การว่ายน้ำในสระ ไม่ว่าจะเพื่อผ่อนคลาย สนุกสนานกับเพื่อน หัดเรียนว่ายน้ำ หรือบำบัดอาการเจ็บปวดของกล้ามเนื้อและฝึกการทรงตัวในผู้ที่มีอาการบาดเจ็บล้วนเป็นสิ่งที่ดี เพราะน้ำช่วยพยุงตัวเราให้ไม่ต้องออกแรงมากเกินไป แต่รู้หรือไม่ว่ากิจกรรมทั้งหลายทั้งปวงที่เกิดขึ้นในสระน้ำนั้น ล้วนแต่มีความเสี่ยงและเป็นอันตราย เพราะแม้ว่าน้ำจะดูใสสะอาด แต่สิ่งปนเปื้อนหรือสารเคมีที่ใส่ลงไปในน้ำ กลับไม่ได้ทำให้น้ำสะอาดขึ้นได้มากนัก ทั้งยังอาจส่งผลต่อสุขภาพของคนที่ลงไปว่ายน้ำในสระอีกด้วย

เพียงแค่คิดว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของคุณบ้าง หลังจากขึ้นจากสระน้ำ เช่น ตาแดง ผิวแห้ง ผมกรอบ เท่านี้ น้ำในสระน้ำก็ไม่น่าจะดีต่อสุขภาพของคุณอีกต่อไป สำหรับบางคนการนั่งอยู่ริมสระน้ำที่เติมสารคลอรีนเพื่อฆ่าเชื้อโรค ก็อาจจะได้รับไอระเหยของคลอรีนและทำให้แสบตา หรือตาแดงได้แล้ว แล้วคนที่ลงไปว่ายในสระน้ำ ต้องสัมผัสกับน้ำและสิ่งปนเปื้อนรวมถึงคลอรีนโดยตรงล่ะ จะเป็นอย่างไร

สระว่ายน้ำโดยทั่วไปจะใส่คลอรีนลงไป จุดประสงค์ก็เพื่อฆ่าเชื้อโรค และควบคุมคุณภาพของน้ำให้ได้ตรงตามมาตรฐานของน้ำในสระว่ายน้ำที่ดี เหมาะสมในการว่าย คุณอาจจะคิดว่าหากคุณใส่แว่นตากันน้ำแล้วคงจะไม่ทำให้ตาแดง และหากไม่เผลอสำลักหรือกลืนน้ำเข้าไปก็คงปลอดภัยดี มีคำอธิบายและคำตอบที่สั้นกว่านั้น ที่อธิบายว่าทำไมตาของคุณถึงแดง มันไม่ใช่เพราะคลอรีนเพียงอย่างเดียว แต่มันยังเป็นเพราะปัสสาวะที่อยู่ในสระน้ำที่ทำให้ตาของคุณระคายเคือง ยังไม่รวมเหงื่อที่คุณอาจจะคิดไปเองว่า ดีจังว่ายน้ำเหงื่อไม่ออก ไม่เหนียวตัว แต่นั่นเพราะเหงื่อทั้งหมดละลายไปกับน้ำหมดแล้วต่างหาก ตาของคุณเป็นสัญญาณเตือนด่านแรกที่บอกคุณว่า น้ำในสระที่อยู่รอบตัวคุณนั้นสกปรกยิ่งกว่าอยู่ในห้องน้ำ สังเกตได้จากตาที่แดงก่ำ อาการระคายเคือง แสบตา และน้ำตาไหล

ตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดอาการระคายเคืองทั่วตัวของคุณ โดยเฉพาะบริเวณผิวหนังและดวงตาคือ สารที่มีชื่อว่า คลอรามีน (Chloramine) ที่มาจากการทำปฏิกิริยาระหว่างคลอรีน (Chlorine) ที่ถูกเติมลงไปในสระน้ำ กับสารประกอบแอมโมเนียรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วก็คือของเหลวที่ปล่อยออกมาจากร่างกายเรา ทั้งเหงื่อและปัสสาวะ ดังนั้น จะว่ากันตามตรง คลอรีนเองไม่ได้ทำให้ตาแดง แต่เป็นผลที่ได้จากการทำปฏิกิริยาระหว่างคลอรีนกับของเหลวจากร่างกายต่างหาก นอกจากนั้นหากคุณคิดว่า การใส่คลอรีนลงในสระในปริมาณที่มากพอจะฆ่าเชื้อโรคได้ ก็อาจจะต้องคิดใหม่ เพราะจริง ๆ แล้วกลิ่นแสบจมูกสำหรับบางคน ซึ่งส่วนใหญ่คิดว่าเป็นกลิ่นคลอรีนกลับเป็นกลิ่นของคลอรามีน นั่นหมายความว่าคลอรีนที่ใส่ลงไปได้ทำปฏิกิริยากับสารประกอบแอมโมเนียไปหมดแล้ว จึงเหลือคลอรีนเพื่อทำหน้าที่ฆ่าเชื้อโรคในสระน้ำจริง ๆ เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ถึงตรงนี้ยังมีใครคิดว่าสระน้ำที่มีกลิ่นฉุนแสบจมูก คือสระน้ำที่ใส่คลอรีนลงไปในปริมาณมาก และน่าจะสะอาดกว่าสระอื่นอีกไหม หรือว่าการว่ายน้ำในสระที่ไม่มีคลอรีนก็อาจจะดีกว่า เพราะนอกจากคลอรามีนอาจจะทำให้แสบจมูกแล้ว มันยังอาจทำให้ปากแตก ปากแห้ง แสบคอ เกิดการระคายเคือง ผิวหนังและเซลล์เยื่อบุต่าง ๆ แห้งและอักเสบได้ เพราะคุณสมบัติในการดึงน้ำออกจากเซลล์ของมัน นอกจากนี้ยังเสี่ยงต่อการติดเชื้อด้วย และด้วยเหตุผลนี้เองทำให้เรามีสระน้ำเกลือ ซึ่งเลียนแบบการว่ายน้ำในทะเล มีการใช้เกลือเพื่อฆ่าเชื้อโรคแทนคลอรีน แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะสะอาดมากนัก เพราะยังมีบางคนปัสสาวะลงในสระน้ำ และแน่นอนว่าเหงื่อก็ยังคงละลายอยู่ในสระอยู่นั่นเอง อีกครั้งที่ความคิดเรื่องสระน้ำคลอรีนหรือสระน้ำเกลือต่างก็ไม่ได้ปลอดภัย ในทุกครั้งที่ลูกหลานของใครลงว่ายน้ำ หรือถ้ากำลังป่วย ภูมิคุ้มกันไม่ดี ก็ควรจะต้องระวังเอาไว้บ้าง