wear เป็น Transitive Verb (VT) สกรรมกริยา หรือกริยาที่ต้องมีกรรมมารองรับ จริง ๆ แล้วมีความหมายว่า มีเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายอยู่บนตัวเรา (have clothes on your body) เช่น
I’m wearing make-up.
(มีเครื่องสำอางบนหน้าฉัน = ฉันแต่งหน้า)
I’m going to wear my new shoes to work tomorrow.
(ฉันจะสวมรองเท้าคู่ใหม่ไปทำงานพรุ่งนี้)
A: What is Janny wearing?
(เจนนี่สวมใส่อะไร)
B: She is wearing a red dress.
(เธอสวมชุดเดรสสีแดง)
ดังนั้นเราสามารถใช้ V. to have clothes on หรือ V. to have on clothes แทน wear ได้ เช่น
A: What is Janny wearing?
B: She has a white shirt on.
We have on a new suit today.
(วันนี้พวกเราสวมสูทตัวใหม่)
กริยาสามช่องของ wear = wear (แวร์), wore(วอร์), worn (วอร์น)
dress เป็นกริยาที่ไม่จำเป็นต้องมีกรรมก็ได้ มีความหมายเดียวกับ to put clothes on คือ ใส่เสื้อผ้าหรือแต่งตัวให้ตัวเองหรือคนอื่น เช่น
I’m dressing.
(ฉันกำลังแต่งตัว)
He dressed his children for school.
(เขาแต่งตัวให้ลูก ๆ ของเขาไปโรงเรียน)
I dress my dog in little sweater.
(ฉันใส่สเวตเตอร์เล็ก ๆ ให้กับน้องหมาของฉัน)
to get dressed ใช้พูดถึงการแต่งตัวหรือสวมใส่เสื้อผ้าทั่วไป เช่น
I didn’t get dressed until after lunch!
(ฉันจะไม่แต่งตัวจนกระทั่งหลังมื้อกลางวัน)
I just woke up. So, let me go get dressed.
(ฉันเพิ่งตื่น ดังนั้นปล่อยให้ฉันไปแต่งตัวเถอะนะ)
dress up พูดถึงการสวมใส่เสื้อผ้าในลักษณะชุดเทศกาล ใส่ชุดเพื่อไปงานเลี้ยง ออกเดต หรือโอกาสพิเศษ เช่น
I’ll dress up as a bleeding scream for Halloween.
(ฉันจะแต่งตัวเป็นบลีดดิ้งสกรีมสำหรับเทศกาลฮัลโลวีน)