เป็นคำกล่าวของพระพุทธองค์ ที่ทรงตรัสกับพระเจ้าปเสนทิโกศล
--------------------
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับ ณ เชตวนารามของอนาถปิณฑิกคฤหบดี ใกล้กรุงสาวัตถี สมัยนั้นพระเจ้าปเสนทิโกศลเสด็จสู่ชั้นบนปราสาทอันประเสริฐ กับพระนางมัลลิกาเทวี
พระองค์ตรัสถามพระนางมัลลิกาเทวีว่า
"ดูก่อนมัลลิกา ใคร ๆ คนอื่นที่เป็นที่รักยิ่งกว่าตนของเธอเองมีหรือไม่ ?"
พระนางมัลลิกากราบทูลว่า
"ข้าแต่มหาราช ใคร ๆ คนอื่นที่เป็นที่รักยิ่งกว่าตนของหม่อมฉันไม่มี ก็ใคร ๆ คนอื่นที่เป็นที่รักยิ่งกว่าตนของพระองค์เองมีหรือไม่ ?"
พระเจ้าปเสนทิโกศลตรัสตอบว่า
"ดูก่อนมัลลิกา ใคร ๆ คนอื่นที่เป็นที่รักยิ่งกว่าตัวของเราเองไม่มี."
ขณะนั้น พระเจ้าปเสนทิโกศลเสด็จลงปราสาท เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค ถวายบังคมแล้ว ประทับนั่ง ณ ที่ควรส่วนหนึ่ง ครั้นแล้วได้กราบทูลข้อโต้ตอบของพระองค์กับพระนางมัลลิกาเทวี ให้ทรงทราบ
ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคทรงทราบเนื้อความนั้นแล้ว จึงเปล่งอุทานนี้ในเวลานั้นว่า
การรักตนเองในทางพุทธศาสนา มีความหมายแตกต่าง การรักตัวเองในความเข้าใจของคนทั่วไป
ผู้ที่รักตัว ย่อมเลือกหนทางในการทำบุญ เลี่ยงการทำบาป และมีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เห็นความสำคัญของการให้อภัย แผ่เมตตา ปล่อยวาง และรักสงบ เพราะเขาจะทราบว่า ผลการเบียดเบียนผู้อื่น ก่อให้เกิดวิบากกรรม เดือดร้อน และการไม่ปล่อยวาง เป็นสาเหตุที่ทำให้ใจเป็นทุกข์
หากคนทีรักตนเอง จะรู้ว่าไม่ควรเบียดเบียนผู้อื่น เพราะเป็นการก่อกรรมที่ต้องรับวิบากกรรมทั้งทางตรงและทางอ้อม และกลัวการเป็นบาป จึงมักจะเป็นคนที่ไม่เห็นแก่ตัว แต่กลับมีความเมตตา กรุณาเอื้อเฟื้อผู้อื่นเพราะเป็นหนทางสร้างบุญกุศลแด่ตน อันเป็นเกราะป้องกันตนเอง เพราะมีแต่คนรักและปกป้อง
ในขณะที่คนที่เห็นแก่ตัว ปล่อยความโลภและกิเลสตัณหาเข้ามาครอบงำ กลับเป็นการทุบหม้อข้าวตนเอง เพราะไม่มีคนรักและกลับหนีห่างไม่อยากช่วยเหลือ
ได้แก่ เริ่มต้นด้วยการรักษาศีล 5 อันเป็นศีลพื้นฐานของการเป็นมนุษย์ ได้แก่
ศีลข้อ 1 การไม่เบียดเบียนผู้อื่นด้วยการไม่ฆ่า ไม่ทำร้าย
ศีลข้อ 2 การไม่เบียดเบียนผู้อื่นด้วยการขโมย แม้แต่ธรรมชาติ ป่าเขาลำเนาไพร
ศีลข้อ 3 การไม่เบียดเบียนผู้อื่น ด้วยการไม่ละเมิดทั้งทางเพศ ทางความคิด ทางการกระทำ แม้แต่วาจา กับบุคคลที่เป็นที่รักของผู้อื่น เช่น ผัวเมีย หรือแม้แต่ลูกหลานผู้อื่น
ศีลข้อ 4 การไม่เบียดเบียนผู้อื่น ด้วยวาจา ก่อให้เกิดความเจ็บปวดกับผู้อื่น
ศีลข้อ 5 การไม่เบียดเบียนผู้อื่น ด้วยความหลง หรือมึนเมาขาดสติสัมปะชัญญะ ที่อาจจะก่อให้เกิดการเบียดเบียนผู้อื่นตามมา เช่น เมาแล้วทุบตี การติดยาจนหลงทำร้ายพ่อแม่ตนเอง แม้แต่ทำร้ายตนเองด้วยการขับรถจนคว่ำตาย
@copyright ทรูปลูกปัญญา