การเตรียมวัตถุดิบ
วัตถุดิบซึ่งได้แก่ ดินปั้น นับเป็นสิ่งสำคัญ ในการทำเครื่องปั้นเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นเพื่อให้ผลิตภัณฑ์มีคุณภาพดี จึงต้องมีการเตรียมวัตถุดิบ ให้มีคุณสมบัติตรงตามความประสงค์ เช่น ปรับเนื้อดินให้มีความเหนียว พอเหมาะแก่การขึ้นรูป ปรับให้เนื้อดินสุกตัว ในอุณหภูมิต่ำ หรือปรับเนื้อดินให้เหมาะกับการทำเครื่องเคลือบ เป็นต้น การเตรียมวัตถุดิบมีขั้นตอนดังนี้
๑) การบดดินหรือหิน
วัตถุดิบไม่ว่าจะเป็นดินหรือหิน ต้องนำมาบดเป็นผง โดยใช้เครื่องมือบดชนิดต่างๆ ซึ่งสามารถทำได้รวดเร็ว และได้ปริมาณมาก สำหรับวัตถุดิบที่ไม่แข็งมากนัก และมีปริมาณไม่มาก การบดอาจใช้วิธีทุบหรือตำ โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือเฉพาะเข้าช่วย เมื่อบดละเอียดแล้ว นำมาร่อนด้วยตะแกรงร่อน ให้ได้ขนาดของความละเอียดตามต้องการ แล้วจึงนำไปล้างหรือนำไปผสมกับวัตถุดิบอื่น เพื่อให้เนื้อดินเหมาะแก่การขึ้นรูปผลิตภัณฑ์ ตามต้องการต่อไป
๒) การล้างดิน
โดยทั่วไปแล้ว เนื้อดินธรรมชาติมีสิ่งเจือปนอยู่มาก เช่น กรวด ทราย เศษไม้ เป็นต้น ทำให้ไม่เหมาะในการนำมาทำผลิตภัณฑ์ จึงต้องนำดินมาล้าง ให้สิ่งเจือปนออกไปเสียก่อน โดยวิธีใดวิธีหนึ่งดังนี้
ล้างโดยไม่ใช้เครื่องมือช่วย
วิธีนี้ใช้อุปกรณ์ที่หาได้ง่าย เช่น อ่างน้ำ ตุ่ม ตะแกรงร่อน เป็นต้น โดยนำดินที่บดหรือทุบละเอียดแล้ว ไปแช่น้ำในภาชนะที่กล่าวมาแล้ว ให้ดินสลายตัว ใช้ไม้กวนเนื้อดินให้แยกตัวออกจากกรวด ทราย และสิ่งเจือปนต่างๆ แล้วนำดินมาผ่านตะแกรงร่อน ให้เนื้อดินตกตะกอน เมื่อดินตกตะกอนแล้ว จึงสูบน้ำออกเหลือเฉพาะเนื้อดินที่จะนำไปหมัก หรือทำให้หมาดต่อไป
ล้างโดยใช้เครื่องมือ
เครื่องไฮโดรไซโคลนเป็นเครื่องมือล้างดิน ที่สามารถทำได้รวดเร็ว และปริมาณมาก จึงเหมาะสำหรับโรงงานอุตสาหกรรม ทำโดยนำดินที่บดละเอียดแล้ว ใส่ลงในถังไฮโดรไซโคลน ซึ่งเป็นรูปกรวย เครื่องจะสูบน้ำเข้าถัง แล้วหมุนอย่างแรง ให้กรวดทรายซึ่งมีน้ำหนักมากกว่าดิน แยกตัวออก ตกลงสู่ก้นถัง เหลือเนื้อดินซึ่งเบากว่าลอยอยู่ตอนบน โดยมีท่อสูบออกเพื่อไปหมักตามวิธีการต่อไป
๓) การผสมวัตถุดิบ
ได้แก่ การนำวัตถุดิบ เช่น หิน ดิน หรือแร่ต่างๆ ผสมกันให้เนื้อดินเหมาะแก่การทำผลิตภัณฑ์ มีวิธีการต่างๆ คือ
ผสมเปียก
