ซึ่งเธอนิยามชีวิตตัวเองว่าเหมือนลูกสาวกำนัน เพราะโตมาในครอบครัวที่มีคุณพ่อเป็นตำรวจ บวกกับรูปลักษณ์ภายนอกที่เป็นสาว แม้คำนำหน้าจะเป็นนายก็ตาม สิ่งเดียวที่เธอยึดถืออยู่เสมอคือนิสัยใฝ่ดีที่ติดตัวมาตั้งแต่ยังเด็ก ดังนั้นเราจึงไม่สงสัยเลยว่าทำไมปีที่ผ่านมาทุกคนถึงเอาแต่พูดถึงเธอกัน แล้วปีนี้ เจนนี่ ปาหนัน วางแผนจะทำอะไรต่อบ้างนะ
ที่บ้านไม่กดดันเลย เจนนี่ว่ามันมาจากการที่เราโตมาในช่วงที่พ่อแม่กำลังสร้างฐานะ ลูกคนไหนที่อยู่ในช่วงที่ครอบครัวกำลังสร้างฐานะจะรู้ดีว่าพ่อแม่มักไม่มีเวลาให้เพราะต้องทำงาน ดังนั้นเจนนี่ก็เลยต้องดูแลตัวเองทุกอย่าง ที่เห็นเราเที่ยวเยอะ ปาร์ตี้หนัก ดูเป็นคนแรง แต่เจนนี่ไม่เคยเกเรเลยนะ เพราะจิตใต้สำนึกจะคอยเตือนให้เราไม่ทำอะไรก็ตามที่จะทำให้พ่อแม่เสียใจเพราะเห็นพ่อแม่ลำบากมาก่อน จุดนี้แหละที่ทำให้เรารักดี
เจนนี่ว่ามันมาจากการที่เราเป็นเด็กกิจกรรมตั้งแต่เด็ก อะไรที่เป็นกิจกรรมเราชอบมาก กีฬาสีก็เป็นนักกีฬา จัดบอร์ดสวย ๆ ในวันสำคัญต่าง ๆ ขึ้นมัธยมเราก็จะเล่นใหญ่หน่อย ด้วยการจัดโชว์ให้ตัวเอง เป็นพี่สันทนาการตอนมหา’ลัย ถึงจะเรียนจบแล้วก็ยังกลับไปทำอีก มันเลยผลักดันให้เราเป็นคนแบบนี้ เป็นคนชอบสร้างสีสัน ชอบเอนเตอร์เทนคนอื่น
ก็นิดนึง พูดได้เต็มปากเลยว่าปีนี้เป็นปีทองของเรา เป็นปีที่ชีวิตเปลี่ยนเยอะ เป็นปีที่โอกาสดี ๆ เข้ามาเยอะ เจนนี่มองว่ามันเริ่มมาตั้งแต่เป็นพิธีกรรายการเทยเที่ยวไทย ทั้งที่เจนนี่เป็นคนที่ไม่ค่อยวิ่งเข้าหาโอกาสเท่าไหร่ แต่ว่ามันก็จะทดแทนกันตรงที่พอโอกาสดี ๆ เข้ามาเราก็จะรับไว้หมด
เจนนี่เชื่ออย่างหนึ่งนะ คือเชื่อว่าคนเราเกิดมาจะต้องมีสักครั้งหนึ่งที่จะได้รับโอกาสที่เราอยากได้มาก ๆ แต่เราแค่ไม่รู้เท่านั้นเองว่ามันจะมาเมื่อไหร่เพราะเราไม่รู้อนาคต ดังนั้นเจนนี่ก็เลยเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับโอกาสนั้นเสมอ เพราะเมื่อวันหนึ่งโอกาสนั้นมาถึง เราจะได้คว้ามันไว้แบบไม่ลังเล ทำตัวเหมือนบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่พร้อมทานได้ทันที เมื่อถูกน้ำร้อนเลย
ใช่ (หัวเราะ) แต่สุดท้ายเราก็รับนะ อาจเป็นเพราะโมเมนต์นั้นเราตื่นเต้น มันมาแบบตู้มเดียว เหมือนเราโดนมัดมือชก เพราะพี่ป๋อมแป๋มวางทุกอย่างเอาไว้แล้วอย่างแนบเนียน เราก็เลยคิดไม่ทัน ในหัวคิดแค่ว่าทำไม่ได้หรอก เพราะเราอยู่กับแก๊งพี่เขามาก็จะรู้ว่าพี่เขาเก่งกันขนาดไหน
