Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

The Idol : ชลิต มนุญากร หนึ่งในครีเอทีฟโฆษณาโครงการสานต่อที่พ่อทำ

Posted By Plook Magazine | 10 ต.ค. 60
7,436 Views

  Favorite

เวลาที่เห็นใครทำอะไรสักอย่างด้วยความมานะ เรามักจะแอบเอาใจช่วยเสมอ เพราะเรารู้สึกว่าคำนี้มันเป็นขั้นกว่าของคำว่าขยันและพยายาม ยิ่งพอได้มานั่งคุยกับ “ชลิต มนุญากร” หนึ่งในครีเอทีฟจากเอเจนซี่มานะ แอนด์ เฟรนด์ เจ้าของไอเดียโฆษณาสุดสร้างสรรค์ 9 ตัวในโครงการสานต่อที่พ่อทำแล้ว เรายิ่งรู้สึกว่านอกจากคำว่ามานะ จะทำให้เราได้กลิ่นอายของความพยายามอย่างยิ่งแล้ว คำว่ามานะ ยังไปคล้ายกับคำว่า “พ่อ” ที่แม้จะเป็นคำสั้น ๆ แต่ก็หนักแน่นและเต็มไปด้วยความหมายเหลือเกิน 

 

 

 

ชลิต มนุญากร


คุณโตมากับโฆษณาแบบไหน

ผมก็โตมากับโฆษณาไทยนี่แหละครับ ตอนเด็ก ๆ ก็ชอบโฆษณาชาเขียว สปอนเซอร์ ผมว่าโฆษณาไทยเรามีคาแรกเตอร์ที่ชัดเจนนะ คือเรามีมุกตลกในโฆษณา แต่ตอนเรียนผมไม่ได้สนใจโฆษณาหรือครีเอทีฟเลย สนุกไปวัน ๆ เตะบอลกับเพื่อน เรียนก็เครียดเพราะผมเรียนเศรษฐศาสตร์ เรียนการเมือง



แล้วมาลงเอยกับอาชีพครีเอทีฟได้อย่างไร

เมื่อก่อนผมทำมาร์เก็ตติ้ง แล้วก็ย้ายไปทำฝ่าย Strategic Planner คือเป็นฝ่ายที่วิเคราะห์คน วิเคราะห์สภาพการตลาด แล้วก็เอาข้อมูลเหล่านั้นไปบรีฟครีเอทีฟอีกที ซึ่งผมว่ามันก็เป็นงานที่คล้าย ๆ กันนะ เจ้านายเขาก็เลยยุให้ไปสมัครเป็นครีเอทีฟ ตัวผมก็สนใจอยู่แล้วเลยเข้าไปเวิร์กช็อปกับ B.A.D. Awards เสร็จแล้วก็ได้มาทำงานที่เอเจนซี่ชูใจ กะ กัลยาณมิตร ก่อนจะย้ายมาทำที่มานะ แอนด์ เฟรนด์



แนะนำเอเจนซี่มานะ แอนด์ เฟรนด์ ที่คุณทำงานอยู่ให้ฟังหน่อย

ความจริงไม่ต้องเรียกเราเต็มยศก็ได้ครับ เรียกเราว่า “มานะ” ก็พอ มานะก็คือครีเอทีฟเอเจนซี่ที่มีความตั้งใจจะทำโฆษณา 2 โมเดล คือขายของให้ได้และทำเพื่อสังคมไปด้วย เช่น ถ้าเราจะขายสบู่ นอกจากเราจะบอกว่ามันทำให้ผิวขาว ราคาไม่แพงแล้ว เราก็จะเพิ่มสารที่มีประโยชน์เข้าไปด้วยว่า เอ๊ะ แล้วที่ผ่านมาคุณเคยผิวขาวด้วยวิธีที่มันไม่ดีต่อตัวเองไหม ? ไอ้ประโยคสองประโยคของเรานี่แหละครับที่เราอยากให้มันมีประโยชน์กับคนดูบ้าง


 

