ละครชาตรีนิยมนำบทละครนอกและละครพันทางมาแสดงโดยแปลงบทให้เหมาะกับการแสดงละครชาตรี วิธีแปลงบทคือนำเค้าโครงเรื่องเดิมมาปรับแทรกบทบริภาษและบทตลกให้มากขึ้นโดยแต่งเป็นบทกลอนเรียงร้อยให้เข้ากับบทเดิม สำหรับกลอนบทละครสำนวนเดิมที่มีศัพท์สูง ๆ ก็ปรับให้เป็นศัพท์ธรรมดาที่เข้าใจได้ง่ายแต่คงใจความเดิมเอาไว้ สำหรับบทบริภาษและบทตลกนั้นมักเป็นบทที่คณะละครชาตรีถ่ายทอดกันมาเป็นชุดหรือเป็นสำรับโดยนำมาบรรจุลงไว้ในตอนที่เหมาะสม เรื่องและตอนของละครนอกที่ละครชาตรีนิยมนำมาแสดง ได้แก่ สังข์ทองตอนเลือกคู่ ไชยเชษฐ์ตอนนางสุวิญชาถูกขับไล่ สังข์ศิลป์ชัยตอนเสนากุฎเข้าเมือง คาวีตอนท้าวสันนุราชชุบตัว ไกรทองตอนวิมาลาตามไกรทองมาจากถ้ำ และจากละครพันทางที่นิยมแสดงกันคือเรื่องพระอภัยมณีตอนหนีผีเสื้อสมุทร
การดำเนินเรื่องพระอภัยมณี ตอนหนีผีเสื้อสมุทร ตามแนวทางการแสดงละครชาตรีของคณะปทุมศิลป์ จังหวัดเพชรบุรี ตัวอย่างโดยย่อดังนี้
พระอภัยมณีถูกขังอยู่ภายในถ้ำของนางผีเสื้อสมุทรโดยมีสินสมุทรบุตรชายอยู่เป็นเพื่อน สินสมุทรมีพละกำลังสามารถพังปากถ้ำออกไปจับม้านิลมังกรเป็นฉากตลกสนุกสนานเมื่อเด็กซุกซนอย่างสินสมุทรสนใจศึกษารูปร่างอันแปลกประหลาดของม้านิลมังกร พระอภัยมณีตกใจที่สินสมุทรออกไปนอกถ้ำได้จึงให้สินสมุทรปิดปากถ้ำไว้ตามเดิมเมื่อนางผีเสื้อสมุทรกลับมาจากการล่าสัตว์เป็นอาหาร ก็แปลงกายเป็นหญิงงามและยั่วยวนพระอภัยมณีอย่างสนุกสนาน จากนั้นนางฝันร้ายพระอภัยมณีจึงออกอุบายให้นางไปจำศีลแล้วหนีออกจากถ้ำไปพร้อมกับสินสมุทรด้วยการช่วยเหลือของนางเงือก ฉากการไล่จับและการหนีของนางยักษ์กับนางเงือกก็ตื่นเต้นสนุกสนานด้วยการวางแผนหลอกล่อนางยักษ์ของเงือกไปจนถึงเกาะแก้วพิสดารและที่เกาะก็มีตัวละครชาติต่าง ๆ มาออกมุกตลกที่เรียกว่าออกภาษากับพระฤษีที่จำศีลอยู่บนเกาะ จากนั้นเป็นบทโอ้โลมระหว่างพระอภัยมณีกับนางเงือก ตัวละครที่ออกภาษาพากันออกมุกสงสัยในบทสังวาสกันอย่างครึกครื้น ฉากจบเป็นการทำ คลอดสุดสาครที่เกิดจากนางเงือก ตัวละครออกภาษาพากันเกี่ยงที่จะช่วยเป็นหมอตำแยและปรึกษาหาวิธีช่วยกันทำคลอด มุกตลกต่าง ๆ เหล่านี้ไม่มีในบทพระอภัยมณีของเดิมคณะละครชาตรีเพิ่มเติมขึ้นเพื่อให้สนุกสนาน