พี่ป๋อมแป๋มเรียกเราไปคุยอีกที มันทำให้เข้าใจเลยนะว่าบางครั้งคนเราก็ต้องการใครสักคนมาย้ำเตือน เพราะในช่วงเวลาที่เราไม่มั่นใจในตัวเองที่สุด การที่มีสักคนหนึ่งมั่นใจในตัวเรา มันให้ความรู้สึกที่ดีมาก เจนนี่ก็เลยรู้สึกว่า เฮ้ย ขนาดคนอื่นยังเชื่อใจเราเลย แล้วเขาเป็นคนเก่งด้วย ทำไมเราถึงไม่เชื่อมั่นในตัวเอง
ปรับบ้างแต่ไม่ถึงกับเรียนรู้ใหม่หมด แรก ๆ เจนนี่จะลืมบทบาทตัวเองเพราะก่อนหน้านั้นเราเป็นครีเอทีฟ ครีเอทีฟไม่ได้อยู่หน้ากล้องตลอดเวลา กล้องจะจับแค่ตอนที่เราคิดมุกได้และเล่นออกไป แต่พอมาทำพิธีกรเบื้องหน้าเต็มตัว แรก ๆ คนในกองก็จะทักว่าทำไมไม่พูดเพราะเราลืมตัว ก็เลยเซ็ตตัวเองใหม่ว่าเราต้องเล่นตลอดเวลาแล้วนะ นี่คือสิ่งที่ต้องปรับมากที่สุด
เราสนุกสนาน และไม่รู้ทำไมหลายคนจะเชื่อว่า เพศที่ 3 เป็นเพศที่มีความสามารถบางอย่าง คือเรามีสปิริตในแบบของเรา คนทำงานด้วยก็ไว้ใจว่างานนั้นจะต้องออกมาดี สนุก อันนี้เราได้ยินมาอีกทีนะ ไม่ได้ชมตัวเอง เพราะความจริงแล้วทุกเพศมีความสามารถหมด เราแค่ต้องหางานที่มันเข้ากับความสามารถของเราให้เจอเท่านั้นเอง
เพิ่งมามีแผนจริงจังเมื่อ 2 ปีที่แล้วนี่เอง มันจริงอย่างที่เขาบอกจริง ๆ นะว่าพออายุขึ้นเลขสาม ชีวิต วิธีคิดจะเปลี่ยน จะใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ตอนแรกเจนนี่ก็ไม่เชื่อหรอก แต่พอขึ้นเลขสามเท่านั้นแหละ โอ้โห มันจริง ไปแฮงก์เอ้าท์กับเพื่อนเมื่อก่อน 4 วันต่อสัปดาห์สบายมาก เดี๋ยวนี้อาทิตย์ละ 2 วันก็ไม่ค่อยไหวแล้ว
เรื่องงานไม่เน้นมากเพราะเรารู้สึกว่าภายในสำคัญกว่า เป้าหมายหลัก ๆ ของเจนนี่ปีนี้คือ ออกกำลังกาย เรียนกีตาร์ เรียนภาษาอังกฤษ แล้วก็เรียนขับรถ เราอยากมีร่างกายที่แข็งแรงพร้อมทำงาน มีวิชาภาษาอังกฤษติดตัว ส่วนกีตาร์ก็อยากเรียนมานานแล้ว และที่อยากหัดขับรถก็เพราะอยากพาตัวเองไปนั่นไปนี่เอง แค่นี้เลย
