ใกล้ปิดเทอมน้อง ๆ คงเริ่มวางแผนออกไปเที่ยวกันใช่ไหมล่ะ ใครอยากไปเที่ยวบ้านเพื่อนที่ต่างจังหวัดยกมือขึ้นสูง ๆ ได้เลย เพราะปลายทางที่พี่จะชวนไปเช็คอินเติมความฟินกันวันนี้ไม่ธรรมดาเลยขอบอก ที่เดียวเที่ยวได้ครบ ซึมซับเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ สัมผัสชีวิตผู้คน ลิ้มรสอาหารขึ้นชื่อ ถ่ายรูปชิค ๆ เก๋ ๆ กับ Street Art ฮิตติดเทรนด์ ว้าววว !! ดีต่อใจซะขนาดนี้ที่นี่ก็คือ “ย่านเมืองเก่าสงขลา” อ.เมือง จ.สงขลา นั่นเอง อดใจไม่ไหวแล้วล่ะสิ พร้อมแล้วแบกเป้สะพายกล้องล่องใต้ไปเซย์ไฮกันเลยดีกว่ากับ “ทอดน่องท่องย่านเมืองเก่าสงขลา” Let’s go !!

มารู้จักย่านเมืองเก่าสงขลากันเถอะ

เปิดทริปสุดฟินพาไปรู้จักย่านเมืองเก่าสงขลาให้มากขึ้นกันก่อน เชื่อเลยว่าถ้าพูดถึงที่เที่ยวในสงขลาหลายคนก็มักนึกถึงทะเลใช่ไหมล่ะ แต่บอกเลยว่าสงขลาไม่ได้มีดีแค่ทะเลแน่นอน ไม่พูดถึงไม่ได้สำหรับ พ.ศ. นี้ก็ย่านเมืองเก่านี่แหละ ใครมาที่นี่เหมือนได้หยุดเวลารีบเร่ง ใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์บนถนน 3 สายหลัก 3 วัฒนธรรม คือ ถ.นครใน ถ.นครนอก และถ.นางงาม แหล่งพหุวัฒนธรรมมีความหลากหลายของผู้คนทั้งไทย จีน มุสลิม ซึ่งอยู่ร่วมกันมาตั้งแต่อดีต รายล้อมด้วยตึกรามบ้านช่องสุดคลาสสิคและวิถีชีวิตน่าหลงใหล และยังเป็นที่ตั้งของที่เที่ยวฮอตฮิตติดดาวที่รอต้อนรับตลอดทั้งสาย อยากรู้แล้วใช่ไหมล่ะว่ามีที่ไหนกันบ้าง ไม่ต้องห่วงวันนี้พาไปชี้พิกัดจัดเต็มแน่นอน เตรียมให้คะแนนรัว ๆ ได้เลย

โรงสีแดง (หับ โห้ หิ้น)

เช็คอินที่แรกกับโรงสีแดงหรือ “หับ โห้ หิ้น” สิ่งที่หลายคนสะดุดตาเมื่อมาถึงที่นี่ก็สีแดงแรงฤทธิ์ของตัวอาคารนี่แหละ ว่ากันว่าเป็นสีมงคลของชาวจีนซึ่งเป็นต้นตระกูลของที่นี่ยังไงล่ะ ส่วนชื่อ “หับ โห้ หิ้น” นี่ก็เป็นภาษาจีนฮกเกี้ยน รวม ๆ แล้วหมายถึง “สวนสมานฉันท์อันเจริญรุ่งเรือง” นั่นเอง

