Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

นาโนอิเล็กทรอนิกส์และนาโนคอมพิวเตอร์

Posted By Plookpedia | 20 พ.ค. 60
4,667 Views

  Favorite

นาโนอิเล็กทรอนิกส์และนาโนคอมพิวเตอร์

      อิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์เป็นเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องและสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิดเพราะคอมพิวเตอร์ทำงานด้วยวงจรอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งมีส่วนประกอบสำคัญ คือ ทรานซิสเตอร์ (transistor) คอมพิวเตอร์ในยุคแรก ๆ มีขนาดใหญ่มากประมาณเท่าขนาดห้องแต่เมื่อระบบอิเล็กทรอนิกส์พัฒนาขึ้นทำให้คอมพิวเตอร์มีขนาดเล็กลงเรื่อย ๆ จนปัจจุบันมีขนาดเล็กเท่าฝ่ามือแต่มีประสิทธิภาพที่ดีกว่าเดิมหลายพันเท่าทั้งในแง่ของความเร็ว ความเสถียร และความจุของหน่วยความจำ

 

นาโนเทคโนโลยี
คอมพิวเตอร์เครื่องแรกของโลก ชื่อ ENIAC ที่มีขนาดเท่าห้องเรียน
สร้างโดย จอห์น มอชลีย์ (John Mauchley) และจอห์น เพรสเพอร์ เอกเกิร์ต (John Presper Eckert) เมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๐

 

      ตัวบ่งชี้สำคัญที่สะท้อนถึงศักยภาพหรือความก้าวหน้าของคอมพิวเตอร์ คือ จำนวนทรานซิสเตอร์ที่ถูกเชื่อมต่อประสานกันเข้าเป็นระบบวงจรรวม (integrated circuit หรือ IC) ระบบวงจรรวมนี้มีลักษณะเป็นแผ่นรูปเหลี่ยมและมีขาจำนวนมาก มักเรียกตามลักษณะรูปร่างว่า ชิป (chip) กอร์ดอน มัวร์ (Gordon Moore) นักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกันเป็นบุคคลหนึ่งที่ร่วมก่อตั้งบริษัทอินเทลซึ่งผลิตระบบวงจรรวมที่ให้ทำงานในเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ให้คำทำนายแนวโน้มจนเป็นที่รู้จักกันในชื่อว่า กฎของมัวร์ โดยกล่าวว่าจำนวนทรานซิสเตอร์ต่อแผ่นชิปจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น ๒ เท่าทุก ๆ หนึ่งปีครึ่งซึ่งการเปลี่ยนแปลงของจำนวนทรานซิสเตอร์ตามเวลาเป็นไปตามกฎของมัวร์ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและน่าจะยังคงเป็นจริงไปอย่างน้อยในช่วง ๑๐ ปี ต่อจากนี้ประเด็นที่เป็นปัญหาเนื่องจากการผลิตแบบเดิมหรือแบบไมโครอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งมีขีดจำกัดและจะทำให้กฎของมัวร์ไม่เป็นจริงตลอดไปถ้าไม่มีการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่เข้ามา กล่าวคือหากต้องการที่จะพัฒนาคอมพิวเตอร์ตามกฎของมัวร์ก็จะต้องอัดทรานซิสเตอร์จำนวนมากลงในเนื้อที่จำกัด โดยย่อขนาดทรานซิสเตอร์ให้เล็กลงมากที่สุดและอัดให้ชิดกันอย่างเต็มที่รวมทั้งต้องให้ทำงานอย่างถูกต้องแม่นยำแต่จะมีปัญหา คือ ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบันไม่สามารถสร้างแบบวงจรที่มีขนาดเล็กตามที่ต้องการได้และแม้จะสร้างได้ก็ไม่สามารถควบคุมเรื่องความแม่นยำ  ด้วยเทคโนโลยีที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันดังนั้นความเป็นไปได้ในอนาคตของวงการอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ คือ นาโนอิเล็กทรอนิกส์และนาโนคอมพิวเตอร์ โดยอาศัยหลักการพื้นฐานของนาโนเทคโนโลยีในการผลิต คือ การจัดเรียงโมเลกุลอย่างแม่นยำ และจำกัดจำนวนอะตอมที่เป็นส่วนประกอบของทรานซิสเตอร์ให้น้อยที่สุด

 

