จะพูดอังกฤษได้คล่องต้องฝึกพูดทุกวันอย่างเป็นประจำ และที่สำคัญต้องระมัดระวังพูดให้ถูกหลักไวยากรณ์ด้วยยิ่งดี ซึ่งยังมีประโยคภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันที่เรามักพูดผิดแกรมม่ากันบ่อย ๆ มีประโยคใดบ้างมาดูกันค่ะ

ประโยคภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันที่พูดผิดแกรมม่าบ่อย ๆ

Incorrect: She speaks English very good.
Correct:   She speaks English very well.
              (เธอพูดภาษาอังกฤษดี(เก่ง)มาก)

คำอธิบาย : Good เป็นคำคุณศัพท์ (Adjective) ทำหน้าที่ขยายคำนาม
               Well เป็นคำกริยาวิเศษณ์ (Adverb) ทำหน้าที่ขยายคำกริยา ซึ่งในประโยคนี้ Well ขยาย Speak 


Incorrect: Me and Joe live in Bangkok.
Correct:  Joe and I live in Bangkok.
            (โจและฉันอาศัยอยู่ที่กรุงเทพ)

คำอธิบาย : Me คือ สรรพนามที่เป็นกรรมของประโยค (Object Pronouns) ใช้เมื่อการกระทำนั้นทำเพื่อตัวเรา หรือตัวเราเป็นผู้ถูกกระทำ 
               I คือ สรรพนามที่เป็นประธานของประโยค (Subject Pronouns) หมายถึง ตัวเราเป็นผู้กระทำ


Incorrect: My mother is teacher.
Correct:   My mother is a teacher.
             (แม่ของฉันเป็นครู)

คำอธิบาย : a ใช้นำหน้าคำนามนับได้เอกพจน์ที่ขึ้นต้นด้วยเสียงพยัญชนะ และเป็นคำนามทั่วไปไม่ชี้เฉพาะเจาะจงว่าเป็นอันไหน 


Incorrect: I have 20 years.
Correct: I am 20 years old.
           (ฉันอายุ 20 ปี)

คำอธิบาย : ในการบอกอายุเราจะใช้ V. to be + age 


Incorrect: Cruises invited me to a dinner.
Correct:   The Cruises invited me to a dinner.
              (ครอบครัวครูซเชิญฉันไปทานดินเนอร์)

คำอธิบาย : ตามหลักพื้นฐานในภาษาอังกฤษการเรียกนามสกุลเติม s จะเป็นการกล่าวถึงสมาชิกทั้งครอบครัว ในที่นี่กล่าวถึงครอบครัวครูซ ดังนั้นต้องใช้ article “the” นำหน้า


Incorrect: I have lost the bus.
Correct:  I have missed the bus.
            (ฉันไม่ทันรถบัส)

คำอธิบาย : Lost ใช้ในสถานการณ์ที่เราสูญเสียสิ่งที่เคยมีอยู่
               Miss ใช้ในสถานการณ์ที่พลาดบางสิ่งบางอย่างไป ซึ่งเป็นสิ่งที่เราไม่เคยมีอยู่ 


Incorrect: Does she drinks wine?
Correct: Does she drink wine?
            (หล่อนดื่มไวน์ไหม?)

คำอธิบาย : ตามหลักพื้นฐานเมื่อเป็นประโยคคำถาม แม้ประธานจะเป็นเอกพจน์บุรุษที่หนึ่ง คำกริยาจะอยู่ในรูป Base Form (รูปกริยาพื้นฐาน หรือกริยาช่องที่ 1) ไม่ต้องเติม s **อ่านเพิ่มเติมได้ที่ หลักการใช้ Verb to do


Incorrect: I like dance.
Correct:   I like dancing.
             (ฉันชอบการเต้น) 

คำอธิบาย : Like เป็นคำกริยาที่ตามได้ทั้ง gerund และ infinitive with to ซึ่งในประโยคตัวอย่างนี้ต้องตามด้วย gerund (กริยาเติม ing) **อ่านเพิ่มเติมได้ที่ หลักการใช้ Gerund และ คำกริยา (Verb) และกลุ่มคำที่ต้องตามด้วย Gerunds (กริยาเติม ing)


Incorrect: Would you like any milk?
Correct:   Would you like some milk?
             (คุณจะรับนมไหม?)

คำอธิบาย : Some และ Any หมายถึง บ้าง หรือ จำนวนหนึ่ง ใช้นำหน้าคำนามได้ทั้งนามนับได้พหูพจน์และนามนับไม่ได้เพื่อบอกปริมาณ โดย Some จะใช้ในประโยคบอกเล่า แต่บางครั้งก็ใช้ในประโยคคำถามที่หวังคำตอบ yes และในการเสนอหรือขอร้อง เช่น Would you like… ? ส่วน Any ใช้กับประโยคปฏิเสธและประโยคคำถามทั่วไป


Incorrect:  My office is in the third floor.
Correct:    My office is on the third floor.
              (ออฟฟิศของฉันอยู่ที่ชั้น 3)

คำอธิบาย : in และ on เป็น Adverb of Place (กริยาวิเศษณ์บอกสถานที่) โดย in ใช้กับสถานที่ทั่ว ๆ ไป กว้าง ๆ ส่วน on ในการบอกถนน, ชั้นบนอาคาร, แม่น้ำ รวมถึงบอกตำแหน่งโดยมักใช้กับพื้นผิว 


Incorrect: I’ll sing a song to her.
Correct:   I’ll sing a song for her.
             (ฉันจะร้องเพลงเพื่อเธอ)

คำอธิบาย : to ใช้เมื่อมีการเคลื่อนย้ายจากจุดหนึ่งไปจุดหนึ่ง
               for ใช้ในกรณีที่ทำด้วยความตั้งใจ


Incorrect: Nida is married with Sompong.
Correct:   Nida is married to Sompong.
             (นิดาแต่งงานกับสมพงศ์)

คำอธิบาย : ในการบอกว่าแต่งงานกับ... จะใช้โครงสร้าง Subject + marry + object หรือ Subject + be married to + object หรือ Subject + get married to + object


Incorrect: I must to go now.
Correct:   I must go now.
              (ฉันต้องไปเดี๋ยวนี้) 

คำอธิบาย : must เป็นกริยาช่วยจึงไม่ต้องมี to ตามหลัง