โรงสีแดงอยู่มาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ทีเดียวเชียวแหละ เคยเป็นทั้งโรงสีข้าว โรงน้ำแข็ง โกดังเก็บยางพารา ท่าเทียบเรือประมง และตอนนี้ก็เป็นที่เที่ยวเชิงอนุรักษ์เปิดให้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ ถ่ายภาพ จัดงานต่าง ๆ สิ่งแรกที่จะเห็นเมื่อมาถึงด้านหน้าก็คือรูปปั้นคนแบกกระสอบข้าว สะท้อนภาพอดีตของที่นี่ซึ่งเคยเป็นแหล่งผลิตขนส่งข้าวที่สำคัญของภาคใต้ อ๊ะ ๆ !! บอกก่อนว่าถ่ายรูปได้แต่อย่าแอบจับไม้จับมือคุณลุงเค้าแรงเกินไปจนชำรุดเสียหายนะจ๊ะ

เดินเข้าด้านในจะได้สัมผัสบรรยากาศสุดคลาสสิคของตัวอาคารซึ่งเป็นไม้ทั้งหลัง โปร่งโล่งสบาย มีภาพเก่า ๆ ให้ชมราวกับนั่งไทม์แมชชีนย้อนกลับไปหลายร้อยปีก่อน (wow !!) ส่วนใครชอบถ่ายภาพอย่าพลาดเชียวล่ะกับมุมฮิตที่ใครมาก็ต้องแชะภาพกลับไป ก็ป้าย “สงขลาสู่เมืองมรดกโลก” ซึ่งอยู่บนผนังทางเข้านั่นไง ถ่ายภาพเสร็จเดินตรงไปอีกหน่อยก็จะเป็นด้านหลังซึ่งเป็นท่าเทียบเรือมองเห็นวิวภูเขาและทะเล สะกดตาสะกดใจใช่เล่น ยิ่งใกล้พระอาทิตย์ตกดินสิ้นแสงสุดท้ายของวัน แอบกระซิบว่าโรแมนติกสุด ๆ ไปเลย

มาโรงสีแดงได้ฟินกับบรรยากาศ ได้ภาพถ่ายสวย ๆ ติดไม้ติดมือ แถมความรู้ทางประวัติศาสตร์อีกต่างหาก ส่วนใครคิดว่าไม่เต็มอิ่มไม่ต้องห่วง ที่นี่มีพี่ ๆ ภาคีคนรักเมืองสงขลาคอยให้ข้อมูลเพียบเลยล่ะ อ้อ !! เรื่องที่ต้องบอกกันสักหน่อยนึงก็การข้ามถนนนี่แหละ เพราะถนนด้านหน้าโรงสีแดงค่อนข้างแคบและรถเยอะแถมอยู่ใกล้ทางโค้งอีกต่างหาก ก่อนข้ามถนนอย่าลืมมองซ้ายมองขวาให้ดีซะก่อนนะครับ เพื่อความปลอดภัยและเที่ยวอย่างสุขใจตลอดทริปยังไงล่ะ

บ้านนครใน

ถัดไปไม่ไกลจากโรงสีแดงก็จะพบกับที่เที่ยวน้องใหม่แต่ไฉไลไม่แพ้ใครเลยล่ะ บ้านไม้เรียบหรูจีนโบราณเคียงคู่กับตึกสีขาวสไตล์ชิโนยูโรเปี้ยน ที่นี่คือ “บ้านนครนอก” พิพิธภัณฑ์เอกชนซึ่งจัดแสดงสิ่งน่าสนใจไว้เยอะแยะเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นข้าวของเครื่องใช้แบบจีนโบราณ ภาพถ่ายในหลวง ร.9 หรือจะเป็นแลนด์มาร์คไว้ถ่ายภาพกับต้นไผ่พร้อมแจกันหลากสีสัน บ่อน้ำโบราณ ฯลฯ ก็น่าสนใจไม่น้อยเลยสำหรับสายอาร์ตที่ชอบถ่ายภาพเป็นชีวิตจิตใจ

แต่สิ่งที่น่าตื่นเต้นและชวนเสียวขนลุกซู่สำหรับคนกลัวความสูงก็เห็นจะเป็นกระจกใสตรงชั้นสองที่สามารถขึ้นไปยืนแล้วมองลงมาเห็นด้านล่างได้ยังไงล่ะ เรียกว่าน่าตื่นเต้นมือสั่นขาสั่นกันเลยทีเดียว ถ้าได้ลองสักครั้งคงจำไปอีกนาน ขอบอก ๆ ฮ่า ๆ อยากรู้ว่าสูงและเสียวแค่ไหนต้องแวะไปลองด้วยตัวเองให้ได้ !!