บทเรียนไหนที่ทำให้หันมาทำโฆษณาที่มีประโยชน์กับคนดูแบบนี้

มันไม่ได้มีเหตุการณ์ตายตัว ไม่ใช่ว่าหลายวันก่อนมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นกับครอบครัวเรา ก็เลยเปลี่ยนไปทำโฆษณาเพื่อสังคม แต่คือหลัง ๆ พอเราทำงานเสร็จ เราก็อยากจะโพสต์ลงโซเชียลส่วนตัว ซึ่งในโซเชียลส่วนตัวของเรามันก็จะประกอบไปด้วยเพื่อน พ่อ แม่ พี่ น้อง แล้วถ้างานของเรามันขายของสุด ๆ ไปเลย มันก็จะกลับมาทำร้ายคนที่เรารักได้เหมือนกัน 


 

พอทำโฆษณาที่ต้องขายของให้ได้และต้องแคร์สังคมด้วย มันเวิร์กหรือเปล่า

เวิร์กครับ มันทำให้เราเป็นที่รู้จักมากขึ้น ดูเป็นมิตรมากขึ้น ขอความช่วยเหลือใครเขาก็ยินดีให้ความร่วมมือ ต่างจากเมื่อก่อนแค่ได้ยินคำว่าโฆษณา ด้วยตัวมันเองก็ดูเป็นวายร้ายมากแล้ว หนำซ้ำคนส่วนใหญ่ก็จะชอบคิดว่าโฆษณามันก็ทำมาเพื่อหลอกให้เราซื้อของด้วยสารพัดสารพันลีลานั่นแหละ เราก็เลยอยากจะพยายามแทรกประเด็นที่มากกว่าการขายของเข้าไป พยายามจี้ใจดำให้คนดูได้คิดหรือแอบเปลี่ยนพฤติกรรมเขาให้ไปในทางที่ดีขึ้นแทรกเข้าไปในงานของเรา


 

แล้วเข้าไปทำโฆษณาในโครงการสานต่อที่พ่อทำได้อย่างไร

ตอนแรกเราตั้งใจจะทำเป็นโปรเจกต์เนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงครองราชย์ครบ 70 ปี แต่ก็เกิดเหตุการณ์ขึ้นมาเสียก่อน เราก็เลยไม่ทำประเด็นเฉลิมฉลองแล้ว แต่เป็นการตั้งคำถามกับตัวเองว่าหลังจากนี้เราควรไปไหนต่อ ซึ่งสิ่งที่ดีที่สุดที่เราจะทำได้ก็คือการสานต่อสิ่งที่พระองค์ท่านได้สร้างไว้      



คุณนำเสนออะไรในโฆษณาสานต่อที่พ่อทำบ้าง

เราทำโฆษณาออกมา 9 ตัวเพื่อถ่ายทอดเรื่องราวของผู้ที่สานต่อแนวคิดของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่น่าสนใจ แบ่งออกเป็น 9 แนวคิดคือ เศรษฐกิจพอเพียง คุณธรรมนำความสามารถ การลงทุนอย่างยั่งยืน จิตอาสา การท่องเที่ยวยั่งยืน การพึ่งตนเอง การศึกษา และพลังงานทางเลือก เราเอาแนวคิดเหล่านั้นมาเปลี่ยนภาพลักษณ์ที่ว่ามันต้องเชย มันต้องจน มันต้องเกษตรกร ให้มันดูโมเดิร์นสุด ๆ เราถึงกับให้คุณอุ๋ย บุดด้าเบลส มาแต่งเพลงแร็ปให้เลยนะ
 

โฆษณา "ท่องเที่ยวยั่งยืน"

 

 

 

 


โฆษณาตัวไหนที่อยากให้น้อง ๆ วัยเรียนได้ดู

จริง ๆ ผมอยากให้ดูหมด แต่มีเรื่องหนึ่งที่เราแคร์มากคือเรื่องครูโซ่ ชื่อว่า “ครูคุณธรรม” เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่เราคิดเยอะพอสมควร เพราะการศึกษาเป็นเรื่องที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ให้ความสำคัญมาก เราก็เลยตั้งใจว่าจะทำเรื่องการศึกษาให้ครบถ้วน ให้ได้ประโยชน์ทั้งครู นักเรียนและผู้ปกครอง คือ ครูก็ต้องมีคุณธรรม นักเรียนก็ต้องเป็นนักเรียนที่ซื่อสัตย์ ผู้ปกครองก็ต้องเป็นผู้ปกครองที่ให้ความรัก ความเข้าใจลูก ทั้งหมดมันเป็นสิ่งที่เราเน้นมากที่สุด   

