มูลนิธิตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ดำเนินโครงการ “SET เชิดชูผู้ทำความดีเพื่อสังคม” หนึ่งในโครงการเพื่อสังคมด้านการส่งเสริมความดี ด้วยเล็งเห็นความสำคัญของการสนับสนุนและส่งเสริมให้สังคมมีคนดีที่มุ่งทำ “ความดี” ในหลากหลายมิติ ซึ่งเป็นรากฐานและพลังขับเคลื่อนสำคัญของการสร้างสังคมคุณภาพ และยังเป็นต้นแบบของคนดีที่มุ่งสร้างประโยชน์ให้แก่สังคมอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างแรงบันดาลใจของการทำความดีให้แก่คนในสังคมไทยในทุกระดับ นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2550 เป็นต้นมา
มูลนิธิตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้สนับสนุนการดำเนินงานขององค์กรภาคสังคมในสาขาต่าง ๆ ได้แก่ สมาคมห้องสมุดแห่งประเทศไทยฯ มูลนิธิศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย สมาคมพัฒนาประชากรและชุมชน มูลนิธิอาจารย์สุกรี เจริญสุข สมาคมประวัติศาสตร์ฟุตบอลแห่งประเทศไทย มูลนิธิดวงประทีปและมูลนิธิวิมุตตยาลัย และส่งเสริมให้ 7 องค์กรเพื่อสังคม คัดเลือกผู้ทำความดีเพื่อมอบทุนทรัพย์และประกาศเกียรติคุณ ก่อให้เกิดเป็นรางวัลผู้ทำความดีเพื่อสังคม 7 รางวัล ใน 7 สาขา และมีผู้ทำความดีที่ได้รับการยกย่องเชิดชูแล้ว รวม 87 ราย (รวม 9 รายในปี พ.ศ 2560)
ตลอด 11 ปีที่ผ่านมาของการดำเนินโครงการ “SET เชิดชูผู้ทำความดีเพื่อสังคม” มูลนิธิตลาดหลักทรัพย์ฯ ตั้งปณิธานที่จะสร้างสรรค์สังคมแห่งความดี โดยขับเคลื่อนการทำงานร่วมกับ 7 องค์กรภาคีเครือข่าย และต่อขยายความดีผ่านพลเมืองดีที่เพิ่มมากขึ้น เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตของทรัพยากรมนุษย์ในทุก ๆ มิติที่เป็นรากฐาน สำคัญของการพัฒนาความยั่งยืนให้กับสังคมไทย ทั้งนี้ในปี 2560 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นปีที 11 ของการดำเนินโครงการ ได้มีการพิจารณาคัดเลือกผู้ทำความดีเพื่อสังคมในสาขาต่าง ๆ รวมทั้งสิ้น 9 ราย ดังนี้
1) ชมรมข้าราชการและครูอาวุโสของกระทรวงศึกษาธิการ ข้าราชการและครูอาวุโสของกระทรวงศึกษาธิการ ที่หลังจากเกษียณอายุราชการ ได้ร่วมกันจัดชมรมฯ ขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การรู้หนังสือ โดยการจัดสรร สรรหางบประมาณในการพัฒนาแหล่งเรียนรู้สำหรับนักเรียน อาจารย์ และผู้ปกครองในชุมชนที่ห่างไกลจากความเจริญ ได้มีโอกาสเข้าถึงองค์ความรู้ ผ่านห้องสมุดโรงเรียน หรือชุมชน ปัจจุบันชมรมฯ มีสมาชิกกว่า 5,000 คน โดยระดมเงินในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อพัฒนาห้องสมุดโรงเรียนและมอบหนังสือให้กว่า 40 โรงเรียน ก่อตั้งเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ.2528 มี ฯพณฯ นายอภัย จันทวิมล เป็นประธานกรรมการบริหารคนแรก ปัจจุบัน ดร.พนม พงษ์ไพบูลย์ เป็นประธานกรรมการบริหาร (พ.ศ.2545-ปัจจุบัน) และกรรมการบริหารอีก 25 ท่าน ซึ่งแต่งตั้งโดยปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
