ขวดน้ำอัดลมที่เราเห็นหรือแม้แต่แก้วน้ำที่ใช้ที่บ้านเองก็อาจจะมาจากเม็ดทรายบนชายหาดเดียวกัน ที่ถูกทำซ้ำ หลอมแล้วหลอมอีกหลายสิบหลายร้อยรอบตลอดช่วงชีวิตของมัน แม้ว่าเริ่มต้นแล้วจะมาจากเม็ดทรายที่เรารู้จักจากชายหาด แต่แก้วและผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซิลิกอนที่เราใช้อยู่ในชีวิตประจำวันส่วนใหญ่ล้วนมาจากโรงงานรีไซเคิล ซึ่งแต่ละโรงงานได้ทำการรีไซเคิลและผลิตผลิตภัณฑ์จากแก้วออกมาหลายหมื่นตันในแต่ละปี
แก้วในปัจจุบันนี้เริ่มต้นจากถังขยะ แก้วถูกคัดแยกออกมาจากขยะชนิดอื่น ๆ รวมถึงขยะที่สามารถรีไซเคิลได้อื่น ๆ ก็ถูกคัดแยกออกมาเช่นกัน เพราะกรรมวิธีในการรีไซเคิลแตกต่างกันออกไป แก้วหลากสีบ้างอยู่ในสภาพดี บ้างก็แตกหักเป็นเศษเล็ก ๆ ถูกใส่รวมกันในถังรีไซเคิล พวกมันจะถูกคนเก็บขยะคัดแยกออกจากขยะอย่างอื่น และถูกจัดส่งไปยังหน่วยคัดแยกของโรงงานรีไซเคิลหรือบริเวณที่ทิ้งขยะส่วนกลางในแต่ละพื้นที่เพื่อตรวจซ้ำให้แน่ใจว่าไม่มีขยะอื่นปะปน ขยะที่พร้อมจะนำไปผลิตซ้ำเหล่านี้จะถูกส่งต่อไปยังโรงงานรีไซเคิลแก้วโดยเฉพาะ
ในขั้นแรกเครื่องหรือคนงานจะตรวจอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อนำส่วนที่ไม่สามารถรีไซเคิลได้ รวมถึงส่วนที่ไม่ใช่แก้วออกไปจากระบบ เช่น ฝาจีบของขวดน้ำอัดลมซึ่งเป็นโลหะ หรือเศษขยะอื่น ๆ ที่อาจติดมา หลังจากนั้นจะถูกนำไปบดละเอียดเพื่อเตรียมตัวหลอมและเกิดใหม่อีกครั้ง
แก้วที่ถูกบดเหล่านี้เรียกว่า Cullet ส่วนใหญ่แล้วจะถูกคัดแยกสีออกไปเพื่อให้ง่ายต่อการหลอมเหลว แก้วใสจึงมีราคามากกว่าแก้วขุ่นสีต่าง ๆ แก้วที่ถูกบดแล้วจะถูกผสมในเครื่องผสมก่อนนำไปหลอม โดยมีส่วนผสมสำคัญ 3 อย่าง ได้แก่
1. ทราย ซึ่งเป็นส่วนประกอบตั้งต้นของแก้วทุกชิ้น
2. หินปูน ซึ่งช่วยให้แก้วมีความทนทานและเงางาม
3. โซเดียมคาร์บอเนตหรือโซดาแอช เพื่อลดจุดหลอมเหลวให้ต่ำลง ทำให้ใช้พลังงานในการหลอมน้อยลง
เมื่อทราย หินปูน และโซดาแอช ผสมกันด้วยอัตราส่วนที่พอเหมาะได้ที่แล้ว มันก็จะถูกนำไปผสมกับ Cullet และเตรียมเข้าสู่การหลอมต่อไป เครื่องหลอมหรือที่เรียกว่า Melter จะให้ความร้อนกับส่วนผสมทั้งหมด ซึ่งโซดาแอชเข้ามาช่วยทำให้จุดหลอมเหลวลดลง จากซิลิกาบริสุทธิ์ที่มีจุดหลอมเหลว 3632 องศาฟาเรนไฮต์ (2000 องศาเซลเซียส) มาเป็นที่อุณหภูมิ 2800 องศาฟาเรนไฮต์ (ประมาณ 1538 องศาเซลเซียส) ซึ่งคุณไม่มีทางจ้องมันด้วยตาเปล่าอย่างปลอดภัยได้
แก้วหลอมเหลวจะถูกส่งไปยังเครื่องถัดไปเพื่อขึ้นรูปเป็นขวดหรือแก้วน้ำ รูปทรงต่าง ๆ ทำให้เย็นลงจนแข็งตัวสมบูรณ์ ก่อนจะนำไปเคลือบด้วยน้ำยาพิเศษ เพื่อให้มันทนต่อการขูดขีดและไม่เปราะแตกหักง่าย โดยปกติแล้วโรงงานรีไซเคิลจะเปลี่ยนแก้วจากถังขยะของคุณเป็นขวดเบียร์หรือขวดน้ำอัดลมหลากสี ซึ่งผลิตออกมาเป็นจำนวนมากในแต่ละวัน จากนั้นจะถูกส่งไปยังลูกค้าที่สั่งจองขวดแก้วเหล่านี้เพื่อใช้เป็นบรรจุภัณฑ์ วงจรของขวดแก้วเหล่านี้มีอายุประมาณ 1 เดือนก่อนที่จะกลับมาเยี่ยมบ้านรีไซเคิลของมันอีกครั้ง
ภาพปก : Shutterstock