ใช้อธิบายความรู้สึกปวดอวัยวะทั่วไปในร่างกาย เช่น ฉันปวดหัว
I’ve got an ache in my head. ใช้ ache เป็นคำนาม (ฉันมีความปวดที่หัว)
I’ve got headache. เขียน ache ติดกับอวัยวะที่ต้องการบอก
My head aches. (หัวฉันปวด) ใช้ ache เป็นคำกริยา
*สังเกตว่า ache เติม s เพราะผันตามประธาน head ที่เป็นเอกพจน์บุรุษที่ 1
แฝดคนละฝากับ ache ในขณะที่ ache เป็นอาการปวดแบบยังทนได้ ไม่แรงมาก pain จะรุนแรงและฉับพลันมากกว่า
I’ve got a pain in my back. (ฉันมีอาการปวดที่หลัง)
ความรุนแรงของ Pain มีหลายแบบและหลายระดับ ดังนั้นวิธีการอธิบายมีดังนี้
Dull pain ปวดมวน ๆ ปวดตึง ๆ
I have a dull pain in my stomach.
Throbbing pain ปวดตุบ ๆ
I have a throbbing pain in this tooth.
Sharp pain ปวดจี๊ด
I have a sharp pain in my left breast.
Stabbing pain ปวดแปลบ ๆ (เหมือนเข็มแทง)
I have a stabbing pain in my lower back.
นิยมใช้เป็นคำกริยา แปลว่า เจ็บ บอกถึงอาการเจ็บทั่ว ๆ ไป
My feet hurt. (เท้าฉันเจ็บ)
My back hurts. (หลังฉันเจ็บ)
My stomach is hurting. (ท้องฉันเจ็บอยู่ตอนนี้)
hurt ยังแปลว่าทำให้เจ็บหรือบาดเจ็บ และยังใช้เป็น Adjective แปลว่า เจ็บหรือบาดเจ็บ ได้อีกด้วย เช่น
I hurt my legs. (ฉันทำขาตัวเองเจ็บ)
My legs are hurt. (ขาฉันเจ็บ)
I went to the gym and hurt my muscles. (ฉันไปยิมมาและทำให้กล้ามเนื้อฉันบาดเจ็บ)
ถ้าเอาทั้ง ache และ pain มารวมกัน มันจะกลายเป็นสำนวน aches and pains แปลว่า เจ็บเล็กเจ็บน้อย เป็นนั่นเป็นนี่ (โรคหรือความไม่สบายตัว) เช่น
Her 90-year-old grandfather complains about all the aches and pains he has at his age!
(ปู่ของหล่อนที่อายุ 90 ปีบ่นเกี่ยวกับการเป็นโรคนั้นโรคนี้ ณ ตอนอายุขนาดนี้!)