2) นางกัญญา มุสิกา ครูบรรณารักษ์โรงเรียนคลองขวาง อ.เมือง จ.ตราด ผู้อุทิศตนกว่า 30 ปี พัฒนาห้องสมุดจากพื้นที่ใต้ถุนอาคารเรียน จัดทำพื้นที่การอ่านสำหรับนักเรียน จนผู้บริหารเห็นความสำคัญในการทุ่มเท อุทิศ เสียสละจัดหาทุนทรัพย์ และได้อาคารห้องสมุดเป็นเอกเทศในปี พ.ศ. 2543 และมุ่งทำงานด้านพัฒนาและส่งเสริมการอ่านอย่างต่อเนื่อง ทำให้นักเรียนและโรงเรียนได้รับรางวัลระดับประเทศ
3) นางคนึงนิตย์ เขียวสมบัติ ครูภาษาไทยโรงเรียนบ้านนาวงศ์ อ.ปัว จ.น่าน ผู้รับผิดชอบงานห้องสมุดด้วยใจรัก และต้องการพัฒนาให้นักเรียนเข้าใช้ห้องสมุด โดยปรับปรุงพื้นที่ หารูปแบบในการบริหารจัดการ เพื่อสร้างความเป็นตัวตน เอกลักษณ์ ความน่าเชื่อถือให้กับห้องสมุด ผ่านกิจกรรมส่งเสริมการอ่านเชิงรุกในรูปแบบต่าง ๆ ส่งผลให้ได้รับรางวัลจากกิจกรรมต่าง ๆ ได้แก่ ครูเกียรติยศ ครูยอดนักอ่าน ห้องสมุดยอดเยี่ยม ห้องสมุดมีชีวิตต้นแบบ เป็นหนึ่ง ใน 60 นวัตกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน รางวัลเหรียญเงินหนึ่งโรงเรียนหนึ่งนวัตกรรม เป็นต้น
นายบุญรุ้ง สีดำ ผู้อุทิศตนพัฒนาการศึกษาทั้งแบบในระบบ สอนฟรีให้กับโรงเรียนสัมมาสิกขาศีรษะอโศก สอนทั้งภาคปฏิบัติที่ต้องดูแลฝึกฝนทักษะในการทำงานในห้องปฏิบัติการและการทำงานภาคสนามในการดูแลพืชสวน ไร่ นา อย่างใกล้ชิดและเอาใจใส่เป็นอย่างยิ่งให้กับนักเรียนทำให้ที่ผ่านมานักเรียนสามารถทำโครงงานวิทยาศาสตร์ได้รับรางวัลชนะเลิศทั้งในระดับภาค ระดับประเทศและระดับนานาชาติ พัฒนาการศึกษาแบบนอกระบบ โดยถ่ายทอดความรู้ที่ได้ศึกษาค้นคว้า ทดลอง จนประสบผลสำเร็จ ให้กับเกษตรกรและประชาชนทั่วไป เช่น การทำกสิกรรมไร้สารพิษ เกษตรอินทรีย์ให้กับชุมชนในหลาย ๆ จังหวัด เช่น กลุ่มเกษตรทำนา อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร เป็นต้น เป็นวิทยากรอบรมให้ความรู้เรื่องเกษตรอินทรีย์แก่เกษตรกรในประเทศไทยทุก ๆ ภาคกว่า 200 รุ่น ตลอดจนเดินทางเป็นวิทยากรอบรมให้แก่เกษตรกรในประเทศจีนทุกเดือน
ชุมชนบ้านท่ามะพร้าว ต.คลองพน อ.คลองท่อม จ.กระบี่ กลุ่มชุมชนหมู่บ้านหนึ่ง ใน 14 หมู่บ้าน ของ ต.คลองพน อ.คลองท่อม จ.กระบี่ มีเนื้อที่ 3,700 ไร่ เป็นป่าชายเลนประมาณ 975 ไร่ จำนวน 270 ครัวเรือน ประชากร 1,300 คน ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมง ร้อยละ 75 ซึ่งรวมตัวเข้มแข็งดำเนินกิจกรรมอนุรักษ์ป่าชายเลน อาทิ สำรวจความเสียหายของป่าชายเลนจากการถูกทำลายจากสัมปทานเตาถ่านกิจกรรมปลูกใหม่ ปลูกซ่อมแซม พื้นที่ป่าชายเลนจำนวน 625 ไร่ ในระยะแรกในการดูแลป่าได้มีการปลูกซ่อมแซมป่าที่ถูกทำลาย เดือนละ 4 ครั้ง โดยชุมชนและกรรมการจัดตั้งกรรมการกองทุนอนุรักษ์ป่าในการดูแลปลูกซ่อมป่าชายเลน ตัดสางป่า เฝ้าระวัง การลักลอบตัดไม้และส่งสริมนักเรียนโรงเรียนบ้านท่ามะพร้าวและเยาวชนใน ต.