บนพื้นที่กว่า 104 ไร่ ที่ถูกตกแต่งเป็นฟาร์มแบบญี่ปุ่นในสไตล์มินิมอล จะแบ่งออกเป็นโซนต่าง ๆ 5 โซน โซนแรกคือคาเฟ่ที่จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มจากวัตถุดิบชั้นเลิศในฟาร์ม ทุกเมนูใช้วัตถุดิบปลอดสารพิษ และยังเป็นเมนูสุขภาพที่สร้างสรรค์โดยเชฟทีมชาติไทยอีกด้วย เมนูที่เราอยากแนะนำให้ลองทานคือ สลัดเมลอนเซซามี่ที่ผักสลัดกรอบหวานมาก และไอศกรีม Melon Yogurt Soft Serve ที่รสชาติละมุนลิ้น ส่วนใครที่อยากทานข้าวที่นี่ก็มีทั้งข้าวหมูชาชูกระเทียม ข้าวผัดกะเพราเห็ดไก่คาราเกะพร้อมเสิร์ฟ และยังมีขนมหวานอีกหลายเมนูด้วย
มาเรียนรู้การเพาะปลูกเมลอนและมะเขือเทศ ที่กรีนเฮาส์ขนาดใหญ่สุดไฮเทคที่ใช้คอมพิวเตอร์ควบคุมการเพาะปลูก ก่อนที่เราจะเข้าไปข้างในจะต้องใส่เสื้อคลุม สวมหมวก เปลี่ยนรองเท้า และล้างมือด้วยแอลกอฮอล์ก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้พืชติดเชื้อโรคจากเรา ด้านในเราจะได้เรียนรู้เทคนิคการดูแลเมลอนและมะเขือเทศให้มีคุณภาพ และยังได้รู้เคล็ดลับความอร่อยของผักผลไม้ในฟาร์มด้วย เราชอบตรงที่จะมีการเปิดเพลงเพราะ ๆ ให้ผักฟังอยู่เสมอ ถือเป็นอีกหนึ่งเทคนิคดี ๆ ที่แสดงถึงความใส่ใจของที่นี่เลย และจะได้ลิ้มรสเมลอนที่ตัดสด ๆ จากต้น รสชาติหวานหอมกว่าเมลอนที่เคยกินจนเราติดใจเลยล่ะ
ในโซนนี้เราจะได้สนุกกับการลงมือปลูกผักผลไม้และเก็บเกี่ยวด้วยตัวเอง ถ้าไม่เคยทำมาก่อนก็จะมีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำอย่างเป็นกันเอง เราจะได้รับอุปกรณ์คนละ 1 ชุด มีผ้ากันเปื้อน และถุงมือ ความสนุกแรกคือการปลูกผักปลอดสารพิษ จะได้เรียนรู้วิธีการปลูกผักและการดูแลเบื้องต้น ต่อมาจะได้ไปเก็บผักในฟาร์มที่จะผลัดเปลี่ยนไปตามแต่ละฤดูกาล เช่น มะเขือเทศ ผักกาดหอม แตงโม ฟักทอง มันม่วงญี่ปุ่น ฯลฯ ส่วนตะกร้าที่เขาแจกให้เราเก็บผักผลไม้ก็สามารถนำกลับบ้านไปได้เลยด้วย คุ้มจริง ๆ
โซนนี้เปิดโอกาสให้เราได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์กับการตกแต่งต้นไม้ในสไตล์ตัวเองด้วยหินกรวด ทรายสี และตุ๊กตาสัตว์เซรามิกจิ๋ว สิ่งที่เราชอบมากคือ โซนอุปถัมภ์ต้นไม้ที่เต็มไปด้วยต้นไม้ประดับขนาดเล็กที่เราสามารถเลือกอุปถัมภ์ ตั้งชื่อให้ต้นไม้ และต้องเซ็นรับรองด้วยว่าเราจะดูแลต้นไม้อย่างดี นอกจากนี้ยังมีมุมของฝากน่ารัก ๆ ให้ได้เลือกซื้อกลับบ้านด้วย ก่อนจะกลับบ้านก็อย่าลืมแวะไปโซนตลาดเพราะมีขายทั้งผักผลไม้สด เช่น เมลอนฮอกไกโด ผักสลัด มันม่วงญี่ปุ่น มะเขือเทศพันธุ์เชอร์รี่ ฯลฯ ขอบอกว่าสดมากจนเราอดใจไม่ไหวต้องซื้อกลับไปฝากคนที่บ้าน เมลอนที่นี่สดหวานจริง ๆ นะ
Tips
ที่อยู่ : 117 ถนนราชบุรี–ผาปก ตำบลป่าหวาย อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี 70180
เวลาเปิดบริการ : วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 09.00–18.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 09.00–21.00 น.
การเดินทาง : จาก อ.เมืองราชบุรี ใช้เส้นทางหมายเลข 3208 ไปยัง อ.สวนผึ้ง ประมาณ 47 กม. Coro Field จะอยู่ทางซ้ายมือ ติดถนนราชบุรี–ผาปก
เรื่อง : นพชนก
ภาพ : Coro Field