ไอเดียที่จะป้องกันและแก้ไขปัญหาสังคมผ่านการลงมือทำจริงกับโจทย์ปัญหา 3 ข้อ ซึ่งทีม ‘Dream Hub’ ผ่านการคัดเลือกและได้เข้าร่วมเดินทางไปทัศนศึกษาดูงานที่ Silicon Valley แคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา
ทีมเรามารวมตัวกันเพราะความบังเอิญครับ พอดีไปเปิดในหน้าเฟซบุ๊กแล้วเจอข่าวประชาสัมพันธ์โครงการนี้ ก็เลยสนใจเพราะว่าเป็นคนมีความฝันเกี่ยวกับเด็กอยู่แล้ว จึงอยากที่จะเข้าร่วมโครงการนี้ แล้วผมก็ไม่ได้ถามเพื่อนถามใครเลย ใส่ชื่อเพื่อนลงไปเรียบร้อย เพราะมันจะหมดเวลาแล้ว (หัวเราะ)
ในทีมจะมี โต๊ด-ธรรมรัฐ ทองจันทร์ นักศึกษาสาขาชีววิทยา (คบ.5 ปี) คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นปีที่ 3 ม.ราชภัฏนครปฐม และเป็นนักศึกษาสาขาชีววิทยา (วท.บ. 4ปี ) คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นปีที่ 3 ม.รามคำแหง ไบรท์-ภัทรภณ ช้อยประเสริฐ นักศึกษาคณะนิติศาสตร์ ชั้นปีที่ 2 ม.รามคำแหง อัฐ-อดิศัย ศรีวราสาสน์ นักศึกษาสาขาการจัดการทั่วไป คณะวิทยาการจัดการ ชั้นปีที่ 2 ม.ราชภัฏนครปฐม และกานต์-รัตนา ภูศรี นักศึกษาสาขาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ ม.ศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ และโค้ชอีก 2 คนคือ คุณเเหม่ม-จิราภรณ์ เลิศสหกุล และคุณบอย-วิชญาพัฒน์ เศนาพักตร์ กับโจทย์ปัญหาข้อที่ 2 Youth Mental Wellness : เสริมภูมิคุ้มกันให้จิตวัยใส ทางทีมได้ปั้นโปรเจกต์ชื่อว่า ‘สานฝันให้น้อง ๆ วัยมัธยมได้มีโอกาสเรียนรู้ และลงมือทำตามความตั้งใจ ผ่านกิจกรรมเวิร์กช็อปที่ได้ทำจริง’ โดยได้แนวคิดจากปัญหาที่เคยเจอ ไม่ว่าจะเรื่องเรียน การใช้ชีวิต ที่มีผลทำให้น้อง ๆ ไปไม่ถึงฝัน
ชื่อว่า Dream Hub คือทุกคนในทีมจะมีความฝันของตัวเอง แต่บางคนก็ได้ทำบางคนก็ไม่ได้ทำ พวกเราก็เลยจัดทำโครงการนี้ขึ้นมาจากความฝันของพวกเราทั้งสี่คน ทำให้มันเป็นจริงให้ได้
ในทีมของเราจะแบ่งหน้าที่การทำงานชัดเจนนะเริ่มจากอัฐ ทำหน้าที่เป็นเฮด มีหน้าที่คิด กระจายงาน โต้ด ทำหน้าที่เป็นแนววิชาการ เก็บข้อมูลแบบเลขา ไบท์ ลงพื้นที่ปฏิบัติ และกานต์ คอยเสริมทุก ๆ ด้าน เราจะแบ่งหน้าที่ไว้ประมาณนี้ แต่พอลงมือทำจริงส่วนไหนขาดอะไรเราจะเข้าไปช่วยกันครับ
เริ่มจากวิเคราะห์ถึงปัญหาที่น้อง ๆ ในโรงเรียนฝันไว้แต่ไม่ได้ทำ พอวิเคราะห์ปัญหาแล้วก็คิดต่อว่าน้อง ๆ ต้องการความช่วยเหลืออะไรบ้าง ทีมก็จะต้องไปหาวิธีเรียนที่น้อง ๆ อยากทำ เช่น วิชาดนตรี ก็หาเพื่อนคนที่เรียนดุริยางคศิลป์มาซับพอร์ทความฝันให้คำตอบกับน้อง ๆ โดยตรง ซึ่งกระบวนการทำงานทั้งหมด 6 เดือน แบ่งเป็น 2 เซต เซตแรกจะเป็นการซับพอร์ทความฝันแบบเคสบายเคส เซตที่ 2 การแนะแนวจากรุ่นพี่แต่ละคณะ และมาร่วมจัดกิจกรรมเพื่อให้น้อง ๆ ได้ประสบการณ์ ได้ความรู้ไปใช้ในการเลือกเดินตามความฝันต่อไป
