เด็ก ๆ เคยมีเพื่อนเป็น "เด็กออทิสติก" บ้างไหม เด็กออทิสติกมีรูปร่างหน้าตาเป็นปกติเหมือนเด็กทั่ว ๆ ไปแต่จะชอบแยกตัวอยู่คนเดียวเพราะเขาเล่นกับเด็กคนอื่นไม่เป็น บางคนซุกซนวิ่งไปวิ่งมา กระโดดส่งเสียงดังอยู่คนเดียวโดยไม่สนใจผู้อื่น เด็กออทิสติกไม่ค่อยหันหาเสียงเรียกของคุณครูหรือเพื่อน ๆ ไม่สนใจที่จะมองหน้าคนที่พูดกับเขา จะเห็นว่าเขาไม่ชอบมองสบตากับใครถ้าสนใจเขาจะมองเพื่อน ๆ โดยการเหล่ตามองเป็นส่วนใหญ่
เด็กออทิสติกส่วนมากไม่ชอบให้ใครไปจับต้องตัวเขาแต่เขาจะเป็นฝ่ายจับมือคนที่อยู่ใกล้ ๆ เขาเพื่อให้ทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่เขาต้องการ บางครั้งเด็กออทิสติกก็อยากมีเพื่อน อยากทักทายเพื่อน เล่นกับเพื่อนแต่เขาไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร อาจจะเข้ามาตีมาผลักหรือวิ่งชนเพื่อนจนเพื่อนนึกว่าเด็กออทิสติกมารังแกหรือเล่นกับเพื่อนไม่เป็นอาจจะหยิบสิ่งของของเพื่อนแล้ววิ่งหนีเพื่อให้เพื่อนไล่จับ เด็กออทิสติกบางคนจะพูดเลียนคำถามของคุณครูหรือคำพูดของเพื่อน ตอบคำถามไม่ถูกต้องเพราะเขาเข้าใจอะไรยากและพูดคุยกับใครไม่เป็นเขาจึงชอบพูดคนเดียว บางครั้งเขาก็พูดภาษาที่เพื่อนฟังไม่เข้าใจชอบพูดเรื่องซ้ำ ๆ ที่เขาชอบ เด็กออทิสติกมีหน้าตาเฉยเมยแต่บางครั้งจะหัวเราะหรือร้องไห้ไม่สมเหตุสมผล เช่น หัวเราะเมื่อเห็นเพื่อน ๆ ถูกครูดุ เขาจะไม่รู้ว่าเพื่อนกำลังไม่สบายใจเพราะเขาไม่เข้าใจเรื่องการแสดงออกทางอารมณ์ของคน อย่างไรก็ตามเด็กออทิสติกจะมีความสามารถพิเศษในด้านความจำ คิดเลขเก่ง วาดรูปเก่ง ถ้าเด็ก ๆ มีเพื่อนเป็นเด็กออทิสติกควรให้ความช่วยเหลือเขาเป็นเพื่อนกับเขาสอนให้เขาเล่นกับเพื่อน ๆ ไม่ล้อเลียนหรือรังแกเขาเพราะเขาจะสู้คนไม่เป็นไม่รู้จักหลีกเลี่ยงจากอันตรายต่าง ๆ ถ้าเขามีเพื่อนที่ดีเขาก็จะมีความสุขและสามารถเรียนร่วมกับเพื่อนได้เหมือนเด็กปกติทั่วไป
เด็กออทิสติกจัดอยู่ในกลุ่มเด็กพิเศษเด็กพิเศษ หมายถึง เด็กที่ต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติมจากเด็กอื่นเพื่อให้เด็กเหล่านี้เรียนหนังสือและใช้ชีวิตร่วมกับเด็กอื่นได้ เด็กพิเศษมีหลายกลุ่ม เช่น เด็กสมาธิสั้น เด็กหูหนวก เด็กตาบอด เด็กปัญญาอ่อน เด็กออทิสติก เด็กพิเศษทุกคนจำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือจากครู แพทย์ พยาบาล พ่อ แม่ และเพื่อนในชั้นเรียน การได้รับความช่วยเหลือจะทำให้เด็กพิเศษเหล่านั้นมีความสุขและไม่เป็นภาระต่อครอบครัว เด็กออทิสติกเป็นเด็กที่ครอบครัวต้องรับภาระอย่างมากเพราะเด็กออทิสติกมีปัญหาหลายอย่าง เดิมไม่มีใครสนใจที่จะช่วยเหลือเด็กเหล่านี้เขาจึงถูกปล่อยให้เติบโตอย่างมีความบกพร่องเมื่อเป็นเด็กโตหรือผู้ใหญ่อาการก็จะมากเข้าขั้นปัญญาอ่อนอย่างรุนแรง ปัญหาของเด็กออทิสติกมีหลายอย่างที่สำคัญ ๆ คือ เด็กออทิสติกมีปัญหาทางสังคมจะเล่นกับคนอื่นไม่เป็นไม่รู้วิธีเล่นเขาอาจจะเข้ามาตีคนอื่นทั้งที่อยากจะทักทายหรือเล่นด้วย เด็กเหล่านี้มักพูดตรง ๆ ตามที่เขาคิดบางคนไม่เข้าใจว่าสิ่งที่เขาพูดอาจจะทำให้คนอื่นขำหรือไม่ชอบใจถ้าคนใกล้ชิดไม่เข้าใจก็จะไม่พอใจได้