นาโนเทคโนโลยี
การพัฒนาคอมพิวเตอร์ให้มีขนาดเล็กลงเรื่อย ๆ โดยเริ่มจากคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ
มาเป็นแบบพกพาและเป็นแบบที่ใช้วัสดุนาโน เช่น ท่อนาโน ซึ่งอาจมีขนาดเล็กเท่าปลายนิ้ว

 

      ผลจากการปฏิวัติทางด้านนาโนอิเล็กทรอนิกส์และนาโนคอมพิวเตอร์อาจก่อให้เกิดเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการคำนวณและการประมวลผลระบบใหม่ซึ่งเชื่อว่าอาจมีศักยภาพที่จะเป็นระบบทางเลือกใหม่ในอนาคตได้ เช่น นาโนคอมพิวเตอร์เชิงกล (mechanical nanocomputer) ซึ่งอาศัยพื้นฐานการทำงานของชิ้นอุปกรณ์เกียร์และเฟืองขนาดนาโนเป็นหลัก ส่วนนาโนคอมพิวเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ (electronic nanocomputer) มีหลักการสำคัญ คือ ออกแบบให้เป็นคอมพิวเตอร์ที่ใช้ชิ้นส่วนองค์ประกอบที่เล็กมาก ๆ และทำงานโดยใช้กระแสไฟฟ้าและแรงดันไฟฟ้าให้น้อยที่สุดรวมไปถึงการปรับสภาวะในวงจรให้มีการใช้จำนวนอิเล็กตรอนน้อยที่สุดด้วย นอกจากนั้นวัสดุที่นำมาใช้ต้องออกแบบให้เป็นวัสดุที่สามารถปรับสภาพเป็นรูปทรงต่าง ๆ ได้ง่าย เช่น สารอินทรีย์พวกพอลิเมอร์ หรือท่อนาโนคาร์บอนนำมาใช้แทนสารอนินทรีย์พวกซิลิคอน นอกจากนี้ยังมีนาโนคอมพิวเตอร์ดีเอ็นเอ (DNA nanocomputer) อาศัยดีเอ็นเอซึ่งเป็นสารพันธุกรรมและทำงานโดยผ่านกระบวนการของปฏิกิริยาเชิงไฟฟ้าทางชีวเคมีส่งผลให้เกิดการสร้างรหัสและถอดรหัสของข้อมูลรวมทั้งนาโนคอมพิวเตอร์เชิงควอนตัม (quantum nanocomputer) ซึ่งใช้หลักการของกลศาสตร์ควอนตัม
      ในอนาคตระบบคอมพิวเตอร์จะพัฒนาไปเป็นรูปแบบใดยังไม่สามารถระบุอย่างชัดเจนได้ ในขณะนี้อาจจะเป็นการผสมผสานของนาโนคอมพิวเตอร์ดังที่ได้กล่าวมาข้างต้นจุดประสงค์หลักของการพัฒนานาโนคอมพิวเตอร์ คือ ต้องการระบบที่มีการคำนวณอย่างแม่นยำและเชื่อถือได้ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ รวดเร็วและน่าจะเป็นระบบที่ทำงานคล้ายระบบประสาทหรือฉลาดรู้จักคิดแบบปัญญาประดิษฐ์ (artificial intelligence) ทำให้รู้จักตัดสินใจประเมินสถานการณ์และที่สำคัญคือสามารถแก้ไขข้อผิดพลาดได้เองหรือเตือนให้ผู้ดูแลทราบ  ผลจากความสำเร็จในการพัฒนานาโนอิเล็กทรอนิกส์และนาโนคอมพิวเตอร์จะส่งเสริมให้เกิดการแข่งขันเพื่อพัฒนาการสร้างหุ่นยนต์ที่มีศักยภาพใกล้เคียงหรือเหนือกว่ามนุษย์ทั้งทางกายภาพและความคิด 

 

นาโนเทคโนโลยี
กราฟแสดงการเปลี่ยนแปลงของจำนวนทรานซิสเตอร์ตามเวลาซึ่งเป็นไปตามกฎของมัวร์
จะเห็นได้ว่าแนวโน้มศักยภาพของคอมพิวเตอร์ มีการเพิ่มขึ้น ๒ เท่า ในทุก ๆ ๑๘ เดือน
นาโนเทคโนโลยี
แสดงการทำงานของเกียร์นาโนและเฟืองนาโน
ซึ่งใช้เป็นส่วนประกอบหลักในนาโนคอมพิวเตอร์เชิงกล

 

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
  • Posted By
  • Plookpedia
  • 15 Followers
  • Follow