ปีที่แล้วเป็นปีที่เริ่มเข้ามาทำเทยเที่ยวไทย พอเข้ามาทำแล้วเจนนี่รู้สึกว่าโซเชียลมันเป็นดาบสองคม เราได้เห็นพฤติกรรมของชาวเน็ตบางอย่างแล้วรู้สึกว่ามันไม่ควรทำตามเลยเพราะไม่ดี ก็เลยย้อนกลับมามองตัวเองและพบว่าที่ผ่านมาเราก็ทำตัวไม่น่ารักในโซเชียลเหมือนกัน หลัก ๆ คือ โมโหใครแล้วชอบโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก เราก็เลยไม่อยากทำแล้วเพราะคิดว่ามันไม่น่ารัก มันเกรี้ยวกราดเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี เจนนี่ก็เลยหันมาโพสต์เรื่องงานมากขึ้นหรือเรื่องดี ๆ ซึ่งมันก็ยังไม่ได้สำเร็จ 100% หรอกนะ แต่ก็ลดลงไปเยอะมากในปีที่ผ่านมา
การตั้งเป้าหมายปีใหม่ทุกปี มันเป็นการแสดงออกถึงความรักตัวเองนะ มันเผยให้เห็นว่าเราอยากรักตัวเองด้านไหน อยากทำสิ่งดี ๆ อะไรให้เกิดขึ้น มันดีตั้งแต่วินาทีที่เราคิดจะตั้งเลย เป้าหมายที่ดีของคนอื่นอาจหมายถึงการทำให้สำเร็จ แต่เจนนี่มองว่าแค่คุณคิดจะตั้งเป้าหมายมันก็ดีแล้ว บางคนไม่เคยคิดจะตั้งด้วยซ้ำ มันทำให้เรียนรู้ว่าเราไม่ได้สมบูรณ์แบบ เรามีข้อเสียที่ต้องปรับปรุง ซึ่งบางปีเราอาจทำไม่ได้ 100% หรอก อาจทำได้แค่ 20% นั่นหมายความว่าเรามีเรื่องดีเพิ่มขึ้น 20% นะเว้ยแก
ไม่แย่เลย เดี๋ยวนี้เขาจะมีสูตรแบบว่าทำเป้าหมายให้สำเร็จสไตล์คนขี้เกียจ เจนนี่ชอบมาก คนเรามีความสุขกับความล้มเหลวของการตั้งเป้าหมายปีใหม่ได้ เพราะมันไม่ได้ล้มเหลวแบบไม่เหลืออะไร แต่มันหมายถึงเราล้มเหลวแต่ขณะเดียวกันเราได้เพิ่ม เช่น ปีนี้อยากเก็บเงินให้ได้สักล้านหนึ่ง แต่พอสิ้นปีในบัญชีเก็บได้ 2 แสน ก็ถือว่าไม่เรียกว่าล้มเหลวนะ มันเยอะมาก คุณเริ่มจากศูนย์ ใครจะกล้าพูดว่าล้มเหลว หน้าที่ของคุณคือปีหน้าก็ทำให้ได้มากขึ้น แฮปปี้กับมัน
ถ้าตอนเด็กเราจะตอบแบบไม่ต้องคิดเลยว่าอยากได้เสื้อผ้าใหม่ แต่ตอนนี้โตแล้ว เราอยากแนะนำเป้าหมาย 3 อย่างที่ควรตั้ง หนึ่งออกไปทำกิจกรรมให้มากขึ้น สองคือเรียนรู้ด้วยตัวเอง พึ่งตัวเอง ควบคุมตัวเองให้ได้ และสุดท้ายเรื่องรักในวัยเรียน อย่าให้รักนำการเรียน เพราะน้อง ๆ ยังไม่ได้อยู่ในวัยที่จะรักใครสักคนได้อย่างเต็มที่
การได้กินอิ่ม นอนหลับ ความสุขของเรามันบ้านมาก ๆ เพราะชีวิตของเจนนี่ไม่ได้คาดหวังอะไรเยอะมาตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว เราไม่ได้คิดว่าตัวเองจะได้เป็นดาราพิธีกร ทุกอย่างที่ได้รับมันเหนือความคาดหวังของเรา ตอนนี้ต้องการแค่ความสุขพื้นฐานคือ กินอิ่ม นอนหลับ และไม่ต้องกังวลกับอะไรทุกวันก็พอ
เรื่อง : วัลญา นิ่มนวลศรี
ภาพถ่าย : ประวีร์ จันทร์ส่งเสริม
ภาพประกอบ : พลอยขวัญ สุทธารมณ์