โดยปกติในสภาพภูมิอากาศของเกาะฮาวายมะคาเดเมียจะเริ่มพัฒนาติดดอกในระยะที่วันเริ่มสั้นลงในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนธันวาคมและเป็นสถานที่ที่มีอุณหภูมิในช่วงกลางคืนต่ำกว่า ๑๘ องศาเซลเซียส จะเป็นช่วงที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการกระตุ้นตาดอกที่ยังอยู่ในระยะพักตัวต้องมีระยะเวลานานไม่น้อยกว่า ๓๐ วัน ตาดอกจึงพร้อมจะแตกตาออกเป็นช่อดอกได้ แต่ขณะเดียวกันในสภาพภูมิอากาศของประเทศออสเตรเลียช่วงอุณหภูมิที่เหมาะสมจะอยู่ระหว่าง ๑๑-๑๕ องศาเซลเซียส
สำหรับสภาพภูมิอากาศของประเทศไทยโดยเฉพาะบริเวณที่ปลูกมะคาเดเมียซึ่งอยู่เหนือเส้นละติจูดที่ ๑๖ องศาเหนือและความสูงอยู่เหนือระดับทะเลปานกลาง ๗๐๐-๑,๓๐๐ เมตร ปรากฏว่ามะคาเดเมียออกดอกเกือบตลอดทั้งปีโดยไม่ได้คำนึงถึงวันสั้นหรือวันยาว* ดังเห็นได้ที่สถานีทดลองเกษตรที่สูงทั่วไป เช่น ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรที่สูงเชียงราย (วาวี) ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียง ใหม่ (ขุนวาง) ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรที่สูงเพชรบูรณ์ (เขาค้อ) และมีช่วงที่ออกดอกดกอยู่ ๒ ช่วง คือ เดือนมกราคมถึงเดือนกุมภาพันธ์และเดือนกรกฎาคมถึงเดือนสิงหาคม ดังนั้นจึงเห็นได้ว่า อุณหภูมิที่ต่ำกว่า ๑๘ องศาเซลเซียสจะกระตุ้นให้เกิดตาดอกแม้ว่าพืชจะได้รับน้ำฝนเต็มที่ก็ตาม เมื่ออากาศเริ่มอุ่นขึ้นตาดอกก็จะยืดออกมาและพักตัวก่อนจะขยายเป็นช่อดอกประมาณ ๕๐-๙๖ วัน ขึ้นอยู่กับสภาวะอากาศแวดล้อมจากนั้นจะเริ่มแตกดอกประมาณ ๒๐๐ กว่าดอกต่อ ๑ ช่อ เมื่อดอกบานและได้รับการผสมพันธุ์เรียบร้อยแล้วก็จะเริ่มพัฒนาโดยปกติในช่อดอกหนึ่ง ๆ จะติดผลประมาณร้อยละ ๑-๗ เท่านั้น และดอกจะร่วงเป็นจำนวนมากหลังจากผสมเกสรแล้ว ๕-๖ สัปดาห์ อาจเกิดจากการที่มีอุณหภูมิสูงหรือแล้งทำให้ขาดน้ำ
โดยทั่วไปมะคาเดเมียจะมีระยะติดผลจนถึงผลแก่และร่วงจากต้นประมาณ ๖-๗ เดือน แต่ในสภาพพื้นที่ของประเทศไทยที่มีอากาศหนาวเย็น เช่น บนดอยที่ความสูงเหนือระดับทะเลปานกลาง ๑,๓๐๐ เมตรขึ้นไป พบว่ามีมะคาเดเมียบางพันธุ์ติดผลเป็นระยะเวลานานถึง ๑๐-๑๑ เดือน ดังนั้นจึงเห็นได้ว่าสภาวะแวดล้อมเฉพาะเป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งซึ่งจะต้องศึกษากันต่อไป อย่างไรก็ดีเป็นที่น่ายินดีว่าส่วนใหญ่พันธุ์ที่ใช้ปลูกกันในปัจจุบันถึงแม้จะปลูกที่ความสูงเหนือระดับทะเลปานกลาง ๗๐๐-๑,๓๐๐ เมตร แต่ก็ยังมีคุณภาพสูงและคุณภาพเนื้อในก็เทียบเท่ากับมาตรฐานสากล
ในช่วงที่มะคาเดเมียเริ่มพัฒนาตาดอกไปจนถึงผลแก่และเก็บเกี่ยว อาจแบ่งระยะใหญ่ ๆ ได้ ๓ ระยะ คือ
๑.ระยะก่อนออกดอกหรือพัฒนาตาดอก (๒ เดือน)
๒.ระยะเอ็นโดเฟิร์มเจริญเติบโต (๓ เดือนหลังจากออกดอก)
๓.ระยะสะสมน้ำมัน (oil accumulation) (๔ เดือนก่อนเก็บเกี่ยว)