ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่ควรสร้างกำลังใจ และเสริมความเชื่อมั่นให้ลูกอยู่เสมอ วันนี้ครูแหม่มมีวิธีการดี ๆ มาแนะนำดังนี้ค่ะ
ยกตัวอย่างเช่น การช่วยทำงานบ้าน หรือการทำงานศิลปะทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นการวาดรูป ระบายสี ฉีกกระดาษตัดปะ ปั้นแป้ง หรือทำงานประดิษฐ์ ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้ นอกจากจะช่วยทำให้เกิดสมาธิ ฝึกการทำงานของกล้ามเนื้อมือประสานกับสายตาแล้ว ยังสามารถส่งเสริมความเชื่อมั่น และสร้างความภูมิใจให้กับลูกได้อีกด้วย
เช่น ลูกควรเดินได้ตอน 1 ขวบ, ควรเขียนได้ตอน 2 ขวบ ซึ่งเกณฑ์เหล่านี้คุณพ่อคุณแม่ต้องเข้าใจว่าเป็นเกณฑ์พัฒนาการโดยรวม ซึ่งเด็กแต่ละคนนั้นมีบุคลิกที่แตกต่างกัน และได้รับการเลี้ยงดูที่ต่างกัน ดังนั้นการเรียนรู้ของเด็กก็ย่อมมีความแตกต่างกันด้วย
เพราะเมื่อลูกได้ทำในสิ่งที่ชอบและถนัด ก็จะก่อให้เกิดความสำเร็จ และเมื่อทำงานสำเร็จ เด็กก็จะเกิดความภูมิใจ และความภูมิใจเล็ก ๆ ในวัยเด็กนี่เอง ที่อาจส่งผลให้เขาสร้างความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ในอนาคตได้
คำพูดของพ่อแม่มีความสำคัญต่อภาวะทางจิตใจของลูกเป็นอย่างมาก เพราะคำพูดของพ่อแม่จะสะท้อนความเชื่อมั่นและความรักที่มีต่อลูก และเป็นการแสดงออกที่สำคัญที่จะทำให้ลูกมองเห็นว่า พ่อแม่รักและเชื่อมั่นในตัวเขามากเพียงใด
พ่อแม่มีหน้าที่สนับสนุนและให้กำลังใจลูกได้ทำในสิ่งที่ลูกรัก และถึงแม้สิ่ง ๆ นั้นลูกจะยังทำไม่สำเร็จ ก็อย่าเพิ่งผิดหวังในตัวลูก แต่จงให้กำลังใจ ให้ข้อคิด และคอยสนับสนุนลูกให้แก้ไขในสิ่งที่ผิดพลาด เพื่อให้ลูกเกิดการเรียนรู้ และพยายามที่จะทำสิ่ง ๆ นั้นให้ประสบความสำเร็จในที่สุด
สุภาพรรณ ศรีสุข (ครูแหม่ม)
ที่ปรึกษาวิชาการ โรงเรียนศิลปพัฒนาการสมองเด็ก K.D.S.