระวังและข้อห้ามด้วยเหตุผลเรื่องการกระตุ้นระบบหมุนเวียนเลือดเช่นเดียวกัน

มีการศึกษาพบว่าการแช่ออนเซ็นยังเทียบเคียงได้กับการออกกำลังกาย และนั่นแปลว่าหากคุณเพิ่งแช่ออนเซ็นเสร็จควรจะพักซักหน่อยก่อนจะออกกำลังกายหรือใช้แรงงาน เนื่องจากร่างกายของเราไม่เพียงแต่ผ่อนคลายระหว่างการแช่ แต่ยังมีการใช้พลังงานบางส่วนเพื่อควบคุมอุณหภูมิของร่างกายโดยรวม และนั่นอาจทำให้ร่างกายและหัวใจของเราทำงานหนักเกินไปหากออกกำลังกายทันที