คลองพน เรียนรู้ระบบนิเวศน์ ป่าชายเลนและปลูกป่า มีแปลงป่าโรงเรียน จำนวน 18 ไร่ มีแปลงป่าเยาวชนจำนวน 5 ไร่ พร้อมทั้งจัดค่ายอนุรักษ์ ป่าชายเลน/ ค่ายอนุรักษ์และการจัดการชายฝั่งการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ กุ้ง หอย ปู ปลา คืนสู่ทะเล อบรมให้ความรู้เรื่องการอนุรักษ์ป่าชายเลนให้กับคนในชุมชนและการฟื้นฟูป่าจากซึ่งหายไปจากการทำนากุ้ง ได้สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงอาชีพและรายได้ กว่า 3,480 ครัวเรือน จากเดิมในปี 39-42 ผลจากป่าถูกทำลายจากเดิมชาวประมงบ้านท่ามะพร้าวมีรายได้ต่อวันเฉลี่ย 100- 400 บาท และต่อมาในปี 50-59 ผลกระทบจากการฟื้นฟูป่า ชาวประมงบ้านท่ามะพร้าวมีรายได้ต่อวันเฉลี่ย 600-1,000 บาท
นายอาทิวราห์ คงมาลัย (ตูน บอดี้สแลม) ศิลปินผู้อุทิศตนเพื่อ โครงการ "ก้าวคนละก้าว" เพื่อนำเงินบริจาคมอบให้โรงพยาบาลในการจัดหาอุปกรณ์การแพทย์ เริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2559 ซึ่งมีเป้าหมายระดมเงินทุน 700 ล้านบาทให้แก่โรงพยาบาลศูนย์ 11 แห่งในประเทศไทย ด้วยการวิ่งจาก อ.เบตง จ.ยะลา จุดใต้สุดของประเทศไทยไปยัง อ.แม่สาย จ.เชียงราย จุดเหนือสุดของประเทศไทย รวมระยะทาง 2,215.40 กิโลเมตร รวมเวลาการวิ่ง 55 วัน สุดท้ายได้จำนวนเงินเกินเป้าหมาย อยู่ที่ 1,148 ล้านบาท และได้รับเสียงชื่นชมยกย่องในเจตนารมณ์การทำความดีด้วยการสร้างจิตสำนึกและพลังของคนไทยจาการมีส่วนร่วมบริจาคเพื่อช่วยเหลือสังคมด้วยกัน ด้วยความเป็นหนึ่งเดียวกันของคนไทย
คณะนักร้องประสานเสียงมิตรสัมพันธ์กรุงเทพฯ กลุ่มผู้สูงอายุ (69-81 ปี) ที่รวมตัวกันตั้งแต่ปี พ.ศ. 2537 ปัจจุบัน มีสมาชิกว่า 50 คน ใช้เสียงเพลงจัดคอนเสิร์ตระดมทุนเพื่อช่วยเหลือสังคม เช่น ช่วยเหลือ
ผู้ประสบภัยสึนามิ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ โดยสมาชิกมีความเชื่อว่า ถึงแม้พวกเขาจะอายุมากแต่พวกเขายังมีเสียงที่ไพเราะสามารถให้ความสุขกับคนอื่น ๆ ได้ และถึงแม้พวกเขาไม่มีเงินบริจาคช่วยเหลือสังคม ก็สามารถใช้เสียงบริจาค เพราะจะให้ช่วยเหลือโดยการใช้แรงงานแบบคนหนุ่มสาวก็คงเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากอายุมากแล้ว ซึ่งยังได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้สูงวัยให้ได้เห็นคุณค่าของตนเองพร้อมช่วยเหลือและสร้างประโยชน์ให้สังคม
- ไม่มีผู้ได้รับการคัดเลือก -
1) นายสวาสดิ์ ธรรมสุจริต ผู้อุทิศตนซ้อมฟุตบอลให้เด็กและเยาวชน ที่ศูนย์พัฒนาและบริการคลองเตย เมื่อปี 2008 -2017 เป็นระยะเวลา 10 ปี โดยทำการฝึกซ้อมให้กับเด็ก ๆ อายุตั้งแต่ 5–10 ปี ที่สนใจในกีฬาฟุตบอล ตั้งแต่เวลา 16.30 น.-18.30 น. ทุกวันจันทร์–วันศุกร์ จากการฝึกซ้อมดังกล่าวไม่มีการเก็บค่าใช้จ่ายใด ๆ ทำให้เด็กและเยาวชนในชุมชนหันมาเล่นกีฬาฟุตบอลค่อนข้างมาก เนื่องจากบางครอบครัวไม่มีเวลาให้กับเด็ก ไม่สนใจไม่มีที่ให้วิ่งเล่น ซึ่งการเล่นฟุตบอลจะช่วยทำให้ร่างกายแข็งแรงแล้วยังช่วยให้ห่างไกลจากการติดยาเสพติดและการติดโซเชียล เช่น เกม เฟสบุ๊ก เป็นต้น
