I plan on going to the convenience store later.
I plan to go to the convenience store later.
ทั้งสองประโยคนี้มีความหมายเหมือนกันว่า “ฉันตั้งใจจะไปร้านสะดวกซื้อหลังจากนี้” แต่ในรูปประโยคมีความแตกต่างกันเล็กน้อยดังนี้
รูปประโยคคือ plan on + present participle (V.ing) เช่น
I plan on moving to Japan someday.
(ฉันตั้งใจจะย้ายไปญี่ปุ่นในสักวันหนึ่ง)
My sister plans on cleaning up tomorrow.
(น้องสาวของฉันตั้งใจจะทำความสะอาดวันพรุ่งนี้)
We plan on seeing a movie tonight.
(พวกเราตั้งใจจะดูหนังคืนนี้)
รูปประโยคคือ plan to + infinitive (V.1) เช่น
I plan to move to Japan someday
(ฉันตั้งใจจะย้ายไปญี่ปุ่นในสักวันหนึ่ง)
My sister plans to clean up tomorrow.
(น้องสาวของฉันตั้งใจจะทำความสะอาดวันพรุ่งนี้)
We plan to see a movie tonight.
(พวกเราตั้งใจจะดูหนังคืนนี้)
ในกรณีที่เป็นประโยคคำถาม ควรใช้รูปประโยค plan on เช่น
Where do you plan on going for dinner?
(คุณตั้งใจจะไปดินเนอร์ที่ไหน)
What do you plan on getting?
(คุณตั้งใจจะซื้ออะไร)
1. ทั้ง plan on และ plan to เมื่อประธานเป็นเอกพจน์บุรุษที่ 1 เช่น he, she, it, Tom, Marry, My sister… กริยา plan ต้องเป็นเอกพจน์ด้วยการเติม s
2. บางประโยคก็ไม่ต้องใช้ plan on และ plan to ในการบอกความตั้งใจหรือการวางแผนที่จะทำ เช่น I work tomorrow.
3. ในงานเขียนจะนิยมใช้ plan to มากกว่า เนื่องจากมีความเป็นธรรมชาติกว่า plan on + v.ing เช่น
I plan to quit smoking. นิยมใช้ประโยคนี้มากกว่า
I plan on quitting smoking. ประโยคนี้ดูแปลกไม่เป็นธรรมชาติ แต่ในกรณีที่เป็นการเลิกบุหรี่นี้เราสามารถพูดว่า I plan on quitting. ได้ เป็นอันเข้าใจ