 

โฆษณา "ครูคุณธรรม"

 

 



แล้วตัวคุณเองมีความคิดเห็นยังไงกับคำว่าคุณธรรม

ผมว่ามันใกล้เคียงกับคำว่าจิตสำนึกนะ ซึ่งเดี๋ยวนี้เราละเลยกันไปเยอะมาก เพราะเราไปให้คุณค่ากับคนเก่ง มากกว่าคนดี เพราะคุณธรรมมันเป็นเรื่องที่ไม่มีใครเห็น แต่ถ้าเรามีคุณธรรมในใจแล้ว เราก็จะไม่ทำอะไรที่มันไม่ดีมาก ๆ หรือชั่วมาก ๆ เพราะผมเชื่อว่ามนุษย์ทุกคนไม่ใช่คนดี บริสุทธิ์หรือขาวสะอาดจ๋า พวกเรามีความเทา เราทำไม่ดีกันในบางเรื่อง แต่ว่าพอเรามีคุณธรรม มันก็จะมาเป็นกรอบให้เราไม่ทำตัวเทาเข้มมากนักเท่านั้นเอง 



มีอุปสรรคในการทำงานบ้างไหม  

ไม่ได้เรียกว่าเป็นอุปสรรคครับ แต่มันเป็นเรื่องที่เราต้องใช้ความระมัดระวังอย่างสูงในการตีความประเด็นต่าง ๆ คือถ้าเราจะทำด้วยท่าทีเดิมเหมือนที่โฆษณาอื่น ๆ เขาเคยทำมาก่อน มันก็จะง่ายมาก เช่น เอาคนมาเทิดทูนพระองค์ด้วยคำพูดยิ่งใหญ่อลังการ ซึ่งมีคนทำเยอะแล้ว ดังนั้นเมื่อเราต้องคิดใหม่ ความเสี่ยงที่ตามมาก็คือ เราจะทำใหม่อย่างไรให้ยังเหมาะสม เพราะนอกนั้นก็ไม่มีความลำบากอะไรมาก ระหว่างทางก็มีคนคอยช่วยเราตลอด

 

ความชื่นใจในการทำโปรเจกต์สานต่อที่พ่อทำ

เอาเข้าจริง มีคนไม่ชอบหนังของเรานะครับ เขาก็ติเรื่องท่าทีต่าง ๆ บ้าง แต่เรามองว่าถึงเขาจะไม่ชอบแต่อย่างน้อยเขาก็ได้คิดกับมัน มันดีกว่าที่เราทำไปแล้ว ไม่ถึง 3 วันเขาก็ลืม แต่ผมจะรู้สึกยินดีมากที่เขาชอบและเขาจำได้ กลับมาดูงานของเราอีกบ่อย ๆ ทุก ๆ คอมเมนต์หรือทุก ๆ คำพูดมันก็ชื่นใจแล้วล่ะ

 

 

“คำว่าสานต่อที่พ่อทำ คือ การทำสิ่งที่เป็นประโยชน์กับคนอื่นเท่าที่เราจะทำได้ในชีวิตประจำวัน”

 

ประทับใจคำสอนไหนของในหลวงรัชกาลที่ 9

มันเหมือนไม่ใช่คำสอนแต่เป็นความประทับใจที่ผมมีต่อพระองค์ ในเรื่องของความเป็นครีเอทีฟที่สูงมาก มีความเป็น copy writer มาก ๆ ยิ่งเราได้ศึกษาโครงการต่าง ๆ ที่พระองค์ทำ เราจะเห็นได้ว่ามีการตั้งชื่อได้น่ารักทุกโครงการ ฟังแล้วจำง่าย เข้าใจทันทีเพราะใช้ภาษาชาวบ้านแต่กลับไม่น่าเบื่อ อย่างชื่อแกล้งดิน สวนสองแสน วุ้นชุ่มปาก ผมคิดว่าพระองค์เป็นพระมหากษัตริย์ที่ครีเอทีฟมากจริง ๆ จนอยากเอางานไปปรึกษาพระองค์เลย

 