ข้อดีคือ ทำให้เด็กไทยกล้าที่จะเดินตามความฝันของตัวเอง เพราะเด็กบางคนมีโอกาสและไม่มีโอกาสได้ทำ ทีมเราจึงตั้งแนวคิดไว้ว่า ให้ลงมือทำ ลองสัมผัส ให้ลองคิด ทำงานร่วมกับคนอื่น ๆ ส่วนจุดที่เกิดข้อบกพร่องตรงที่ทีมเราอายุยังน้อย ประสบการณ์ไม่ค่อยมี จึงทำให้เนื้อหาการทำงาน การควมคุม หรือติดต่อกับโรงเรียนยากครับ
ตั้งแต่เริ่มโปรเจกต์จนเสร็จวันสุดท้าย ถึงแม้ทางทีมจะเจอกับปัญหาเวลาที่ไม่ตรงกัน เรียนอยู่คนละที่ แต่ก็สามารถแก้ปัญหานั้นได้ด้วยการจัดตารางเวลาพร้อมกับการนัดประชุมสม่ำเสมอ สร้างความท้าทายทั้งเรื่องการทำงานเป็นทีม และตอบโจทย์ความต้องการของน้อง ๆ ให้ตรงจุด ให้เกิดการเรียนรู้ และสนุกไปด้วย ซึ่งก้าวต่อไปของโปรเจกต์นี้คือ ดรีมฮับสัญจร ไปสอนน้อง ๆ ในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน เดือนธันวาคมนี้
คือประสบการณ์ที่ไม่เคยเจอจากที่ไหน เป็นการนำความคิดของแต่ละคนมาทำให้เป็นจริง โดยใช้กระบวนคิดกระบวนการทำงานจากพี่ ๆ จากโค้ชมาแชร์ มาช่วยสอนให้เรามาปรับใช้ในชีวิตจริง ได้เปิดมุมมองใหม่เห็นความคิดของคนรุ่นใหม่ ๆ เจอเพื่อนที่ความคิดต่างกัน
เชื่อว่าความฝันของคนเราต่างกัน และสิ่งที่ทำให้คนต่างกันก็คือความฝัน บางคนทิ้งความฝันแล้วเดินตามกระแสนิยม เดินตามโลกไปเรื่อย ๆ ไม่มีอะไรที่เปลี่ยนแปลง ถ้าเราได้เดินตามความฝันจะรู้สึกว่ามีความสุขกับสิ่งที่ทำอยู่ แล้วสุดท้ายเราจะไม่เสียใจเลยที่เดินตามความฝันของตัวเอง
อัฐ ตัวแทนทีมถ่ายทอดเรื่องราวความประทับใจว่า “ตลอดทั้ง 9 วัน ได้เดินทางไปหลายที่ เช่น วันแรกที่ไปคืองาน Open House ของมหาวิทยาลัย Berkeley แล้วก็มี Machine Shop คือโปรเจกต์ที่คิดขึ้นมาแล้วแต่ยังไม่รู้จะไปต่อยังไงก็นำไปไว้ที่นี่ได้ และได้ไปดูงานสุดยอดบริษัทใน Silicon Valley อย่าง Google, Facebook เยี่ยมชมมหาวิทยาลัยที่สนับสนุน Startup และการสร้างนวัตกรรมที่ Stanford University อีกทั้งองค์กรภาคสังคมที่สร้างนวัตกรรมน่าสนใจอย่างบริษัทแอนิเมชั่นระดับโลก Pixar พิพิธภัณฑ์ด้านศิลปะ MOMA พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ Exploratorium, Nasa Ames Research Center และอื่น ๆ อีกมากมาย
1. Alcatraz
2. Computer Museum
3. Facebook
4. Golden Gate
5. Google
6. NASA
7. Pixar
8. Science Museum
9. Stanford University
10. University of California, Berkeley
เรื่อง : วรรณวิสา สุภีโส