2) นายวรินทร์ อาจวิไล (ครูกล้วย) นักศึกษาจากวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ ผู้ก่อตั้ง “วงดนตรีอิมมานูเอ็ล” และเปิดโรงเรียนสอนดนตรีคลาสสิกให้เด็กและเยาวชนในชุมชนแออัดคลองเตยโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย โดยโรงเรียนเรียนแห่งนี้รับเด็กด้อยโอกาสหรือผู้ที่มีรายได้น้อยบริเวณชุมชน ให้ได้เรียนรู้เรื่องราวเกี่ยวกับดนตรีคลาสสิกหลังเลิกเรียน เพื่อให้เด็กได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ นับเป็นการทำงานส่งเสริมยกระดับคุณภาพชีวิตของเยาวชนในชุมชนให้มีโอกาสเข้าถึงดนตรีเพื่อการจรรโลงจิตใจให้ห่างไกลจากปัญหายาเสพติดหรือการมั่วสุมอบายมุขต่าง ๆ
1. เพื่อเผยแพร่การทำงานเพื่อสังคมของมูลนิธิตลาดหลักทรัพย์ฯ และ 7 องค์กรเพื่อสังคม ด้านการส่งเสริมการทำความดีในสังคมในสาขาต่าง ๆ
2. เพื่อประกาศเกียรติคุณผู้ทำความดีเพื่อสังคมใน 7 สาขา เพื่อสร้างความภาคภูมิใจ และเป็นแรงผลักดันในการทำงานเพื่อสังคมต่อไปอย่างต่อเนื่อง
3. เพื่อเชิดชูเกียรติและเผยแพร่ผลงานความดีของผู้ทำความดี ประจำปี 2560 ต่อสาธารณชน เพื่อขยายผลของการทำความดีไปสู่สังคมในวงกว้าง
กำหนดการงาน “SET เชิดชูผู้ทำความดีเพื่อสังคม” ประจำปี 2560
วันอังคารที่ 20 มีนาคม 2561 เวลา 13.00 น.–15.30 น.
ณ หอประชุมศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย ชั้น 7 อาคารบี
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ถ.รัชดาภิเษก เขตดินแดง (ใกล้สถานทูตจีน)
---------------------------------------------------------------------------------------
13.00 น. ลงทะเบียน ชมนิทรรศการโครงการ “SET เชิดชูผู้ทำความดีเพื่อสังคม”
13.30 น. พิธีกรนำเข้าสู่พิธีการ
13.35 น. กล่าวรายงาน โครงการ “SET เชิดชูผู้ทำความดีเพื่อสังคม” โดย ดร.กฤษฎา เสกตระกูล กรรมการและเหรัญญิก มูลนิธิตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
13.40 น. กล่าวแสดงความยินดีกับผู้ทำความดีในโครงการฯ โดย ดร.ชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์ ประธานกรรมการ มูลนิธิตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย การมอบและถวายการสนับสนุนแก่องค์กรเพื่อสังคม และมอบรางวัลผู้ทำความดีเพื่อสังคม โดย คุณเกศรา มัญชุศรี กรรมการและเลขานุการ มูลนิธิตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
- สาขาการพัฒนาห้องสมุด สมาคมห้องสมุดแห่งประเทศไทยฯ
- สาขาการพัฒนาการศึกษา มูลนิธิศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย
- สาขาการพัฒนาสังคมชนบท สมาคมพัฒนาประชากรและชุมชน
- สาขาการส่งเสริมดนตรี มูลนิธิอาจารย์สุกรี เจริญสุข
- สาขาการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด มูลนิธิดวงประทีป
- สาขาการพัฒนาสังคมเมือง มูลนิธิวิมุตตยาลัย
15.00 น. ถ่ายภาพร่วมกัน
15.30 น. เสร็จสิ้นพิธีการ
* การแต่งกาย : ชุดสุภาพ
* หมายเหตุ : กำหนดการอาจมีการปรับเปลี่ยน
สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่
www.set.or.th/th/news/csr/social_recognition_project_p1.html