เลือดกำเดา คือ เลือดที่ไหลซึมออกจากโพรงจมูกส่วนหน้าหรือส่วนหลัง โดยส่วนใหญ่เกิดขึ้นบริเวณผนังกั้นจมูกด้านหน้า ซึ่งเป็นบริเวณที่มีหลอดเลือดแดงฝอยเล็ก ๆ มาบรรจบกันปริมาณมาก มีโครงสร้างเป็นตาข่ายซึ่งเรียกว่า Kiesselbach's plexus เมื่อหลอดเลือดเหล่านี้แตกหรือฉีกขาด เลือดสด ๆ ก็จะไหลออกมา อาจจะเกิดขึ้นที่รูจมูกข้างใดข้างหนึ่งหรือสองข้างก็ได้ และมักจะเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน แต่ส่วนใหญ่ไม่เป็นอันตราย เลือดที่ไหลออกมามักไหลเพียงเล็กน้อยและสามารถหยุดได้เอง เนื่องจากหลอดเลือดเป็นหลอดเลือดฝอยและลิ่มเลือดสามารถมารวมตัวเพื่อปิดรอยฉีกขาดของหลอดเลือดได้ง่ายและรวดเร็ว
สาเหตุของการเกิดเลือดกำเดาไหล หากพิจารณาทางกายภาพ น่าจะเกิดจากการที่หลอดเลือดถูกกระทบอย่างรุนแรงจนเกิดการแตกหรือฉีกขาด ซึ่งการกระแทกนี้อาจมาในรูปแบบของการแคะ แกะ โพรงจมูก ด้วยเล็บหรือนิ้ว การใช้ของแข็งแคะ หรือการกระแทกจากวัตถุภายนอกอื่น ๆ เช่น ลูกบอลพุ่งอัดเข้าที่หน้า หรือจมูกกระแทกเข้ากับของแข็ง บ้างก็เกิดจากอากาศที่เย็นและแห้งทำให้เยื่อบุโพรงจมูกแห้ง ทำให้หลอดเลือดฝอยแห้งแตกจนเลือดไหลออกมาได้เช่นกัน
เลือดกำเดาสามารถไหลได้หากความดันเลือดเพิ่มสูงขึ้นมากกว่าปกติ แม้ว่าโดยปกติแล้วเส้นเลือดของร่างกายเราจะสามารถรับมือกับความดันเลือดที่เพิ่มขึ้นได้ แต่สำหรับเส้นเลือดฝอยที่เคยแตกอยู่แล้ว เมื่อหายแล้วก็จะยังเป็นแผลเป็น ซึ่งหมายความว่าพื้นผิวบริเวณนั้นและหลอดเลือดเองมีความเปราะบางกว่าปกติ จึงไม่สามารถรับมือกับแรงดันเลือดที่เพิ่มขึ้นได้ ดังนั้น จะว่าไปแล้วคนที่เป็นโรคเกี่ยวกับความดันเลือดอย่างความดันโลหิตสูง เมื่อมีสิ่งกระตุ้นเร้าใด ๆ ที่ทำให้ความดันเลือดสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นปัญหาที่รุมเร้า ความเครียด การพักผ่อนไม่เพียงพอ ไขมันในเลือดสูง หรือแม้แต่การคิดจินตนาการ หรือการเห็นภาพวาบหวามหรือลามก ก็ล้วนแต่สามารถทำให้เกิดอาการเลือดกำเดาไหลได้ทั้งนั้น
อย่างไรก็ดีอาการเลือดกำเดาไหลเนื่องจากความดันโลหิตสูงไม่ใช่เรื่องปกติที่จะควรละเลยได้ เพราะเส้นเลือดฝอยที่อยู่ในร่างกายของเราไม่ได้มีอยู่แค่บริเวณโพรงจมูกเท่านั้น สมองของเราเองก็มีเส้นเลือดฝอยอยู่เป็นจำนวนมาก ดังนั้น หากเรามีความดันโลหิตสูงถึงขนาดทำให้เกิดอาการเลือดออกโพรงจมูกบ่อย ๆ แล้ว มันจึงเป็นสัญญาณอันตรายที่เตือนว่า มีโอกาสที่จะเกิดการแตกของเส้นเลือดฝอยในบริเวณอื่นของร่างกายอย่างสมองได้เช่นกัน
สำหรับวิธีการหยุดเลือดกำเดาไหลที่ถูกต้องไม่ใช่การเงยหน้าสูงและรอให้เลือดหยุด วิธีการนี้เป็นเพียงภาพจำผิด ๆ ที่อาจพบเห็นจากสื่อบางสื่อ แต่ความจริงคือหากคุณเงยหน้าขึ้น เลือดสามารถไหลย้อนลงหลอดอาหารและหลอดลมได้ มันจึงไม่ใช่วิธีที่ถูกต้อง สิ่งที่ควรทำคือปล่อยให้มันไหล บีบจมูกและก้มหน้าลงเล็กน้อย ซับเลือดที่ไหลออกมาด้านนอก ไม่ใช้วัตถุใด ๆ แหย่หรือยื่นเข้าไปเพื่อซับเพิ่มเติม และอาจใช้น้ำแข็งหรือเจลเย็นสำหรับลดไข้โปะบริเวณจมูก ความเย็นจะทำให้หลอดเลือดหดตัวและเลือดหยุดไหลได้เร็วขึ้น ระหว่างนี้ก็เปลี่ยนมาหายใจทางปากแทนไปชั่วคราว นอกจากนี้ ควรหยุดการสูบบุหรี่เพราะจะระคายเคืองและทำให้โพรงจมูกแห้ง และหยุดการพูดคุยเพื่อหลีกเลี่ยงการกระตุ้นให้เกิดอาการไอและจาม
อาการเลือดกำเดาไหลยังสามารถเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ ได้ด้วย เช่น ผลข้างเคียงจากยารักษาโรคบางชนิด การอักเสบภายในโพรงจมูก เนื้องอกในโพรงจมูก และความผิดปกติของหลอดเลือด ดังนั้น หากพบว่าเกิดอาการเลือดกำเดาไหลบ่อย ๆ โดยไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด สิ่งที่ควรทำคือการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในทันที เพราะอาจจะเป็นสัญญาณของโรคที่อันตรายกว่าได้ สรุปได้ว่า เลือดกำเดาไหลเป็นเรื่องธรรมชาติที่มีเหตุและผลรองรับ ไม่จำเป็นต้องกังวล นอกเสียจากคุณจะเกิดอาการนี้เป็นประจำและนั่นคือจุดที่ควรจะรู้ตัวและไปพบแพทย์นั่นเอง
ภาพปก : Shutterstock