ก่อนกลับใครจะซื้อของฝากติดไม้ติดมือฝากที่บ้านก็จูงมือกันไปเลือกที่จุดจำหน่ายตรงทางเข้าได้เลย ส่วนเวลาเปิด - ปิดของที่นี่คือ จันทร์ - ศุกร์ เปิด 9.00 - 18.00 น. ส่วน เสาร์ - อาทิตย์ เปิด 9.00 - 19.00 น. หรือใครมีข้อสงสัยก่อนตัดสินใจเดินทางมาเที่ยวแนะนำว่าติดต่อทางเพจบ้านนครในได้เลย ง่าย ๆ แค่ปลายนิ้ว

สตรีทอาร์ต (Street Art) สุดชิค

ไม่พูดถึงไม่ได้สำหรับสตรีทอาร์ตย่านเมืองเก่าสงขลา เพราะที่นี่ดังไกลถึงต่างประเทศเลยทีเดียว จึงไม่น่าแปลกใจกับภาพนักท่องเที่ยวทั้งไทยและเทศที่แวะมาแชะภาพไม่ขาดสาย ถ้าจะถามว่าเสน่ห์ของสตรีทอาร์ตที่นี่คืออะไร ก็คงเป็นภาพต่าง ๆ ซึ่งสะท้อนวิถีชีวิตดั้งเดิมของคนที่นี่ยังไงล่ะ อย่างรูปร้านน้ำชาฟุเจาที่ดูมีชีวิตชีวาชวนให้นึกถึงอดีตของร้านน้ำชาซึ่งตั้งอยู่ตรงนั้นจริง ๆ อีกสิ่งหนึ่งก็คงเป็นการตามหาภาพต่าง ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ตามตรอกซอกซอยผนังอาคารบ้านเรือน ถือว่าน่าสนุกทีเดียวเลยล่ะ เพราะถ้ามัวเดินเพลิน ๆ ไม่ทันสังเกตให้ดีอาจพลาดไปไม่ทันรู้ตัว (ฝึกสมาธิและสายตาไปในตัวว่าไหมล่ะ ฮ่า ๆ)

เอาเป็นว่าเดินชมสตรีทอาร์ตกันเพลิน ๆ ถ่ายรูปกันหนำใจแล้วก็อย่าลืมเรื่องความปลอดภัยด้วยนะครับ อย่างที่บอกว่าถนนสายนี้ค่อนข้างแคบและรถสัญจรไปมาเยอะเลยทีเดียว ถ้าไม่ระวังอาจเกิดอุบัติเหตุได้ ทางที่ดีเดินชิดด้านข้างหรือเดินบนทางเท้าน่าจะดีที่สุด ส่วนใครกลัวดำก็อย่าลืมพกหมวกพกร่มด้วยก็ดี เพราะบางวันอากาศค่อนข้างร้อน แต่ส่วนใหญ่แล้วอากาศดี เหมาะที่จะเดินเล่นพักผ่อนหลีกจากความรีบเร่ง

แวะชิมไอติมโอ่ง ถ.นางงาม

เดินกันมาทั้งวันคงเหนื่อยน่าดู ถ้าได้อะไรเย็น ๆ ชุ่มคอสักหน่อยคงดี นั้นต้องไม่พลาดเลยที่จะจบทริปวันนี้ด้วยไอติมโอ่ง ถ.นางงาม เพราะร้านนี้เขาขึ้นชื่อเรื่องความอร่อย ใครผ่านไปผ่านมาต่างแวะมาชิมกันไม่ขาดสาย มีอะไรเด็ด ๆ บ้างตามเข้ามาดูในร้านกันเลย