เรื่องย่อของบทละครนอกที่ละครชาตรีนิยมนำมาแสดง คือ
พระไชยเชษฐ์ขับนางสุวิญชาออกจากเมือง เมื่อนางสนมทั้งเจ็ดทูลความเท็จว่านางสุวิญชาคลอดพระโอรสเป็นท่อนไม้ นางวิฬาร์ (นางแมว) จึงพาไปขุดพระโอรสที่นางสนมทั้งเจ็ดฝังเอาไว้แล้วเดินทางกลับเมือง เมื่อท้าวสิงหลยักษ์ที่เป็นบิดาเลี้ยงของนางได้ทราบเรื่องที่เกิดขึ้นจึงกริ้วจะยกทัพไปจับพระไชยเชษฐ์แต่นางสุวิญชาห้ามไว้
พระธิดาของท้าวสามลทั้งเจ็ดออกเลือกคู่ตามคำสั่งของท้าวสามลจึงมีกษัตริย์หนุ่มต่างเมืองมาร่วมพิธีกันมากมาย ในตอนนี้มีการใช้เพลงออกภาษาสำหรับกษัตริย์แต่ละชาติและสอดแทรกบทตลกต่าง ๆ ล้อเลียนภาษาของชาตินั้น ๆ
เมื่อพระธิดาทั้งหกเลือกคู่ได้แล้วยังเหลือพระธิดาองค์สุดท้องคือ รจนาที่ยังเลือกคู่ไม่ได้และคนเดียวที่ยังไม่ได้มาคือเจ้าเงาะ ท้าวสามลจึงให้เหล่าเสนาไปพาเจ้าเงาะมา รจนาเสี่ยงพวงมาลัยให้เจ้าเงาะทำให้ท้าวสามลเป็นลม ความสนุกของตอนนี้อยู่ที่เหล่าเสนาที่ไปหลอกล่อเจ้าเงาะมา
เริ่มเรื่องจากสังข์ศิลป์ชัยพาท้าวเสนากุฎไปหานางปทุมผู้เป็นมารดาในเมืองที่พระอินทร์เนรมิตให้ท้าวเสนากุฎตื่นตาตื่นใจกับเมืองเนรมิตเป็นตอนที่สนุกมากตอนหนึ่งซึ่งมีบทตลกต่าง ๆ แทรกอยู่
หลังจากที่ไกรทองฆ่าชาละวันหัวหน้าจระเข้ตายและได้นางวิมาลาเป็นภรรยา ไกรทองร่ายคาถาเอายันต์ปิดศีรษะนางวิมาลาให้กลายเป็นมนุษย์แล้วพาขึ้นมายังเมืองมนุษย์ เกิดหึงหวงกับนางตะเภาแก้วและตะเภาทองจนนางวิมาลาต้องกลับลงไปยังถ้ำกลายร่างเป็นจระเข้ดังเดิม
นางยอพระกลิ่นซึ่งแปลงกายเป็นพราหมณ์ได้ช่วยชีวิตนางจันทเทวีไว้ ท้าวพิชัยนุราชจะปูนบำเหน็จตอบแทนแต่พราหมณ์ทูลขอเป็นข้าติดตามพระมณีพิชัย ท้าวพิชัยนุราชและนางจันทเทวีจำใจยอม พระมณีพิชัยสงสัยว่าพราหมณ์จะเป็นชายาของตนชื่อยอพระกลิ่นแปลงกายมาจึงหาทางพิสูจน์ด้วยวิธีต่าง ๆ
ท้าวสันนุราชได้นางจันทสุดามาเป็นมเหสีแต่นางไม่ยินยอม ท้าวสันนุราชคิดว่าเป็นเพราะตนเองแก่จึงประกาศหาผู้วิเศษมาชุบตัวให้เป็นหนุ่ม หลวิชัยซึ่งปลอมเป็นฤษีเดินทางตามหานางจันทสุดา จึงรับอาสาทำพิธีก่อกองไฟให้ชุบตัว เมื่อท้าวสันนุราชเผลอก็ผลักเข้ากองไฟแล้วให้คาวีออกจากย่ามมาช่วยนางจันทสุดา