วิตามินซีรักษาหวัดได้จริงหรือ

"การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ"

ไม่มีใครรู้สึกยินดีหรือมีความสุขหากต้องเจ็บป่วย ไม่ว่าจะป่วยหนักต้องเข้าโรงพยาบาล หรือป่วยเล็กน้อยอย่างเจ็บคอ มีน้ำมูก หรือเป็นหวัดตามฤดูกาล จึงมีการผลิตยาที่หาซื้อได้ง่าย เช่น ยาสมุนไพร ลูกอม หรือสิ่งใดก็แล้วแต่ที่เชื่อว่าสามารถป้องกันหรือบรรเทาอาการเจ็บป่วยเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่อาจจะสร้างความรำคาญให้เกิดขึ้นได้ ยกตัวอย่างเช่น ยาพาราเซตามอล ยาลดไข้ยี่ห้อต่าง ๆ หรือยาอมแก้เจ็บคอ ลดอาการระคายเคืองคอ และหลาย ๆ ผลิตภัณฑ์ก็กล่าวอ้างว่ามีวิตามินซีเป็นส่วนประกอบ หรือมีสารอาหารจำพวกวิตามินและเกลือแร่บางกลุ่มเป็นส่วนผสมหลัก ซึ่งให้ผลทางการแพทย์ในการยับยั้ง บรรเทา และรักษาโรคน่ารำคาญเหล่านี้ แต่การรับประทานวิตามินซีนั้นรักษาโรคหวัดได้จริงหรือ

วิตามินซีคืออะไร

มันคือสารอาหาร หรือวิตามินยอดนิยมตัวหนึ่งซึ่งเชื่อว่าคนไทยทุกคนต้องรู้จัก และเรามักจะสร้างความสัมพันธ์ของวิตามินซีเข้ากับอาหารที่มีรสเปรี้ยวต่าง ๆ แม้ว่าความจริงแล้วอาหารที่ไม่ได้มีรสเปรี้ยวบางชนิดก็มีวิตามินซีอยู่มาก ยกตัวอย่างเช่น ฝรั่ง อย่างไรก็ดี วิตามินซีมีสรรพคุณหลัก ๆ ที่เราเคยทราบมาว่าช่วยป้องกันอาการเลือดออกตามไรฟัน เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญ ชะลอความชรา บำรุงผิวพรรณ เป็นยาระบายตามธรรมชาติ ลดความดัน ช่วยการดูดซึมของธาตุเหล็กให้ดีขึ้น ป้องกันการติดเชื้อของบาดแผลต่าง ๆ และบำรุงร่างกายในแง่ต่าง ๆ

วิตามินซีหรือกรดแอสคอบิก (Ascorbic Acid) เป็นหนึ่งในวิตามินที่ร่างกายของเราต้องการมากที่สุด เป็นวิตามินชนิดที่สามารถละลายน้ำได้ดี ดังนั้น จึงสามารถเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายผ่านทางการกินและดื่ม เช่น ผลไม้รสเปรี้ยว ผลไม้ตระกูลเบอร์รี ผักใบเขียว แต่วิตามินซีส่วนที่ไม่ได้ถูกใช้งานเมื่อรับประทานเข้าไปแล้วจะถูกขับออกจากร่างกายอย่างรวดเร็วภายในเวลา 2-3 ชั่วโมงเท่านั้น ดังนั้น การรับวิตามินซีอย่างสม่ำเสมอในทุกมื้ออาหารจึงเป็นสิ่งที่ถูกต้อง และแม้ว่าร่างกายของเราจะสามารถรับและขับวิตามินซีส่วนที่เกินออกจากร่างกายได้ แต่การได้รับในปริมาณมากเกินไปก็ไม่เป็นผลดีต่อร่างกายนัก

ปริมาณที่แนะนำต่อวันอยู่ที่ 60 มิลลิกรัมสำหรับคนปกติทั่วไป อาหารเสริมส่วนมากจะมีวิตามินซีอยู่ประมาณ 60-1000 มิลลิกรัมต่อแคปซูลหรือหนึ่งหน่วยบริโภค ซึ่งแน่นอนว่าส่วนเกินจะถูกขับออกจากร่างกายอยู่ดี แต่การดื่มน้ำส้มหรือรับเอาสารอาหารที่วิตามินซีสูงเข้าสู่ร่างกายในช่วงที่กำลังเป็นหวัด สามารถรักษาโรคหวัดได้จริงหรือ คำตอบคือ มันไม่ใช่เรื่องจริง

แม้ว่าวิตามินซีจะมีส่วนช่วยให้ร่างกายแข็งแรงทั้งในทางตรงและทางอ้อม มีความสามารถเต็มประสิทธิภาพในการต่อสู้กับเชื้อโรคต่าง ๆ แต่มันไม่ได้มีสรรพคุณรักษาโรคหวัด และแม้ว่าการขาดวิตามินซีจะทำให้ประสิทธิภาพในการต้านทานเชื้อโรคหรือภูมิคุ้มกันของร่างกายลดลง แต่มันก็ไม่ใช่หลักฐานที่บ่งชี้ว่าวิตามินซีเป็นยารักษาอยู่ดี การทดลองทางวิทยาศาสตร์ได้พิสูจน์แล้วว่า ตัวอย่างทดลองที่ได้รับวิตามินซีเพิ่มขึ้นกว่าปกติในแต่ละวันไม่ได้เป็นหวัดยากขึ้น หรือป้องกันและรักษาโรคหวัดได้แต่อย่างใด

หากเราพิจาณาเพิ่มเติมสักนิดจะพบว่า โรคหวัดเป็นโรคที่เกิดขึ้นจากไวรัส และในทุกวันนี้ก็ยังไม่มียาใด ๆ ในโลกที่สามารถกำจัดหรือฆ่าเชื้อไวรัสได้ นอกจากการรักษาตามอาการ เช่น หากคุณเป็นหวัดแล้วมีอาการเจ็บคอ และไอ ก็ให้ยาลดอาการอักเสบ เจ็บคอ ลดอาการไอ ส่วนคนที่มีไข้ก็ให้รับประทานยาลดไข้ และรับประทานยาลดน้ำมูกเพื่อลดอาการน้ำมูกไหลที่สร้างความรำคาญ และร่างกายของเราก็จะสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาเพื่อต่อกรและรับมือกับไวรัสหวัดสายพันธุ์นั้น ๆ ต่อไป และจากความสามารถของร่างกายในการเอาชนะโรคหวัดสายพันธุ์นั้น ๆ ได้ ร่างกายของเราก็จะไม่เป็นหวัดชนิดเดิม สายพันธุ์เดิมอีกต่อไปด้วย

รู้หรือไม่ว่าในหนึ่งปีหากคุณป่วยเป็นหวัด แต่ละครั้งที่คุณป่วยเกิดขึ้นจากเชื้อไวรัสหวัดที่ไม่ซ้ำสายพันธุ์กันเลย คุณจะไม่ป่วยจากเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดิมเพราะว่าร่างกายของคุณได้เรียนรู้ที่จะต่อสู้กับเชื้อชนิดนั้น ๆ เรียบร้อยแล้ว