หากกลับไปดูที่การทำหน้าที่ในประโยคแล้ว จะเห็นว่า ยังไง้ ยังไง ทั้ง Adjective และ Adverb ก็ทำหน้าที่ไม่เหมือนกัน เพราะ Adjective ทำหน้าที่ขยายคำนามและสรรพนามในประโยค หากแต่ Adverb ทำหน้าที่ขยาย verb ขยาย Adjective และขยาย Adverb ด้วยกันเอง ดังตัวอย่างต่อไปนี้ค่ะ
I saw a beautiful woman.
(ฉันได้เห็นผู้หญิงสวยคนหนึ่ง)
He is a smart boy.
(เขาเป็นเด็กชายที่ฉลาด)
**ในที่นี้ Adj. คือตัวเข้ม ขยายคำนามที่ขีดเส้นใต้
I saw a beautiful woman yesterday.
(ฉันได้เห็นผู้หญิงสวยคนหนึ่งเมื่อวานนี้)
yesterday เป็น Adv. ขยาย saw ที่เป็น verb
He is a very smart boy.
(เขาเป็นเด็กชายที่ฉลาดมาก)
smart เป็น Adv. ขยาย smart ที่เป็น Adj.
She walks quite slowly.
(เธอเดินช้าทีเดียว)
quite เป็น Adv. ขยาย slowly ที่เป็น Adv.
**ในที่นี้ Adv. คือตัวเข้ม ขยายคำที่ขีดเส้นใต้
เมื่อเรารู้แล้วว่า Adjective ใช้ขยายคำนาม ก็มักจะวาง Adjective ไว้หน้าคำนามที่ถูกขยาย และมีตำแหน่งอื่น ๆ คือหลัง Verb to be และวางไว้หลังกริยาเชื่อม (Linking Verb) เช่น look, sound, taste, feel ดังตัวอย่างต่อไปนี้
วาง Adj. หลัง verb to be และหน้าคำนาม เช่น
John is a good worker.
(จอห์นเป็นคนทำงานที่ดี)
วางไว้หลังกริยาเชื่อม (Linking Verb) เช่น
My grandmother looks sad after funeral.
(คุณย่าของฉันดูเศร้าโศกหลังงานศพผ่านพ้นไป)
ส่วน Adverb ซึ่งเป็นคำขยาย verb, Adj. และขยาย Adv.ด้วยกันเองนั้น นอกจากจะวางอยู่หน้าคำนั้น ๆ ที่ถูกขยายแล้ว ยังวางไว้ในตำแหน่งหลังกรรมและหลังกริยา หรือหน้าสุดของประโยคได้อีกด้วย ดังตัวอย่างต่อไปนี้
He has already finished his thesis.
He has finished his thesis already.
(เขาได้ทำวิทยานิพนธ์เสร็จเรียบร้อยแล้ว)
จะเห็นได้ว่าทั้งสองประโยคมีความหมายเหมือนกัน หากแต่ต่างกันแค่การวาง Adv.เท่านั้น
นอกจากนี้ในส่วนของรูปศัพท์ของ Adverb นั้น ส่วนใหญ่แล้วจะมีรูปศัพท์คล้าย Adjective เพียงแต่แค่เติม –ly เข้าไปเท่านั้น เช่น
beautiful (Adj.) –> beautifully (Adv.)
happy (Adj.) –> happily (Adv.)
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
>> หลักการใช้คำคุณศัพท์ (Adjective) ในภาษาอังกฤษ
>> หลักการใช้คำกริยาวิเศษณ์ (Adverb)