หลักการทำงานของ Spinner คือ การหมุน และหัวใจของของเล่นชิ้นนี้ คือ “แบริง” ที่ต้องคล่องมาก กล่าวคือ ต้องมีแรงเสียดทานน้อยที่สุด ซึ่งการทำให้แบริงมีแรงเสียดทานลดลงต้องถอดมาล้างด้วยน้ำยาหรือน้ำมันอเนกประสงค์ ดังรูป
แบริง
ด้านในของแบริงจะมีลูกปืน
แบริงหลังจากทำความสะอาดด้วยน้ำมันอเนกประสงค์
แบริงของ Spinner
Spinner ที่ปิดฝาเพื่อใช้หมุน
Spinner ในรูปทรงกลมหมุนได้ใน 3 มิติ
Spinner โล่ห์กัปตันอเมริกา
Spinner แปดแฉกเพิ่มความเฉื่อยต่อการหมุนโดยเสริมลูกเหล็ก
Spinner ในรูปแบบเลโก้
Spinner ฟันเฟืองเพื่อเพิ่มความคล่อง
Spinner ก้ามปูสามแฉก
เมื่อจับที่จุดหมุนที่เป็นฝาปิดแล้วใช้นิ้วเขี่ยที่ขอบของ Spinner จะมีทอร์ก () เกิดขึ้น ในจังหวะที่เขี่ย ทอร์กที่เกิดขึ้นมีค่าดังสมการที่ 1
จากสมการที่ 1 จะเห็น มีค่ามากเมื่อแรงที่สะกิด (F) หรือระยะจากจุดหมุนถึงนิ้วที่เขี่ย (r) มาก ซึ่งทำได้โดยสะกิดให้ถี่มากขึ้นที่ขอบห่างที่สุด ผู้เล่นจึงต้องจดจ่อต่อการสะกิดที่ขอบของ Spinner เป็นช่วง ๆ ผลพลอยได้ก็คือทำให้เกิดสมาธิในการติดตามผลที่เกิดขึ้นเป็นอันดับแรก
เนื่องจาก I ในสมการที่ 1 คือ โมเมนต์ความเฉื่อยที่ขึ้นกับมวลและรัศมีของ Spinner ดังนั้นจึงมีการออกแบบให้ I มีค่ามาก ๆ จึงจะหมุนได้นาน ซึ่งเป็นความท้าทายอีกอย่างหนึ่ง ในขณะเดียวกันความท้าทายของการปั่น Spinner คือเอียงระนาบการหมุนที่ปลายนิ้วแล้วหมิ่นเหม่ต่อการร่วงหล่นลงมาแต่ไม่หล่น เพราะทอร์กยังมีค่า ดังสมการที่ 2
จากสมการที่ 2 ปริมาณ L คือ โมเมนตัมเชิงมุม และ ΔL/Δt คืออัตราการเปลี่ยนโมเมนตัมเชิงมุมซึ่งมีค่าขึ้นกับ
ถ้าผู้เล่นปั่น Spinner แล้ววางที่ปลายนิ้วหมิ่นเหม่ที่จะหล่นแต่ไม่หล่นเนื่องจากขณะนั้นไม่มีแรงกระทำ จึงมีค่าเป็นศูนย์ ทำให้ ΔL มีค่าเป็นศูนย์ นั่นคือ L มีค่าคงตัว Spinner จึงไม่หล่นในขณะที่หมุนอยู่ แต่ในท่าวางเหมือนเดิม ถ้า Spinner หยุดหมุนจะหล่นลงมาเนื่องจากขณะนั้นไม่มี L Spinner ที่หยุดนิ่งคือวัตถุที่หยุดนิ่งวางบนปลายนิ้ว ถ้าแรงของน้ำหนักออกนอกฐานจะหล่นลงทันที
ภาพปก : Ram Tiwari