เมื่อเราแหงนหน้าขึ้นมองฟ้าในยามค่ำคืน สิ่งหนึ่งที่สามารถมองเห็นได้ก็คือ ดวงจันทร์สีเหลืองนวลที่กลมโต หรือบางครั้งมันก็เหลือเพียงจันทร์เสี้ยวให้มองเห็นได้ แต่ความจริงแล้วนักดาราศาสตร์รู้จักดวงจันทร์มากกว่านั้น
1. ดวงจันทร์มีระยะห่างจากโลกประมาณ 384,400 กิโลเมตร หรือเท่ากับนำโลกมาเรียงต่อกัน 30 ใบ ก็จะได้ระยะทางจากโลกไปถึงดวงจันทร์
2. พระจันทร์เต็มดวงแต่ละครั้งนั้นมีขนาดไม่เท่ากัน ขนาดของพวกมันมีหลากหลาย ขึ้นอยู่กับดวงจันทร์นั้นโคจรอยู่ใกล้หรือไกลจากโลกของเรามากน้อยแค่ไหน แต่โดยทั่วไปดวงจันทร์จะมีขนาดใหญ่ขึ้น 14% เมื่ออยู่โคจรอยู่ใกล้กับโลกมากที่สุด
3. แกนกลางของดวงจันทร์มีมวล 2-4% ของมวลทั้งหมดของมัน ขณะที่แกนกลางของโลกมีมวลประมาณ 30% ของมวลทั้งหมดของโลก
4. ดวงจันทร์ไม่ได้มีลักษณะเป็นทรงกลมอย่างที่เราเห็นกันจากโลก แต่มันมีลักษณะคล้ายกับรูปทรงของไข่
5. เนื่องจากดวงจันทร์ไม่มีชั้นบรรยากาศไว้กรองรังสีหรือความร้อนจากดวงอาทิตย์ ดังนั้น ช่วงของอุณหภูมิที่ต่ำที่สุดและช่วงอุณหภูมิที่สูงที่สุด จึงแตกต่างกันมาก โดยบริเวณที่ถูกแสงอาทิตย์ จะมีอุณหภูมิประมาณ 127 องศาเซลเซียส และบริเวณที่ไม่ถูกแสงอาทิตย์ จะมีอุณหภูมิ -173 องศาเซลเซียส
6. เส้นผ่านศูนย์กลางของดวงจันทร์มีขนาด 3,475 กิโลเมตร ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าเส้นผ่านศูนย์กลางของโลกถึง 4 เท่า
7. ดวงจันทร์มีขนาดเล็กกว่าดวงอาทิตย์ถึง 400 เท่า แต่มันก็ใกล้กับโลกมากกว่าดวงอาทิตย์ถึง 400 เท่าเช่นกัน ดังนั้น เมื่อมองจากโลกแล้ว ดวงจันทร์และดวงอาทิตย์จึงดูเหมือนจะมีขนาดเท่ากัน
8. พื้นผิวทั้งหมดของดวงจันทร์ถูกปกคลุมไปด้วยชั้นของฝุ่นหินและเศษหิน โดยฝุ่นหินและเศษหินเหล่านี้เกิดจากการระเบิดของอุกกาบาตขนาดเล็กเมื่อหลายล้านปีก่อน
9. โลกหนักกว่าดวงจันทร์ถึง 81 เท่า โดยน้ำหนักของโลกอยู่ที่ประมาณ 5.972x10^24 กิโลกรัม ขณะที่ดวงจันทร์นั้นหนักเพียง 7.35x10^22 กิโลกรัม
10. ดวงจันทร์มีแรงโน้มถ่วงเป็น 1/6 เท่าของโลก นั่นหมายความว่า น้ำหนักตัว 60 กิโลกรัมของคุณบนโลก จะเหลือเพียง 10 กิโลกรัมเท่านั้น หากไปชั่งบนดวงจันทร์ และหากคุณกระโดดบนโลกได้สูง 2.5 เมตร บนดวงจันทร์ คุณจะสามารถกระโดดได้สูงถึง 15 เมตรเลยทีเดียว
11. โลกหมุนด้วยความเร็ว 1,000 ไมล์ต่อชั่วโมง (ประมาณ 1,600 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ขณะที่ดวงจันทร์หมุนด้วยความเร็วเพียง 10 ไมล์ต่อชั่วโมง (ประมาณ 16 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) เท่านั้น
12. แม้ว่าพระจันทร์เต็มดวงนั้นจะดูสว่างไสว แต่ความเป็นจริงแล้วมันเป็นการสะท้อนแสงของดวงอาทิตย์ออกมาเพียง 7% เท่านั้น
13. ดาวพุธและดาวศุกร์ เป็นดาวเคราะห์เพียง 2 ดวงในระบบสุริยะนี้ที่ไม่มีดวงจันทร์บริวาร
14. บนดวงจันทร์มีหินเพียง 3 ชนิดเท่านั้น ได้แก่ หินบะซอลต์ (basalt) หินอะนอร์โทไซต์ (anorthosite-เป็นหินแกบโบรชนิดหนึ่ง) หินเบรกเซีย (breccia) ซึ่งล้วนเป็นหินที่สามารถพบได้บนโลก
15. ดวงจันทร์บริวารของโลกไม่ได้โคจรรอบเส้นศูนย์สูตรที่กลางโลกเหมือนกับดวงจันทร์บริวารของดาวเคราะห์อื่น ๆ แต่ดวงจันทร์บริวารของโลกจะโคจรในลักษณะเอียง โดยทำมุม 20-30 องศากับโลก
16. แม้ว่าทั้งสองด้านของดวงจันทร์จะสามารถสะท้อนแสงสว่างจากดวงอาทิตย์ได้เท่า ๆ กัน แต่หากมองจากโลกเราจะเห็นดวงจันทร์เพียงด้านเดียว นั่นเป็นเพราะว่าดวงจันทร์หมุนรอบแกนของตัวเองไปพร้อม ๆ กับการโคจรรอบโลก (ใช้เวลาประมาณ 27 วัน) จึงทำให้มีเพียงด้านเดียวเท่านั้นที่หันหน้าเข้าหาโลกเสมอ
17. บนดวงจันทร์ก็มีแผ่นดินไหวได้เช่นกัน โดยนักดาราศาสตร์ได้ใช้อุปกรณ์วัดแผ่นดินไหวที่เรียกว่า Seismographs ตรวจสอบ และพบว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาดเล็กใต้พื้นผิวของดวงจันทร์ มีระยะทางไกลหลายกิโลเมตร ทำให้เกิดการแตกและรอยร้าว ซึ่งนั่นทำให้นักวิทยาศาสตร์คาดว่าใจกลางหรือแกนของดวงจันทร์จะมีลักษณะเช่นเดียวกับโลก
18. ในแต่ละปีดวงจันทร์จะเคลื่อนตัวออกห่างจากโลกเป็นระยะ 3.48 เซนติเมตร
19. จากการศึกษาวิจัยพบว่า ผู้คนส่วนใหญ่จะนอนหลับในคืนเดือนมืดได้ดีกว่าคืนพระจันทร์เต็มดวง