นอกจากเด็กออทิสติกจะเล่นกับคนอื่นไม่เป็นทั้งที่อยากเล่นแล้ว เด็กหลายคนก็จะไม่อยากเล่นหรือติดต่อกับใคร ชอบอยู่คนเดียว เล่นอะไรอยู่คนเดียว ไม่พูดคุยกับใคร การเล่นของเด็กออทิสติกมักดูแปลก ๆ เขาจะเล่นของเล่นไม่ถูกวิธี เช่น แทนที่จะเอารถมาเข็นก็กลับเล่นหมุนล้อรถแทนหรือบางทีก็เอาของเล่นมาเรียงต่อกันให้เป็นแนวโดยไม่มีใครรู้ว่าเขาต้องการอะไร ไม่เพียงแต่จะเล่นของเล่นหรือเล่นกับคนอื่นไม่เป็น เด็กออทิสติกยังไม่ค่อยมองหน้าสบตาคนอื่นเวลาพูดคุยหรือเจอะเจอใครเด็กออทิสติกจะไม่มองหน้าหรือหันหน้าหนีเวลาคุยด้วยบางทีดูคล้ายตื่นเต้นหรือไม่ค่อยมีมารยาท ตอนยังเป็นเด็กเด็กออทิสติกจะไม่รู้จักกอดหรือหอมผู้ใหญ่ซึ่งต่างจากเด็กทั่วไปที่ชอบให้ผู้ใหญ่อุ้ม แต่เด็กออทิสติกไม่ชอบให้ใครอุ้มบางคนเหมือนกลัวการมีคนมากอด นอกจากสมาคมกับใครไม่เป็นแล้วเด็กออทิสติกยังมีปัญหาการพูดที่เป็นมาก ๆ จะพูดไม่ได้แม้จะรักษาจนรู้จักเข้าสังคมกับคนอื่นก็ยังพูดไม่ได้ ส่วนคนที่พูดได้ก็ไม่รู้จักกาลเทศะจะพูดโดยไม่รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเราอาจพูดจาโผงผางเหมือนขวานผ่าซากคิดอะไรก็พูดออกมาอย่างนั้น ภาษาของเด็กออทิสติกส่วนมากจะฟังแปลก ๆ อาจใช้คำไม่ถูกต้องหรือใช้ประโยคผิด
เด็กออทิสติกตอนเล็ก ๆ มักพูดได้ช้ากว่าคนอื่น ก่อนจะพูดได้บางคนจะมีภาษาส่วนตัวส่งเสียงที่คนอื่นฟังไม่รู้เรื่องเมื่อได้รับการรักษาหลายคนก็ดีขึ้นแต่ด้วยความที่เขาไม่ชอบสมาคมกับคนอื่นจึงมักไม่พูดกับใคร เด็กออทิสติกส่วนใหญ่จะพูดได้ก็ต่อเมื่ออายุมากแล้ว นอกจากไม่สมาคมกับคนอื่นและมีปัญหาเรื่องการสื่อสารแล้วยังชอบทำอะไรซ้ำ ๆ ซาก ๆ ผิดไปจากเด็กอื่น เช่น กินอาหารซ้ำอย่างเดิม เดินทางบนเส้นทางเดิม ๆ ความซ้ำซากของเด็กออทิสติกจะมีมากจนดูแปลกและมักเป็นปัญหากับคนรอบข้างหลายคนแทนที่จะทำอะไรซ้ำซากกลับทำท่าทางแปลก ๆ เช่น กระโดด ๆ สะบัดมือไปมา เล่นมือ เล่นหัว จากที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่าอาการแปลก ๆ มีหลายอย่างแต่พอจะจัดเป็นกลุ่ม ๆ ได้ ๓ กลุ่ม คือ กลุ่มที่มีปัญหาในการเข้าสังคมกับคนอื่น กลุ่มที่มีปัญหาในการสื่อสาร และกลุ่มที่มีพฤติกรรมที่ซ้ำซากหรือท่าทางแปลก ๆ
สมัยก่อนเด็กออทิสติกไม่ได้รับการรักษาทำให้ไม่สามารถเรียนหนังสือและใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นได้ แต่ปัจจุบันเด็กออทิสติกจำนวนมากได้รับการช่วยเหลือและรักษาจนสามารถเข้าเรียนในโรงเรียน และใช้ชีวิตร่วมกับคนอื่นได้ สิ่งที่เด็กออทิสติกต้องการมากที่สุด คือ ความเข้าใจและความเห็นใจหลายสิ่งหลายอย่างที่เขาทำอาจทำให้คนอื่นไม่พอใจหรือไม่เข้าใจแต่เขาไม่ได้มีเจตนาจะทำไม่ดีกับใคร ทั้งหมดเป็นไปเพราะเขาไม่สบายจึงไม่เข้าใจว่าสิ่งที่เขาทำคนอื่นจะรู้สึกอย่างไร หากคนในสังคมทั้งผู้ใหญ่และเด็กให้ความเมตตาใกล้ชิดติดต่อสื่อสาร สั่งสอน และให้อภัย เด็กออทิสติกก็จะใช้ชีวิตได้อย่างปกติและมีความสุข