เมื่อวิวัฒนาการและความรู้เรื่องสารเคมีของเรามากขึ้น ก็มีการคิดค้นสารเคมีที่ใช้ทำความสะอาดผ้าในรูปแบบต่าง ๆ ปัจจุบันเรามีทั้งแบบผง แบบน้ำ แบบที่ทำความสะอาดล้ำลึก แบบที่รุนแรงจนทำให้ผ้าสีซีดได้ แบบที่ถนอมเส้นใยและปกป้องสีผ้า หรือแบบที่ซักแล้วยังช่วยลดกลิ่นอับหลังการตาก เป็นต้น แต่สารเคมีทำความสะอาดผ้าเหล่านี้มีส่วนประกอบหลัก ๆ อยู่ไม่กี่อย่างซึ่งเหมือนกัน แบ่งได้เป็น
สารประเภทนี้ที่ทำหน้าที่ตามชื่อของมันคือ ลดแรงตึงผิวของน้ำ ทำให้เกิดฟอง และทำให้น้ำสามารถซอกซอนเข้าไปในอณูและเส้นใยเล็ก ๆ ของผ้าได้ และเมื่อน้ำเข้าไปในส่วนต่าง ๆ ของเส้นใยได้แล้ว สิ่งสกปรกก็จะสามารถละลายน้ำออกมาได้ง่ายขึ้น จึงเรียกได้ว่ามันเป็นสารหลักที่ทำหน้าที่จับตัวกับสิ่งสกปรก
สารลดความตึงผิวสามารถแบ่งตามโครงสร้างทางเคมีและการทำงานได้ 3 กลุ่มคือ
1) Anionic surfactants สารจำพวกนี้มีประจุลบอยู่ด้วย ทำงานได้ดีในการดึงสิ่งสกปรกจำพวกดินโคลนออกจากเสื้อผ้าที่ทำจากเส้นใยธรรมชาติ ทำงานได้ดีในน้ำที่มีอุณหภูมิสูงแต่ไม่เหมาะกับน้ำกระด้าง
2) Cationic surfactants เป็นสารที่มีประจุบวก ซึ่งมักถูกนำไปใช้ผสมกับสารปรับผ้านุ่ม หรือน้ำยาปรับผ้านุ่มมากกว่า เพราะว่าเป็นการใช้ต่อเนื่องจากการใช้ผงซักฟอกซึ่งมีประจุลบ
3) Nonionic surfactants เป็นสารแบบที่ไม่มีประจุ ซึ่งมีฟองน้อย มักอยู่ในสารทำความสะอาดที่มุ่งเน้นกำจัดคราบไขมัน และเหมาะสำหรับเส้นใยสังเคราะห์เป็นพิเศษ
น้ำที่กระด้างจะทำให้การทำงานของสารลดแรงตึงผิวข้างต้นทำงานได้ยาก รวมถึงมีฟองน้อย สารลดความกระด้างของน้ำเหล่านี้จะทำให้น้ำมีความเป็นด่างเล็กน้อย ซึ่งทำให้การซักล้างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยสารที่นิยมมากที่สุดเพื่อลดความกระด้างของน้ำคือ โซเดียมไทรโพลิฟอสเฟต (Sodium Tripolyphosphate, STPP)
สารทำความสะอาดผ้าจะมีการเติมสารป้องกันการตกตะกอนร่วมด้วย เพื่อให้สารเคมีที่รวมอยู่ทั้งหมด รวมถึงสารที่ได้จากการทำปฏิกิริยากับสิ่งสกปรก และฝุ่นผง สิ่งสกปรกที่หลุดออกมาระหว่างกระบวนการซักไม่ตกตะกอน ซึ่งทำให้ทำความสะอาดในภายหลังได้ยาก นอกจากนั้นยังมีการเติมสารตกแต่งอื่นซึ่งทำให้เกิดความรู้สึกดีระหว่างกระบวนการซักล้าง เช่น สารเพิ่มฟองเพื่อให้การซักล้างด้วยมือเกิดฟองปริมาณมากและทำให้ผู้ใช้คิดไปเองว่าใช้แรงน้อยลง หรือสารลดฟองซึ่งเหมาะกับน้ำยาซักผ้าที่ใช้กับเครื่องซักผ้า เนื่องจากฟองไม่ได้เป็นตัวทำความสะอาดโดยตรง และฟองจำนวนมากที่เกิดระหว่างการซักล้างด้วยเครื่องอาจล้นออกจากเครื่องและทำให้เลอะเทอะเสียหายได้ หรือสารเพิ่มความสดใส ซึ่งมีคุณสมบัติดูดซับแสงได้ดีและทำให้ดูเหมือนผ้าสะอาดสีสดกว่าปกติ เพราะน้ำเปล่าไม่สามารถทำความสะอาด ดึงเอาสิ่งสกปรกทั้งหมดออกมาจากเสื้อผ้าของคุณได้
ด้วยสารเคมีที่เป็นส่วนผสมหลักเหล่านี้ทำให้สารทำความสะอาดในท้องตลาดปัจจุบันเป็นที่ต้องการ และแม้ว่าจะมีกลุ่มสารเคมีหลักอยู่ไม่กี่ชนิด แต่พวกมันก็ล้วนมีจุดขายที่แตกต่างกันโดยการเติมแต่งให้เหมาะสมกับการใช้งาน เช่น การซักด้วยมือ ซักด้วยเครื่อง สำหรับผ้าสี หรือผ้าขาว ความรู้เรื่องสารต่าง ๆ และหน้าที่ของมันในการทำความสะอาด ทำให้เราเลือกชนิดและใช้งานสารซักล้างทำความสะอาดเสื้อผ้าเหล่านี้ได้อย่างเหมาะสมและตรงกับความต้องการที่สุด