จมูกเป็นอวัยวะที่สำคัญ คนเราหายใจทางจมูก ในวันหนึ่งๆ เราต้องหายใจสูดอากาศเข้าไปเป็นจำนวนมาก อากาศในที่ต่างกัน มีส่วนประกอบต่างกัน อากาศอาจประกอบด้วยสิ่งต่างๆ ที่มีประโยชน์ และโทษต่อร่างกาย เช่น ออกซิเจน เชื้อโรคต่างๆ ฝุ่นละออง สารที่ทำให้เกิดการแพ้ ไอเสีย รถยนต์ เมื่อเราหายใจเข้า สิ่งต่างๆ ในอากาศจะผ่านเข้าทางจมูก ผ่านลำคอ หลอดลม แล้วเข้าสู่ปอด ขณะที่อากาศผ่านจมูกจะผ่านโพรงจมูก โพรงจมูกจะทำให้อากาศอุ่นขึ้น และขับสารเหลวออกมาเป็นน้ำมูก ดักสิ่งสกปรกจำพวกเชื้อโรค ฝุ่นละอองไม่ให้เข้าไปในหลอดลมและปอด แต่บางครั้งสิ่งสกปรกก็ผ่านเข้าไปพร้อมออกซิเจน อาจทำให้เกิดโรคแก่อวัยวะที่ผ่าน เช่น ลำคอ หลอดลม และปอดได้
ดังนั้นเราจึงไม่ควรหายใจเอาอากาศที่มีเชื้อโรค ฝุ่นละออง สารที่มีพิษ หรือสารที่ทำให้เกิดการแพ้เข้าไป ควรใช้ผ้าสะอาดปิดจมูกเมื่ออยู่ในที่ที่มีฝุ่นละอองมาก หรือมีสารที่มีพิษ
หูนับเป็นอวัยวะที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง ใบหู และรูหู ทำหน้าที่รับเสียงผ่านแก้วหูเข้าไปสู่หูชั้นกลาง และชั้นใน ทำให้เราได้ยินเสียง ดังนั้น ถ้าส่วนต่างๆ ของหูได้รับการกระทบกระเทือน หรือได้รับเชื้อโรค เช่น โดนกระแทกแรงๆ ได้ยินเสียงดังมาก มีน้ำเข้าหู ได้รับเชื้อโรค เพราะแคะหูด้วยเครื่องมือสกปรก แคะหูแรงเกินไป อาจทำให้เกิดโรคหูได้ จึงควรหลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านี้ เช่น ระวังไม่ให้โดนของแข็ง หรือของแหลมที่หู ไม่ให้น้ำเข้าหู ไม่ แคะหูเอง ถ้ามีขี้หูมากๆ ต้องไปให้แพทย์เคาะให้
เรารับประทานอาหารและน้ำเข้าทางปาก แล้วกลืนสู่ลำคอ หากอาหาร และน้ำมีเชื้อโรคต่างๆ หรือมีสิ่งมีพิษปนอยู่ จะทำให้ปาก ลำคอ กระเพาะอาหาร และลำไส้ เกิดโรคได้ เราจึงควรเลือกรับประทานอาหาร และดื่มน้ำที่สะอาด และไม่มีพิษ
ถ้าเกิดอาการผิดปกติกับหู คอ จมูก ต้องรีบรักษา เพราะถ้าปล่อยไว้จะเป็นมาก จะทำให้ปวดหรืออาจพิการได้
เมื่อมีน้ำมูก ไม่ควรสั่งน้ำมูกแรงๆ เพราะน้ำมูก หนอง หรือเชื้อโรคที่อยู่กับน้ำมูก อาจทะลักเข้าสู่ช่องที่ติดต่อกับหูชั้นกลาง หรือเข้าสู่ช่องโพรงอากาศในกระดูกรอบจมูกหรือไซนัส ทำให้เกิดโรค และแพร่เชื้อโรคกระจายมากขึ้น โรคเหล่านี้มักจะเป็นนานและรักษายาก
