วัวควายต้องสืบพันธุ์ เพื่อทวีจำนวน และให้ผลิตผลการผสมพันธุ์จึงเป็น ปัจจัยสำคัญในการตัดสินประสิทธิภาพของการเลี้ยงวัวควาย วัวควายที่ให้ผลิตผลสูงควรให้ลูกทุกปี วัวควายที่ไม่ให้ลูกย่อมไร้ประโยชน์ในแง่การให้เนื้อและนม วัวควายนมจะให้นมหลังจากคลอดลูก และจะหยุดให้นม หลังจากนั้น ๖-๑๐ เดือนจะให้นมอีกเมื่อคลอดลูกอีกครั้ง ส่วนผลิตผลของวัวควายเนื้อและงานก็คือ ลูกวัวควายที่จำหน่ายได้ในแต่ละปี ดังนั้น ผู้เลี้ยงจึงพยายามให้วัวควายออกลูกทุกๆ ปี ถ้าทำได้ การผสมพันธุ์วัวควายทำได้ ๒ แบบ แบบหนึ่ง เรียกว่า ผสมธรรมชาติ อีกแบบหนึ่งเรียกว่า ผสมเทียม
มี ๒ แบบ คือ
๑. การผสมปล่อยฝูง โดยปล่อยตัวผู้ไว้ในฝูงตัวเมียในระยะ ๒-๓ เดือน โดยทั่วไปใช้ตัวผู้หนึ่งตัว/ตัวเมีย ๒๐-๓๐ ตัว
๒. การจูงผสม โดยจูงตัวผู้ไปหาตัวเมียเมื่อตัวเมียแสดงอาการสัด(รับการผสมพันธุ์) เท่านั้น หลังจากนั้นจะแยกขังตัวผู้ไว้ต่างหาก มิให้ผสมพันธุ์ตามใจชอบเหมือนแบบปล่อยฝูง วิธีนี้ใช้ตัวผู้หนึ่งตัว/ตัวเมีย ๔๐-๖๐ ตัว
ได้แก่ การนำเชื้ออสุจิจากตัวผู้ไปผสมพันธุ์ให้กับตัวเมีย โดยอาศัยเครื่องมือวิทยาศาสตร์ ผู้เลี้ยงรีดน้ำเชื้ออสุจิจากตัวผู้ โดยอาศัยเครื่องเพศเทียม หรือเครื่องรีดนำเชื้อไฟฟ้า ทำน้ำเชื้อให้เจือจางด้วยน้ำยาผสมเคมีดูดเข้าหลอดฉีดน้ำเชื้อ แล้วปล่อยเข้าทางอวัยวะเพศของตัวเมีย การผสมเทียมช่วยให้สามารถผสมพันธุ์ตัวเมียได้เป็นจำนวน ๑๐๐-๒๐๐ ตัว/ปริมาณน้ำเชื้อที่รีดมาครั้งหนึ่ง จึงทำให้สามารถใช้ประโยชน์จากพ่อพันธุ์คุณภาพดีได้เต็มที่ และป้องกันการติดเชื้อโรคเกี่ยวกับระบบการสืบพันธุ์ได้ดีด้วย การผสมพันธุ์วิธีนี้จึงแพร่หลายมากในปัจจุบัน โดยเฉพาะการผสมพันธุ์วัวควายนม