การผสมโดยวิธีนี้ ใช้น้ำเป็นตัวช่วยผสม โดยใส่วัตถุดิบลงในหม้อผสม ซึ่งมีน้ำในปริมาณที่เหมาะสมอยู่ในหม้อผสมนั้นแล้ว ภายในหม้อมีลูกหินขนาดต่างๆ เป็นตัวช่วยในการคลุกเคล้าวัตถุดิบ หมุนหม้อผสมช้าๆ ให้วัตถุดิบผสมกัน จนได้ผลตามต้องการ การผสมด้วยวิธีนี้เป็นที่นิยมกันมากกว่าวิธีอื่น
ผสมหมาด
เป็นการผสมวัตถุดิบ หรือดินที่มีความเหนียวจับตัวเป็นก้อน นำมานวดผสมกับวัตถุดิบอื่นๆ จนคลุกเคล้ากันได้ดีตามต้องการ
ผสมแห้ง
การผสมโดยวิธีนี้เป็นการผสมโดยใช้วัตถุดิบ ที่บดเป็นผงละเอียดขณะแห้ง ไปผสมกับวัตถุดิบอื่น ที่มีความแห้งใกล้เคียงกัน ในหม้อผสม โดยไม่ต้องใช้น้ำเป็นตัวช่วยผสม จนคลุกเคล้าได้ดีตามต้องการ
๔) การแยกเหล็กจากเนื้อดิน
เนื้อดินธรรมชาติโดยทั่วไปมักมีแร่เหล็กผสมอยู่ จึงจำเป็นต้องแยกออก โดยการใช้เครื่องมือแยกเหล็ก เครื่องมือดังกล่าวใช้หลักการเปลี่ยนกระแสไฟฟ้าเป็นแม่เหล็ก ดังนั้นเมื่อนำเอาน้ำดินใส่ลงไปในเครื่องมือแยกเหล็ก แม่เหล็กจะดูดเหล็กในน้ำดินออกจนหมด การนำน้ำดินมาแยกเหล็ก ควรผ่านวิธีการบด การล้าง การผสม มาก่อนแล้ว
๕) การหมักดิน
ดินที่ผ่านขั้นตอนการเตรียมวัตถุดิบที่กล่าวมาแล้ว แม้จะได้ดินที่มีคุณสมบัติตามต้องการ แต่ดินยังมีความเหนียวน้อย ทำให้นำมาขึ้นรูปผลิตภัณฑ์ยาก จึงต้องนำดินไปหมักในอ่างปูน หรือโอ่งดิน โดยใส่น้ำลงในภาชนะที่ใช้หมัก ให้ดินมีความชุ่มอยู่เสมอ จะทำให้ดินมีความเหนียวยิ่งขึ้น ยิ่งแช่หมักเป็นเวลานาน ความเหนียวจะเพิ่มมากขึ้น
๖) การอัดดิน
เป็นวิธีการทำน้ำดินให้กลายเป็นเนื้อดินปั้น โดยใช้เครื่องอัดดิบ น้ำดินจะถูกดูดผ่านแผ่นอัด เพื่อไล่น้ำออก จนเนื้อดินจับตัวเป็นแผ่น จนสามารถนำไปนวด เพื่อใช้งานต่อไป การอัดดินโดยไม่ใช้เครื่องมือ อาจทำได้โดยเทน้ำดินลงบนแผ่นปูนปลาสเตอร์ ให้แผ่นปูนดูดซับน้ำ จนดินหมาดจับตัวเป็นเนื้อดินปั้น พร้อมที่จะนำมานวดต่อไป
๗) การนวดดิน
ทำเพื่อให้เนื้อดินผสมเป็นเนื้อเดียวกัน และไล่ฟองอากาศที่อยู่ในดินออกไปด้วย อาจทำได้โดยใช้เครื่องรีดดินช่วย เพื่อให้เร็วขึ้น ดินที่ผ่านการรีดแล้ว เมื่อนำไปนวดด้วยมือต่ออีกเล็กน้อย ก็พร้อมที่จะนำไปขึ้นรูปได้ ในกรณีที่ไม่ใช้เครื่องมือช่วยอาจใช้มือนวด ใช้ เท้าเหยียบ หรือใช้ไม้ทุบ การนวดดินควรทำบนพื้นไม้ เพื่อป้องกันไม่ให้มีสิ่งเจือปนเข้าไปในเนื้อดิน เมื่อผ่านการนวดแล้ว ดินจะมีความเหนียว และความชื้นพอเหมาะ ในการนำไปขึ้นรูปผลิตภัณฑ์ต่อไป