แล้วถ้ามีโอกาสได้เอางานไปปรึกษาล่ะจะปรึกษาอะไร

โอ้โห ผมว่าผมคงกลัวก่อน เพราะเคยได้ได้ยินมาว่าตอนที่อาจารย์เฉลิมชัยถวายงานนิทานกับในหลวงรัชกาลที่ 9 อาจารย์เขาก็วาดแบบไปให้พระองค์อย่างดีเลยนะ แต่พระองค์ก็ตรวจแล้วเอากลับมาให้อาจารย์เฉลิมชัยแก้ยับเลย (หัวเราะ)   

 


มันยากเหมือนกันนะ ที่จะยึดคำสอนของในหลวงรัชกาลที่ 9 เพราะมีเยอะมาก

ใช่ครับ ผมว่าค่อย ๆ คิด ค่อย ๆ ศึกษาไป ทุกคำสอนของพระองค์เป็นเรื่องของทัศนคติองค์รวมที่มีต่อสิ่งต่าง ๆ แล้วเรามองเห็นและเลือกหยิบมาใช้มากกว่า อย่างปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นสิ่งที่ผมคิดหนักที่สุดแล้วครับ โดยเฉพาะเรื่องสามห่วงสองเงื่อนไข ถ้าเราเข้าใจนะ เราจะทำงานง่ายขึ้นมากเลยรู้ไหม เช่น ถ้าเราไม่มีงานแล้ว เราก็คงเปิดที่นี่เป็นคาเฟ่ โดยที่ไม่ไปเช่าที่ในห้าง เสร็จแล้วก็ประมาณตน ถ้าออฟฟิศเราไม่ได้ใหญ่มากก็อย่าไปจ้างคนเยอะ ง่าย ๆ แค่นี้เอง

 

คุณพูดคำว่าง่ายบ่อยมาก มันเป็นปรัชญาอะไรบางอย่างหรือเปล่า

คนส่วนมากชอบคิดว่าเป็นครีเอทีฟจะต้องคิดอะไรที่ประหลาด ๆ เพี้ยน ๆ หรือไม่ก็พิสดารก่อนเป็นอย่างแรก แต่ผมว่าสมัยนี้คนไม่อึ้งกับอะไรที่ประหลาดแล้วครับ เพราะในอินเทอร์เน็ตมีเรื่องประหลาด ๆ ทุกวัน ดั้งนั้นเราจึงพยายามไปคิดโจทย์ที่ให้มากกว่าจะพยายามทำให้มันประหลาด อาร์ตหรือเก๋ แต่เน้นที่ประโยชน์ เหมือนในหลายโครงการที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทำ พระองค์ก็คิดง่าย ๆ เน้นประโยชน์มากที่สุด

 

 

ชลิต มนุญากร

 

สุดท้ายแล้วถ้าคนยังไม่เข้าใจคำว่า “สานต่อที่พ่อทำ” หรือยังไปไม่ถูกคุณจะบอกเขาว่าอะไร

ฟังเผิน ๆ คำว่า สานต่อที่พ่อทำ ดูเป็นแค่คำเก๋ ๆ คำหนึ่งนะ เวลามีแคมเปญอะไรก็ตาม คำนี้จะถูกใช้ให้สวยหรู แต่ความตั้งใจจริงของคำว่า สานต่อที่พ่อทำ ลึก ๆ แล้วผมว่าคือการทำสิ่งที่เป็นประโยชน์กับคนอื่นเท่าที่เราจะทำได้ในชีวิตประจำวัน เล็กใหญ่ไม่สำคัญครับ เพราะมันไม่มีอะไรที่เล็กเกินไปหรือใหญ่เกินไป บางทีการกินข้าวให้หมดจาน มันอาจจะโอเคแล้วก็ได้สำหรับบางคน
 


 

“เราพยายามจะคิดโฆษณาให้มันบาลานซ์กันระหว่างขายของให้ได้และทำเพื่อสังคมไปด้วย
ไม่คิดเป็นลูกค้ามากนัก” 

 

 

 

เรื่อง : วัลญา นิ่มนวลศรี
ภาพประกอบ : คงกฤช จินตเวช

 

 

 

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
  • Posted By
  • Plook Magazine
  • 3 Followers
  • Follow