เมนูแนะนำของร้านก็มีไอศกรีมทรงเครื่อง ไอศกรีมลิ้นจี่ ไอศกรีมยกล้อ ไอศกรีมเรนโบว์ และไอศกรีมใส่ไข่ ฯลฯ ซึ่งจะเสิร์ฟมาในโอ่ง มีท็อปปิ้งให้เลือก ส่วนใครจะสั่งของทานเล่นด้วยก็ได้เหมือนกัน เช่น ลูกชิ้นปลาทอด เกี๊ยวทอด ฯลฯ ถ้าพูดถึงเสียงตอบรับของร้านนี้ถือว่าดีทีเดียวเลยแหละ นอกจากความแปลกที่เสิร์ฟมาในโอ่ง (แต่ไม่ใช่โอ่งมังกรใบโต๊โตไว้ใส่น้ำนะ) และราคาไม่แพงแล้ว ส่วนใหญ่ก็ชอบตรงรสชาติของไอติมนั่นเอง

เอาเป็นว่ารสชาติจะอร่อยถูกปากขนาดไหน จะจริงสมคำร่ำลือหรือเปล่า ต้องแวะไปพิสูจน์ให้ได้ทีเดียวเชียว เดี๋ยวจะคุยกับใครไม่รู้เรื่อง กับไอติมโอ่ง ถ.นางงาม ย่านเมืองเก่าสงขลา

ทิปส์น่ารู้เที่ยวย่านเมืองเก่าสงขลา

1. ย่านเมืองเก่าสงขลาถนนค่อนข้างแคบ มีรถเยอะ ต้องระมัดระวังในการเดินทาง แนะนำว่าให้ใช้บริการรถสาธารณะอย่างรถตุ๊กตุ๊ก ซึ่งนอกจากสะดวกแล้วไม่แพงอีกต่างหาก หรือใครจะเลือกเดินเท้าชิล ๆ ก็สามารถทำได้ เพราะที่เที่ยวแต่ละแห่งอยู่ไม่ไกลกันมาก

2. ทุกอาทิตย์ที่สองของเดือน ถนนตั้งแต่บริเวณหน้าโรงสีแดงเป็นต้นไปจะถูกเนรมิตเป็นตลาดที่ชื่อว่า “หลาดสองเล เก๋า เก๋ ริมเลสาบ” ตลาดนัดชุมชน ตลาดเชิงวัฒนธรรม ตลาดเพื่อการเรียนรู้ และตลาดสีเขียวเพื่อสิ่งแวดล้อม สามารถเดินชม ช้อปและชิมอาหารพื้นบ้าน อาหารขึ้นชื่อของเมืองสงขลา ได้อย่างชิล ๆ

เป็นไงกันบ้างครับน้อง ๆ กับทริปปิดเทอม “ทอดน่องท่องย่านเมืองเก่าสงขลา” หวังว่าจะถูกใจ กดไลก์กันรัว ๆ นะครับ นอกจากความเพลิดเพลินแล้วเชื่อเลยว่าสิ่งที่น้อง ๆ จะได้จากทริปนี้ก็เป็นมุมมอง ใหม่ ๆ ผ่านวิถีชีวิตผู้คน ประวัติศาสตร์ และเห็นความตั้งใจของคนสงขลาที่พยายามรักษาเอกลักษณ์ท้องถิ่นไว้ อ้อ !! บอกก่อนว่านี่เพียงส่วนหนึ่งของที่เที่ยวเท่านั้นนะ สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น ! ถ้างั้นต้องยกแก๊งมาตะลอนย่านเมืองเก่าสงขลาแบบจัดเต็มกันเป็นไง รับรองว่าเป็นปิดเทอมที่น่าประทับใจแน่นอน

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานภาคีคนรักเมืองสงขลาสมาคม โทร. 074 - 321 - 675

เรื่อง : ภานุวัฒน์ มานพ