ที่บริเวณลำคอ มีต่อมน้ำเหลืองใหญ่อยู่คู่หนึ่งคือ ต่อมทอนซิล ต่อมนี้ป้องกันเชื้อโรคที่ติดเข้ามากับอากาศ อาหาร และน้ำ ดังนั้นถ้ามีเชื้อโรคต่อมจะอักเสบ ถ้าอาการรุนแรงมากอาจเป็นหนอง และลุกลามไปยัง บริเวณใกล้เคียง เช่น หูชั้นกลาง เพราะมีท่อติดต่อกันได้
โรคหรืออันตรายของหู นอกจากจะมาจากอันตรายที่หูได้รับโดยตรง จากหูชั้นนอก เช่น ใบหู และแก้วหู ได้รับการกระทบกระเทือน เชื้อโรคเข้า เพราะการแคะหูด้วยไม้แคะหูที่ไม่สะอาดแล้ว ยังมีสาเหตุจากการที่หูมีท่อติดต่อกับส่วนอื่นๆ อีก
ถ้าความดันในหูชั้นกลางกับภายนอกแตกต่างกัน จะเกิดอันตรายต่อหูชั้นกลางได้ เช่น ขณะที่เครื่องบินขึ้นหรือลง จะเกิดความดันในช่องหูชั้นกลางกับภายนอกต่างกันอย่างเร็ว ร่างกายปรับไม่ทัน เราจะปวดหู และหูอื้อ ควรเคี้ยวหมากฝรั่ง หรือทอฟฟี่ เพราะการเคี้ยวและกลืน จะทำให้ท่อที่ต่อระหว่างช่องหูชั้นกลาง และลำคอเปิด ซึ่งเป็นการปรับความดันให้เท่ากัน
ถ้ามีเชื้อโรคในหูชั้นกลาง ซึ่งอาจได้รับจากหูชั้นนอก หรือจากทางอื่น จะเกิดการอักเสบในช่องหูชั้นกลาง จะได้ยินเสียงน้อยลง หรือเกิดแก้วหูทะลุ มีน้ำหนองไหล หากเป็นมากน้ำหนองจะมีกลิ่นเหม็น และกระดูกหูทั้งสามชิ้นในหูชั้นกลางอาจจะถูกทำลายเสียไป
หูชั้นในมี ๒ ส่วน คือ ส่วนที่รับเสียง และส่วนที่ควบคุมการทรงตัว เมื่อเกิดโรคที่ทำอันตรายต่อหูชั้นในส่วนที่รับเสียง ผู้ป่วยจะฟังเสียงต่างๆ ไม่ชัดเจน ถ้าเป็นตั้งแต่เล็กๆ อาจหูหนวก เป็นใช้ หูตึง และหัดพูดได้ช้ากว่าคนอื่นๆ หากหูชั้นในส่วนที่ควบคุมการทรงตัวเกิดการอักเสบ หรือได้รับบาดเจ็บ อาจทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะ และเดินเซได้
วิธีที่จะป้องกันหู คอ จมูก ปาก และอวัยวะที่ติดต่อกันไม่ให้เกิดโรค คือ ป้องกันไม่ให้เชื้อโรค สิ่งมีพิษ และสิ่งที่ทำให้เกิดการแพ้เข้าทางหู คอ จมูก ปาก และป้องกันการบาดเจ็บจากการถูกของมีคม หรือของแข็งตามที่กล่าวมาแล้ว
การช่วยป้องกันไม่ให้เกิดโรคต่างๆ ได้ง่าย และถ้าเป็นก็จะหายเร็ว คือ ทำให้ร่างกายแข็งแรง มีสุขภาพดี มีภูมิต้านทางโรคดี หายใจในที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และนอนพักผ่อนให้เพียงพอ